[รีวิวภาพเศรษฐกิจและการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นเกาหลีใต้]
นอกจากเกาหลีใต้ จะมีซีรีส์ดี ๆ น่าติดตามออกมามากมายแล้ว ระดับการพัฒนาเทคโนโลยีและบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ ก็มีความน่าสนใจ เด็กการเงินชื่นชมประเทศนี้เป็นการส่วนตัวและขอทำรีวิวให้แบบไม่คิดเงินเลยนะ (ถ้าให้ก็ขอรับไว้ 555)
ที่มา: เพจเด็กการเงิน DekFinance
ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ค. 2021
ภาพรวมของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปีที่แล้ว เจอวิกฤต COVID-19 เช่นเดียวกับนานาประเทศ แต่ทางการสามารถจัดการกับวิกฤตได้ดี และมีการเร่งตัวของการส่งออกในช่วงท้ายของปี 2020 ทำให้ GDP ติดลบเพียง 1% แต่อย่างไรก็ตามภาคการบริโภคของประชาชนยังติดลบและกำลังกลับมา ประชาชนเกาหลีใต้มีการฉีดวัคซีนแล้วราว ๆ 5.4% ตามหลัง สิงคโปร์ที่ 30% จีนที่ 20% อินเดียที่ 7.3% โดยประธานาธิบดี มุน แจอิน เห็นว่าเกาหลีใต้โตได้มากกว่า 4% จากที่คาดการณ์การเติบโต GDP ไว้ที่ 3.6% จากการส่งออกและการบริโภค
ที่มา: เพจเด็กการเงิน DekFinance
ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ค. 2021
ภาพที่เด่นชัดของเกาหลีใต้คือการส่งออกที่โดดเด่น โดยเฉพาะ Semiconductor อุปกรณ์ wireless และรถยนต์ ที่เพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. อยู่ที่ 26% 64% และ 100% ตามลำดับ โดยรวมเกาหลีใต้มีการเติบโตถึง โดยเฉลี่ย 26% ในปี 2021 ซึ่งสูงมาก ๆ
จุดเด่นของประเทศเกาหลีใต้ นอกจากสร้างเทคโนโลยีได้เอง และส่งออกแล้ว ยังมีรายได้จากสินค้าบันเทิง เช่น ซีรีส์และวงดนตรี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ประชากรเกิน 70% ยังอยู่ในวัยแรงงาน (15-65 ปี) รองรับการบริโภคที่สูงได้อีกด้วย
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2020-2025 หรือที่ชื่อว่า New Deal จะเน้นไปยัง 3 กลุ่มหลักคือ เรื่องความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล นวัตกรรมสีเขียวเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดความเหลื่อมล้ำ โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตพื้นฐานให้กับคน รวมถึงอาชีพฟรีแลนซ์อีกด้วย
จุดแข็งอีกหนึ่งอย่างของเกาหลีใต้ คือ เป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของ USA ที่โจ ไบเดนและทีมงาน ได้มีการเยือนประเทศเกาหลีใต้ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และได้ตกลงความร่วมมือในการแบ่งปันวัคซีนจาก USA และมุ่งเน้นการส่งออก Semiconductor ให้กับ USA โดยลงนามความร่วมมือ สร้างอนาคตการส่งออกชิปที่ดีให้กับเกาหลีใต้อีกด้วย
มาดูฝั่งการลงทุนในเกาหลีใต้ผ่านกองทุนกันบ้าง ว่าสอดคล้องกับเทรนด์ด้านบนหรือไม่
SCBKEQTG ลงทุนใน iShare MSCI South Korea ETF (ชื่อย่อ EWY) บริหารงานโดยบริษัทย่อยของ BlackRock Fund มุ่งเน้นให้เคลื่อนไหวตาม MSCI South Korea 25/50
ที่มา: iShares MSCI South Korea ETF
ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย. 2021
โดยปกติแล้วดัชนีหุ้นเกาหลีใต้ จะใช้ชื่อว่า Korea Composite Stock Price Index (KOSPI) รวมหุ้นทั้งตลาดเอาไว้ด้วยกันและวัดว่า วันนี้ตลาดหุ้นมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน แต่นั่นแหละครับ ถ้ากองทุนจะซื้อหุ้นทั้งตลาดมาดูแลก็คงไม่ไหว… MSCI จึงได้ออกดัชนี MSCI Korea 25/50 Index ออกมาช่วยระบุ Basket และ Benchmark ของตลาดหุ้นเกาหลี และให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ดังกล่าว
ว่าแต่อะไรคือ “25/50 Index”?
