Ray Dalio เป็นผู้ก่อตั้งและบริหารกองทุน Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกองทุนหนึ่งตั้งแต่ปี 1975 หรือประมาณ 45 ปีมาแล้ว เวลานี้เขาอายุประมาณ 70 ปีและน่าจะเริ่มเกษียณจากงานหลักแต่ก็ยัง Active หรือยังทำงานคึกคักและเป็นที่ปรึกษาและให้ความเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและความเป็นไปของโลกรวมถึงการเขียนหนังสือให้ความรู้จากประสบการณ์ในชีวิตของตนเองในฐานะของนักลงทุนและผู้บริหารกองทุนที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ว่าที่จริงตอนนี้เขาดังกว่าตอนเป็นผู้บริหารมาก ส่วนหนึ่งจากการที่เริ่มเขียนหนังสือที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลกโดยเฉพาะหนังสือที่ชื่อว่า “Principles: Life and Work” ที่บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตและการทำงานของตนเองที่ประสบความสำเร็จว่ามาจากการใช้หลักการต่าง ๆ ที่เขาพัฒนาขึ้นมาตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดถึงหลักการการลงทุนซักเท่าไร ซึ่งทำให้นักลงทุนแบบ VI รวมถึงผมก็ยังไม่รู้ว่าเคล็ดหรือหลักการลงทุนของเขาเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเขาไม่ใช่นักลงทุนแนว “VI พันธุ์แท้” แบบบัฟเฟตต์หรืออีกหลายคนที่เป็นไอดอลของสาวก VI ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าหนังสือ “หลักการการลงทุนของ Dalio” คงจะออกมาในไม่ช้า
Dalio เป็นคนที่เชื่อว่า Principles หรือหลักการนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำเราสู่ความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน เราต้องการสิ่งใดก็จะสามารถได้ดังหวังด้วยหลักและวิธีการต่าง ๆ ที่เราจะกำหนดหรือสร้างขึ้นมาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปเรื่อย ๆ มันเป็น “กระบวนการ” ที่เขาเรียนรู้จากชีวิตการทำงานและกลายเป็น “สูตรสำเร็จ” และเขาเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนมีหลักการที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ เขาเองบอกว่าความสำเร็จของเขานั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากตนเอง แต่มาจาก “หลักการ” ที่เขาใช้ซึ่งเขาเปิดเผยหรือบอกเล่าในหนังสือที่เขาเขียน
ข้อแรก คือ ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะทำอะไร และสอง ต้องกล้าที่จะทำมัน ในการนี้คุณจะต้องคิดด้วยตนเองในขณะที่มีใจเปิดกว้างที่สุดที่จะรับความคิดเห็นจากคนอื่น เราจะต้องมองว่าเวลานั้นเหมือนกับสายน้ำในแม่น้ำที่พาเราไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไปประสบกับความเป็นจริงที่ทำให้เราต้องตัดสินใจ เราหยุดมันไม่ได้และเราก็หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเข้ามาไม่ได้ ที่จะทำได้ก็คือการที่เราจะต้องเผชิญกับมันอย่างดีที่สุด ในชีวิตของเรา เราต้องเผชิญสิ่งต่าง ๆ เป็นล้าน ๆ และต้องตัดสินใจในจำนวนที่เท่ากัน คุณภาพของการตัดสินใจจะเป็นตัวที่กำหนดคุณภาพชีวิตของเรา ถ้าเราตัดสินใจถูกเราก็ได้รับผลตอบแทน ตัดสินใจผิด เราก็เจ็บ
