ช่วงสิ้นปีนักวิเคราะห์ค่าเงินต่าง ๆ มักจะเนื้อหอมมีทั้งลูกค้า เพื่อน พ่อแม่ หรือรุ่นพี่รุ่นน้อง แวะเวียนมาถามไถ่ตลอดว่า “จะไปเที่ยวต่างประเทศควรจะแลกเงินเลยดีหรือควรจะรอช่วงไปเที่ยว” แม้ส่วนตัวผมจะมองว่าจะแลกตอนไหนก็ไม่ต่างกันมากเพราะเงินตราต่างประเทศเป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนน้อย แต่ก็เห็นด้วยว่าถ้าเราได้ไปเที่ยวประเทศที่เงินกำลัง “ถูกกว่าปรกติ” ก็คงรู้สึกคุ้มค่าขึ้น ผมจึงเอาสกุลเงินถูก ๆ ในปีนี้มานำเสนอ เผื่อทุกท่านจะเอาไปคิดหาเรื่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ต้นปีหน้าได้ถูกใจสบายกระเป๋ากันครับ

เริ่มกับประเทศใหญ่ ถูกที่สุดช่วงนี้ต้องยกให้ “ปอนด์อังกฤษ” (GBP)

ซึ่งในปีที่ผ่านมาอ่อนค่าถึง 16% จาก 53 บาท/ปอนด์มาอยู่ที่ 44 บาท/ปอนด์และมีจังหวะลงไปต่ำสุดที่ 42 บาท/ปอนด์ (ต่ำสุดในรอบ 18 ปี) ทั้งนี้ก็เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศ (Brexit) ที่ส่งผลกระทบให้เกิดความไม่แน่นอนกับเศรษฐกิจอังกฤษจนเกิดกระแสเงินทุนไหลออก ธนาคารกลางอังกฤษต้องปรับลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงความเชื่อมั่น อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือการขอคืนภาษีซึ่งน่าจะได้คืนอีกราว 11% (อ้างอิงจากเว็บไซต์ Global Blue) บวกกับค่าเงินระดับนี้แล้วดูน่าสนใจมากทีเดียว ปีหน้ามองปัจจัยที่ต้องจับตาคือแผนการออกจากสหภาพยุโรปของรัฐบาลอังกฤษ (คาดว่าจะเสนอรัฐสภาอังกฤษและอียูในช่วงไตรมาส 1) มีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินปอนด์อ่อนได้อีกถ้าอังกฤษดึงดันจะออกจากสหภาพยุโรปจริง แต่ในทางกลับกันถ้าปัญหา Brexit เริ่มคลี่คลายก็อาจจะต้องรีบซื้อปอนด์เพราะอาจแข็งค่ากลับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

Source: Bloomberg

ถัดมา “เม็กซิกันเปโซ” (MXN)

สำหรับคนที่อยากสร้างประวัติศาสตร์เม็กซิโกอาจเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจครับ เฉพาะปีนี้ปีเดียวเม็กซิกันเปโซ (MXN) อ่อนค่า 17.5% ด้วยเหตุผลสั้น ๆ แค่สหรัฐมีประธานาธิบดีคนใหม่ที่ชื่อว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” หลายฝ่ายมองว่าน่าจะส่งผลลบกับเศรษฐกิจเม็กซิกัน ที่ส่งออกทั้งสินค่าและแรงงานไปสหรัฐมากถึง 80% จากทั้งหมด แม้ในตอนนี้ค่าเงินอาจเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาได้บ้างหลังนักลงทุนเริ่มมองโลกในแง่ดีขึ้นว่าทรัมป์อาจไม่กีดกันการค้าและการลงทุนรุนแรงถึงขั้นสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกอย่างที่เคยหาเสียง แต่โดยรวมเปโซละ 1.7 บาทก็ถือว่าถูกเป็นประวัติการณ์ครับ เทียบแล้วซื้อบิ๊กแม๊กได้ในราคาเพียง 75 บาท ขณะที่ในไทยราคาประมาณ 120 บาท (อ้างอิงจากเว็บไซต์ The Economist) ซึ่งถ้าใครอยากไปเที่ยวที่ที่ไม่ซ้ำใครและค่าเงินอ่อนหนัก แม็กซิโกควรเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ

Source: Bloomberg

สุดท้าย “โครนสวีเดน” (SEK)

สกุลเงินม้ามืดสายช๊อป ผมยกให้โครนสวีเดน (SEK) โครนละ 3.86 บาท (-9.5% ในปีนี้หนักกว่ายูโรเสียอีก) อ่อนค่าจากที่ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอบวกกับธนาคารกลางสวีเดนกดดอกเบี้ยต่ำติดลบ 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จุดเด่นของสวีเดนคือสามารถขอคืนภาษีได้มากอันดับต้นของยุโรป (ราว 19%) ซึ่งบวกกับค่าเงินที่อ่อนลงขนาดนี้ ถือว่าเป็นแรงจูงใจในการกินเที่ยวช๊อปได้ดีมาก อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวอาจต้องรีบสักหน่อยสำหรับโครนสวีเดน เนื่องจากเศรษฐกิจและการเมืองสวีเดนไม่ได้มีปัญหาเหมือนประเทศข้างต้น นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสที่ค่าเงินโครสวีเดนจะกลับไปแข็งค่าในปีหน้าหรือทันทีที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลกับเศรษฐกิจยุโรป

Source: Bloomberg

สำหรับเงินบาทเราเอง ดีที่สุดสำหรับคนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศคือค่าเงินบาทแข็ง ต้องเอาใจช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระดับ 3.5% ถึง 4% ในปีหน้าพร้อมกับการเมืองที่มีเสถียรภาพ สองปัจจัยนี้จะส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าบ้านเราต่อและมีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าในปีหน้าครับ

สำหรับใครที่จะไปเที่ยวที่ไหนอีก เจอกันก็สอบถามเรื่องค่าเงินมาได้นะครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราจับตาดูประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศต่าง ๆ ก่อนจะไปเที่ยวบ้าง น่าจะช่วยให้เรามองเห็นจังหวะและวางแผนท่องเที่ยวได้ดีขึ้น เพราะช่วงนี้ไม่ใช่แค่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแต่ค่าเงินก็เปลี่ยนแปลงด้วย แนะนำระมัดระวังทั้งสุขภาพและเงินในกระเป๋านะครับ

ขอให้ทุกคนใช้เวลาช่วงปลายปีอย่างมีความสุขครับ

อัตราการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินต่าง ๆ เทียบกับเงินบาทนับจากต้นปี
ที่มา: Bloomberg, 29 November 2016

ที่มาบทความ : กรุงเทพธุรกิจ