2024 ปีแห่งการลงจอดของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนรัดเข็มขัดพร้อมกันหรือยัง

ท่านผู้ลงทุนโปรดทราบ ปี 2023 ดำเนินมาถึงช่วงท้าย และตลาดการเงินโลก กำลังจะนำทุกท่านลงจอดในปี 2024 ผมแนะนำให้ทุกท่านรัดเข็มขัดนิรภัย เตรียมรับความผันผวนให้ดี

เพราะการที่เราผ่านการเดินทางแบบไม่ลงจอดของเศรษฐกิจโลก หรือ Neverlanding Flight ในปี 2023 สู่การลงจอดของเศรษฐกิจโลก (Landing) หมายถึงการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ จะเข้าสู่ช่วงชะลอตัวพร้อมกันในปี 2024 เพราะอะไร มีโอกาสและความเสี่ยงแค่ไหน เป็นสิ่งที่เราต้องรู้

ดีที่สุดคือ จอดแบบราบรื่น หรือ Soft Landing เศรษฐกิจโลกโต 2.9% เงินเฟ้อเศรษฐกิจพัฒนาแล้วลดเหลือ 2.8%

การประเมินนี้มาจากบทวิเคราะห์ World Economic Outlook ของ IMF ล่าสุด ผมคาดว่าโอกาสเกิดขึ้นราว 50%

ภาพการเติบโตจะไม่แตกต่างจากปีนี้มาก เหตุผลหลักมาจากตลาดแรงงานทั่วโลกที่แข็งแกร่ง ยุโรปหลุดออกจากช่วงเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เอเชียชะลอตัวลงเล็กน้อย

จุดเด่นของ Soft Landing คือเศรษฐกิจทรงตัว แต่เงินเฟ้อจะลดลงต่อเนื่อง เช่นในสหรัฐอาจได้เห็นเงินเฟ้อในระดับ 2.5-3.0% ส่วนทั่วโลก ก็คาดจะเห็นเงินเฟ้อลดลงเฉลี่ยราว 1.0% จากปีนี้

กรณีที่สอง ลงจอดไม่ราบรื่น หรือ Hard Landing อาจเกิดขึ้นได้ถ้าตลาดแรงงานชะลอตัวเร็วกว่าคาด กดดันทั้งเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ

ผมมองว่ากรณีนี้มีโอกาสเกิดขึ้น 30%

ความต่างสำคัญอยู่ที่ตัวแปรเดียว คือตลาดแรงงานในฝั่งสหรัฐ

ตัวแปรกระตุ้น คือดอกเบี้ยในทุกธุรกรรมที่อยู่ในระดับสูง และมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีกจากหลายเหตุผล เช่นนโยบายการเงินเข้มงวดต่อเนื่อง นโยบายการคลังติดข้อจำกัดด้านเครดิต หรือสภาพคล่องทางการเงินลดลงเมื่อไม่มีการต่ออายุนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งหมดอาจสร้างความกังวลให้ผู้ประกอบการหยุดจ้างงาน ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยทันที

อย่างไรก็ดี กรณี Hard Landing จะกดดันเงินเฟ้อให้ปรับตัวลงพร้อมกันได้มากที่สุดถึง 1.5-2.0% การชะลอตัวลงของเงินเฟ้อจากเหตุผลด้านเศรษฐกิจ จะเปิดช่องให้นโยบายการเงินกลับข้างมาผ่อนคลายลงได้

กรณีที่เสี่ยงที่สุด ลงจอดแบบแตกหัก หรือ Crash Landing จะเกิดขึ้นได้ถ้าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกถูกป่วนด้วยปัญหาการเมืองทั้งในและต่างประเทศ

ในปี 2024 แตกต่างจากปีนี้อย่างชัดเจนคือเรื่องการเมืองและการเลือกตั้ง

มุมการเมืองระหว่างประเทศ นอกจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน อิสราเอล-ฮามาส ยังดำเนินต่อไปแล้ว การแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน ก็จะไม่ลดความตึงเครียดลงด้วย

ผสมกับการเมืองในประเทศ ไล่ตั้งแต่ไต้หวันที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 13 ม.ค. อินเดียก็จะมีเลือกตั้งช่วง เม.ย.-พ.ค. แอฟริกาใต้ ช่วงพ.ค. เม็กซิโก เดือนมิ.ย. ไปจนถึงสหราชอาณาจักรที่อาจเกิดขึ้นเร็วในช่วงปลายปี ไปจบที่สหรัฐ ที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 5 พ.ย.