การตัดสินใจแต่ละครั้งนั้นจะช่วยสอนให้เราเรียนรู้ว่าคราวต่อไปเราจะต้องทำอย่างไร ครั้งแรก ๆ เราก็มักจะพลาด แต่ถ้าเราเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ การตัดสินใจก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ การคิดในเรื่องนี้ดาลิโอบอกว่าเราจะต้องมีหลักการพื้นฐานที่สำคัญก็คือ จะต้องรู้ว่าอะไรคือ “ความจริง” เพราะความจริงคือสิ่งที่สำคัญที่สุดและจำเป็นต้องใช้ในการตัดสินใจที่ถูกต้อง ความจริงที่ว่านี้จะต้องเป็น “กฎของธรรมชาติ” ไม่ใช่ความเชื่อของเราหรือแม้แต่คนอื่นหรือในสังคมหรือเป็นสิ่งที่เราหวังหรือเราชอบอยากจะให้มันเป็น พูดง่าย ๆ ก็คือ ต้องรู้ว่าอะไรคือ “ความเป็นจริง” อย่างแท้จริง
เมื่อรู้แล้วว่าอะไรคือความเป็นจริง ชีวิตที่ประสบความสำเร็จก็คือ ชีวิตที่มีความฝัน บวกกับความเป็นจริง บวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่คำถามต่อมาก็คือ อะไรคือความสำเร็จในชีวิต? บางคนอาจจะบอกว่ามันคือความยิ่งใหญ่มีชื่อเสียง ร่ำรวยมีเงินทอง หรือบางคนก็อาจจะแค่ว่าขอให้มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องของตัวเราเอง อย่าไปแคร์คนอื่น เราต้องเลือกทางเดินของเราเอง แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สิ่งที่ต้องคิดก็คือ อะไรคือความจริงของเราเอง โดยเฉพาะที่เราหวังว่ามันจะไม่ใช่ เช่นความเป็นจริงที่ว่าเราไม่เก่ง เราไม่สวย เรามาจากครอบครัวที่ยากจนมาก เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้บางทีก็เรียกว่า “จุดอ่อน” ที่คนจำนวนมากอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่ยอมรับ
ดาลิโอบอกว่า ปัญหาของเขา ความผิดพลาดของเขา และจุดอ่อนของเขา เคยทำให้เขาเจ็บปวดและเขาก็ติดอยู่กับมันเพราะเขาเอาแต่หวังว่าเขาจะไม่มีสิ่งเหล่านั้น แต่แล้วเขาก็เรียนรู้ว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นคือสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าเขาจะต้องตระหนักถึง “ความเป็นจริง” เหล่านั้นและจะแก้ปัญหาอย่างไร และเขาก็ค้นพบวิธีซึ่งสามารถทำให้เขาประสบความสำเร็จและก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ขั้นด้วยกันคือ
ขั้นแรก ตั้งเป้าหมาย โดยที่เป้าหมายเหล่านั้นจะต้องสอดคล้องกับความสนใจและความชอบ ความแข็งแกร่งและจุดอ่อนของตนเอง ขั้นที่ 2 ก็คือการเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้เราไปถึงเป้าหมาย มันมีปัญหาเสมอซึ่งก็ทำให้ต้องเจ็บปวด เราจะต้องค้นให้พบและแก้ให้ได้ ขั้นที่ 3 ก็คือการวิเคราะห์ปัญหาลงไปถึงพื้นฐาน บางครั้งก็เป็นเรื่องของจุดอ่อนของคุณเองหรือจุดอ่อนของคนอื่นที่ก่อให้เกิดปัญหา เมื่อคุณผ่านชีวิตมาเรื่อย ๆ คุณก็จะเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ไม่ดีและจะต้องเปลี่ยนมันหรือหาทางหลบหลีกมัน ขั้นตอนที่ 4 คือการออกแบบแผนการดำเนินการที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาหรืออุปสรรคที่ขวางความก้าวหน้าของคุณ และขั้นตอนที่ 5 ก็คือการลงมือปฏิบัติตามแผนนั้น ผลักดันตนเองให้ทำทุกอย่างที่จำเป็น ชีวิตที่ประสบความสำเร็จประกอบด้วยการทำขั้นตอนทั้ง 5 นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำมันอย่างดีที่สุดแล้วคุณก็จะพบว่าชีวิตคุณจะขึ้น-ลง เป็นรอบ ๆ และพัฒนาหรือวิวัฒนาการสูงขึ้นเรื่อย ๆ นี่เป็นกฎของธรรมชาติ
