คนที่เคยเล่นไพ่ “ป๊อกเด้ง” หรือแม้แต่เกมการพนันอื่น ๆ และเป็นคนที่เข้าใจหลักการทางสถิติและผลตอบแทนจากผลลัพธ์ที่ออกมาจากเกมการพนันก็จะเข้าใจว่า ในเกม “การพนัน” นั้น “เจ้ามือ” จะมี “แต้มต่อ” หรือมีความได้เปรียบ “คนเล่น” บางอย่างทาง “สถิติ” นั่นก็คือ ถ้าเกมการพนันนั้นดำเนินไปเรื่อย ๆ บ่อย ๆ ครั้ง เจ้ามือก็จะ “กิน” หรือ “ได้เงิน” จากคนเล่น ส่วนคนเล่นโดยเฉลี่ยแล้วก็จะ “ถูกกิน” หรือเสียเงินให้กับเจ้ามือ นี่ยังไม่นับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียให้กับ “เจ้าของบ่อน” ที่เป็นคนจัดสถานที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการเล่นแต่ละครั้ง แน่นอนว่าในการเล่นพนันแต่ละรอบนั้น บางทีคนเล่นก็ได้กำไรกินเงินเจ้ามือ บางครั้งบางช่วงก็กินติดต่อกันหลาย ๆ รอบจนเจ้ามือแทบจะหมดตัวหรือหมดตัวได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ามือมีเงินมากพอที่จะเล่นไปได้เรื่อย ๆ และคนเล่นก็พร้อมที่จะเล่นต่อไปเรื่อย ๆ โอกาสก็เป็นไปได้ว่าเจ้ามือจะทำกำไรได้เสมอ
แต้มต่อหรือข้อได้เปรียบของเจ้ามือในแต่ละเกมการพนันนั้นไม่เหมือนกัน การพนันอย่าง “หวยใต้ดิน” นั้น ในทางสถิติแล้วโอกาสที่จะถูกเลขท้ายสองตัวคือ 1 ใน 100 แต่ผลตอบแทนที่จะได้ของคนเล่นก็คือ ถ้าถูกก็จะได้แค่ 60 บาท ดังนั้น เจ้ามือหวยก็จะได้กำไรโดยเฉลี่ยคือ 40 บาท หรือ 40% ของการออกหวยแต่ละงวด นี่เป็นเกมที่เจ้ามือหวย “กิน” หรือทำกำไรได้ง่ายและตรงไปตรงมา ในเกมป๊อกเด้งนั้น ความได้เปรียบของเจ้ามือมีความซับซ้อน การแพ้ชนะของแต่ละเกมนั้นคนเล่นหรือเจ้ามือต่างก็จะได้เงินหรือเสียเงินเท่า ๆ กันขึ้นอยู่กับแต้มของแต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตาม เจ้ามือนั้นมี “ข้อได้เปรียบ” ก็คือ เขามีสิทธิที่จะเรียกดูไพ่ของคนเล่นก่อน โดยเฉพาะถ้าคน ๆ นั้น “จั่ว” หรือเรียกไพ่หลายใบและมีโอกาสสูงที่จะ “ตาย” ซึ่งจะทำให้เขาสามารถ “กิน” คนเล่นคนนั้นก่อนที่ตัวเขาเองจะจั่วไพ่ใบต่อไป ข้อได้เปรียบแบบนี้ถ้าเรียกในภาษาวิชาการหน่อยก็คือ เจ้ามือมี “Option” หรือมี “สิทธิ”เหนือคนเล่นซึ่งจะทำให้เขามีโอกาส “ชนะ” สูงกว่า
ตลาดหุ้นนั้น โดยรวมแล้วเราอาจจะบอกว่าไม่ใช่ “บ่อนการพนัน” เพราะมันไม่ใช่สถานที่ที่คนเข้ามาเล่น “กินเงิน” กันโดยอาศัยผลลัพธ์ที่เป็นการละเล่นบางอย่างที่ไม่ก่อให้เกิด “มูลค่าเพิ่ม” ที่เป็นเม็ดเงิน ตลาดหุ้นนั้นมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจสร้างผลกำไรและจ่ายปันผลให้กับคนที่เข้ามา “ลงทุน” ซื้อหุ้นไว้ แต่ละปีตลาดหุ้นไทยจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนหลายแสนล้านบาท คนที่เข้ามาเล่นหุ้นโดยเฉลี่ยแล้ว “ได้เงิน” หรือได้ผลตอบแทนเกือบทุกปีแม้จะต้องจ่ายค่าบริการให้แก่เจ้าของสถานที่ซึ่งก็คือตลาดและคนให้บริการซึ่งก็คือโบรกเกอร์แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยกเว้นเรื่องของผลตอบแทนโดยรวมของนักลงทุนแล้ว การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยก็มี “อาการ” แทบทุกอย่างคล้าย ๆ กับ “การพนัน” และคนที่เข้ามาซื้อขายหุ้นจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ลงทุนส่วนบุคคลก็เข้ามาซื้อขายหุ้นในแบบที่อาจจะเรียกว่าเข้ามาเล่น “การพนัน” พวกเขาไม่ใคร่สนใจลงทุนเพื่อที่จะรอรับปันผลประจำปี