ทั้งหมด จะนำไปสู่นโยบายในเชิงชาตินิยม และประชานิยมชาตินิยม มากกว่าสนับสนุนสันติ ลดความร่วมมือระหว่างกัน และเพิ่มโอกาสเกิดความขัดแย้งซึ่งเป็นต้นตอของเงินเฟ้อ

ความเสี่ยงการเมืองสามารถกดดันภาพรวมของเศรษฐกิจได้ลึกถึงถดถอย พร้อมกับเพิ่มความไม่แน่นอนให้เงินเฟ้อทรงตัวเหนือ 4% อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าเหตุการณ์นี้มีโอกาสที่จะเกิดต่ำราว 10%

สรุปว่าปี 2024 ควรเป็นปีที่เราผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทั้งในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่จะราบรื่นหรือไม่  ขึ้นอยู่กับตลาดแรงงาน และการเมืองนั่นเอง

สำหรับตลาดการเงิน นอกจากจะต้องติดตามภาพเศรษฐกิจ ทิศทางนโยบายการเงิน ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

เพราะการลงจอดของเศรษฐกิจปี 2024 จะอยู่บนดาวดวงใหม่ที่มีเงินเฟ้อสูง หรือ High Inflation Planet แตกต่างจากสองทศวรรษเงินเฟ้อต่ำที่เราผ่านมา

การที่เงินเฟ้ออยู่สูงกว่าเป้าหมาย จะทำให้ธนาคารกลางทั่วโลก ใช้นโยบายการเงินการเงินผ่อนคลายได้ไม่มากเหมือนสมัยก่อน เช่น Fed และ ECB อาจต้องคงดอกเบี้ยนโยบายที่ในกรอบ 4.5-5.0% หรือธปท.ที่อาจเลือกที่จะไม่ลดดอกเบี้ยลงจากระดับ 2.5%

แย่ไปกว่านั้น บางธนาคารกลางเช่น Fed ECB และ BOJ อาจต้องทยอยลดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเดิมลง ลดขนาดงบดุลเพื่อเตรียมพร้อมไว้ใช้ป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยในอนาคตพร้อมกันด้วย

แม้การผ่อนคลายทางการเงิน อาจเกิดขึ้นเพื่อรับมือกับกรณี Hard Landing หรือ Crash Landing แต่ในทั้งสองกรณี อาจไม่สามารถทำให้ตลาดการเงินเข้าสู่โหมดเปิดรับความเสี่ยงได้อย่างไร้กังวล

ถึงจุดนี้นักลงทุนคงพอที่จะเห็นภาพเศรษฐกิจและนโยบายการเงินปี 2024 มากขึ้น

ส่วนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะส่งผลกระทบกับกลยุทธ์ของเราเมื่อไหร่ และอย่างไรนั้น ผมแนะนำให้จับตาไปที่ ดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์สหรัฐเป็นหลัก

ในกรณี Soft Landing ดอลลาร์สหรัฐควรอ่อนค่าลง เนื่องจากปีที่ Fed ไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยสูง ส่วนบอนด์ยีลด์สหรัฐ ถ้าผ่านจุดสูงสุดแล้วจริง ปี 2024 อาจเป็นปีที่การลงทุนในตราสารหนี้ฟื้นตัว หรือ Year of Bonds ได้ในที่สุด

บทความหน้า เราจะมาวิเคราะห์เจาะไปที่ธีมลงทุนในหุ้นทั่วโลก ระหว่างนี้โปรดตรวจสอบสัมภาระ พอร์ตลงทุนของท่าน และรัดเข็มขัดนิรภัยไว้ให้พร้อมครับ

2024 ปีแห่งการลงจอดของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนรัดเข็มขัดพร้อมกันหรือยัง

มุมมองเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในปี 2024
ที่มา: CGS Macro and Wealth Research

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์

TSF2024