ในระหว่างที่คุณเติบโตขึ้นคุณก็จะพบกับสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นและก็จะพบกับความเจ็บปวดมากขึ้นเข้าทำนองยิ่งสูงเวลาตกก็ยิ่งเจ็บ สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน ขึ้นอยู่กับการจัดการหรือเผชิญกับมัน มันอาจจะทำลายเราหรือมันอาจจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นและช่วยปรับปรุงให้เราก้าวหน้าขึ้นได้ในอนาคต ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตการลงทุนของดาลิโอก็คือการผิดพลาดอย่างแรงในการลงทุนของเขาในช่วงปี 1982 ที่เขาทุ่มสุดตัวกับความเชื่อที่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังจะพังและตลาดหุ้นจะตกหนัก เขามั่นใจขนาดกล้าที่จะประกาศความคิดและความเชื่อของเขาต่อสาธารณะ แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม เศรษฐกิจของอเมริกากลับเติบโตเร็วที่สุดต่อเนื่องยาวนานซึ่งทำให้บริษัทของเขาแทบเจ๊ง เขาหมดตัว พนักงานของบริษัทเหลือแค่คนเดียวคือตัวเขาเอง อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็รอดมาได้และเติบโตจนกลายเป็น “ตำนาน” ของนักลงทุนคนหนึ่งในวันนี้
เรย์ ดาลิโอเชื่อว่าทุกสิ่งในจักรวาลล้วนแล้วแต่เคลื่อนไหวเป็นวัฏจักร สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแบบที่แตกต่างกันเล็กน้อย บางอย่างเกิดขึ้นซ้ำในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งง่ายต่อการจดจำ บางอย่างก็ยาวหรือเกิดขึ้นไม่บ่อยขนาดที่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลยในช่วงชีวิตของเรา ดาลิโอสังเกตพบว่าคนเรานั้นมักจะมีความลำเอียงกับประวัติศาสตร์หรือเรื่องที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ไม่กลัวหรือไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้วโดยเฉพาะที่มันไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเขา แต่สิ่งเหล่านั้นก็จะเกิดขึ้นอีก มันเป็นความเสี่ยงที่คนอาจจะไม่ตระหนักเท่าที่ควร
ในการที่จะมีชีวิตที่ดีที่สุดนั้น ดาลิโอให้น้ำหนักที่การวิเคราะห์ผลตอบแทนที่จะได้รับกับความเสี่ยงที่จะเกิดสิ่งที่เลวร้ายเพราะสองสิ่งนี้มักจะมาด้วยกัน สำหรับดาลิโอแล้ว เขาต้องการที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมกับชีวิตซึ่งหมายความว่าเขาจะต้องหาทางจัดการกับความเสี่ยงที่ใหญ่โต ในการวิเคราะห์เรื่องเหล่านี้เขาเชื่อว่าลำพังตัวเขาเองนั้นเขาไม่สามารถที่จะมองเห็นภาพทั้งหมด ดังนั้น เขาจะต้องหาคนมาช่วยดู หลักการของเขาก็คือการตัด “อีโก้” และ “จุดบอด” ของตนเอง โดยการปรึกษาคนอื่น ๆ โดยเฉพาะที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเขา เขาจะรับฟังอย่างตั้งใจและ “เปิดใจ” เต็มที่ และทั้งหมดนั้นก็คือ “หลักการสู่ความสำเร็จในชีวิต” แบบฉบับของเรย์ดาลิโออย่างสั้นที่สุดที่นักลงทุนและคนที่ไม่ใช่นักลงทุนควรนำไปใช้
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ที่มาบทความ: https://portal.settrade.com/blog/nivate/2020/01/06/2259