เขาลงทุนเพื่อที่จะทำกำไร “เป็นรอบ ๆ” คล้าย ๆ กับการพนันที่มักจะเล่นเป็นรอบ ๆ เหมือนกัน นอกจากนั้น การซื้อขายหุ้นก็มักจะเล่นเป็นตัว ๆ และบ่อยครั้งหุ้นตัวนั้นก็จะมี “เจ้ามือ” ที่จะเข้ามาคอยชี้นำชักชวนให้คนเข้ามาเล่น พูดไปก็คล้าย ๆ กับว่าตลาดหุ้นนั้นเป็นแหล่งกลางที่ผมไม่อยากเรียกว่า “บ่อน” ที่มี “วงพนัน” หลาย ๆ วงที่เกิดรอบ ๆ หุ้นบางตัวโดยเฉพาะที่มีขนาดเล็กในแง่ของขนาดของธุรกิจ และก็มีคนที่ทำตัวเหมือน “เจ้ามือ” หุ้นตัวนั้น
แต้มต่อของ “เจ้ามือหุ้น” ส่วนใหญ่ในความเห็นของผมก็คือ “Option” หรือ “สิทธิ” ที่เขาจะมีเหนือ “คนเล่น” ที่เข้ามาเล่นหุ้นตัวที่เขาเป็น “เจ้ามือ” Option แรกที่เจ้ามือหุ้นจะได้ก็คือการที่เขาซึ่งมักจะมีเม็ดเงินมากเมื่อเทียบกับขนาดของหุ้นหรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือขนาดของ Free Float หรือจำนวนและมูลค่าหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด เขาจะเข้ามาซื้อหุ้นในราคาที่ “ถูก” ก่อนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการทยอยเก็บหรือขอซื้อหุ้นบล็อกใหญ่จากเจ้าของหรือบริษัท แน่นอน นี่ไม่ใช่สิทธิตามกฎหมายแต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่สอดคล้องระหว่างคนให้กับคนรับ ดังนั้น มันจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
เจ้ามือหุ้นนั้นมักจะมีโอกาสที่จะ “ประชาสัมพันธ์” หรือ “เชียร์หุ้น” ผ่านกระบวนการต่าง ๆ ตั้งแต่การปล่อยข่าวและบทวิเคราะห์ที่ดี ๆ ทุกด้านของบริษัท และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือการ “ยืนยัน” ความ “ถูกต้อง” ด้วย “ราคาหุ้น” ที่วิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับการเผยตัว “ผู้ถือหุ้นใหญ่” ทั้งสถาบันและบุคคลที่น่าเชื่อถือ และสุดท้ายก็คือ “ผลประกอบการ” ของบริษัทที่เติบโตน่าประทับใจ ทั้งหมดนั้นทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นจนนักเล่นหุ้นจำนวนมาก “ทนไม่ไหม” และเข้าร่วม “เล่น” ซึ่งก็มักจะส่งผลให้หุ้นถูก “Corner” หรือจำนวนหุ้นหมุนเวียนเหลือน้อยกว่าความต้องการมาก ผลก็คือ ราคาหุ้นขึ้นสู่ “อวกาศ” ค่า PE สูงเป็น 50 เท่า 100 เท่า โดยที่กำไรของบริษัทไม่อาจจะรองรับได้แม้ว่าบริษัทอาจจะโตปีหน้าได้ 50% แต่อนาคตระยะยาวจะไม่สามารถทำได้
Option ของเจ้ามือหุ้นอาจจะรวมถึงการได้รับข้อมูลลึก ๆ ที่คนเล่นไม่มี แต่นั่นก็ยังไม่สำคัญเท่ากับว่าเจ้ามือหุ้นนั้นมักจะรู้ “สถานะ” ของการหมุนเวียนของการซื้อขายหุ้นเนื่องจาก…เขาทำเอง เขาอาจจะสามารถ “ออกของ” หรือขายหุ้นในยามที่หุ้นกำลังขึ้นสูงมาก เขาอาจจะต้องหยุดขายและกลับมาซื้อถ้าหุ้นตกลงเพื่อประคองราคา เขาทำได้ถูกต้องเพราะเขา “นับหุ้น” อยู่ตลอดเวลา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นข้อได้เปรียบของเจ้ามือหุ้นที่มักจะทำให้พวกเขาได้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับ “คนเล่น” ที่หวังกำไรเร็วโดยไม่รู้ว่าการซื้อขายหุ้นตัวนั้นมันคือ “การพนัน” ที่ถูกออกแบบไว้ให้เจ้ามือกำไรมากในขณะที่คนเล่นนั้นมีโอกาส “เจ๊ง” สูงมาก วิธีการที่จะหลีกเลี่ยงความสูญเสียก็คือ อย่าเล่นถ้ารู้ว่าหุ้นมี “เจ้ามือ”
ที่มาบทความ : http://www.thaivi.org/แต้มต่อของเจ้ามือหุ้น