- ห้ามไม่ให้มีน้ำหนักหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากกว่า 25%
- หุ้นที่มีสัดส่วนมากกว่า 5% ทุกตัวต้องรวมกันไม่เกินสัดส่วน 50%
ทั้งนี้เพราะหุ้นบางตัวในตลาดมีขนาดใหญ่เกินกว่าใช้เกณฑ์จัดเรียงตาม Market Cap ปกติได้ เช่น Samsung ที่มีขนาด Market Cap ใหญ่มาก ทำให้มีสัดส่วนมากกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ มากกว่าหลายเท่าตัว และบางประเทศอย่าง USA ก็มีความเข้มงวดไม่ให้กองทุนบางประเภทถือหลักทรัพย์กระจุกตัวเกินไป ดังนั้น การจัดหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะทำให้มีการกระจายตัวของหุ้น Large-Mid Cap ให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: iShares MSCI South Korea ETF
ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย. 2021
iShares MSCI South Korea ETF มี Holding 10 อันดับแรก ดังนี้
1. SAMSUNG ELECTRONICS 23.30 %
คนไทยรู้จักซัมซุงกันดี บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็น Global Brand ที่น่าภาคภูมิใจมาก ๆ โดย Market Cap ของ Samsung เองอยู่ในระดับ $500 พันล้าน อยู่ในลำดับที่ 12 ของโลก
2. SK HYNIX 5.10%
บริษัททำชิป และ Semiconductor อันดับหนึ่งของเกาหลี ทั้งใช้ในประเทศ และ รับทำให้กับแบรนด์อย่าง Apple, Asus และ Dell เป็นต้น และได้อานิสงส์จากความต้องการชิปไปเต็ม ๆ
3. NAVER 4.35%
บริษัทแม่ของ Line Corporation ในญี่ปุ่น หลายคนเคยมีคำถามว่าตกลง LINE เป็นของใครกันแน่ คือ LINE ดังจากญี่ปุ่นและ NAVER จากเกาหลีเป็นเจ้าของ LINE นั่นเอง… NAVER เริ่มบริษัทเป็น Search Engine และตอนนี้เป็นหนึ่งในบริษัทโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้
4. SAMSUNG SDI 3.54%
บริษัทลูกของ Samsung เน้นทำแบตเตอรี่ความจุสูง ขนาดเบา เพื่อใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่นแล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน โดย SAMSUNG SDI ผลิตเพื่อป้อนแบตฯ ให้กับซัมซุงและมีโรงงานในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อป้อนให้กับลูกค้าที่ไม่ใช่ Samsung
5. KAKAO CORP 2.98%
แอปฯ Messenger ที่มีคนเกาหลีใช้งานเยอะที่สุด พัฒนาโดยอดีตผู้บริหาร NAVER (อ้าว) ที่ออกมาทำธุรกิจด้วยตัวเอง จุดเด่นคือการใช้สติกเกอร์ในการสนทนา และสร้าง Social Platform ได้ใหญ่ไม่แพ้ LINE ในญี่ปุ่นเลย
6. LG CHEM 2.86%
บริษัทภายใต้ LG ทำผลิตภัณฑ์ทางเคมี วัสดุเพิ่มมูลค่า และเครื่องสำอาง มีขนาดใหญ่กว่า LG Electronics เสียอีก
7. HYUNDAI MOTOR 2.66%
บริษัทรถยนต์ที่ทำตลาดในบ้านเรามานาน เน้นความเรียบง่าย ภูมิฐาน และเริ่มมีรถ EV ออกมาจำหน่ายแล้ว ชื่อรุ่นว่า “KONA” ไปตีตลาด USA ตั้งแต่ปี 2019 แล้ว
8. POSCO 2.52%
บริษัทผลิตและรีดแผ่นเหล็กส่งออกขนาดใหญ่ ที่เคยเป็นบริษัทเหล็กที่มีมูลค่าสูงที่สุดโลกในปี 2020 ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเป็นอันดับ 4 ของโลก และเน้นทำธุรกิจในจีนและอินเดีย
9. CELLTRION 2.42%
บริษัท Health Tech ที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการผลิตยารักษาโรค ยีนส์สังเคราะห์ เซรุ่มและ Anti-Body ให้กับโรงพยาบาลทั่วโลก อันนี้ เราคิดว่ามันสุดยอดมากสำหรับประเทศที่พัฒนาและผลิตเทคโนโลยีได้เองแล้ว !!
10. KIA MOTORS CORP 2.10%
บริษัทรถยนต์ที่เริ่มทำการ Rebrand ให้มีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีข่าวกับยักษ์ใหญ่มากมาย ไม่แน่ว่าอาจจะมีบริษัทมาจับมือพัฒนารถ EV ได้ในอนาคต
ที่มา: เพจเด็กการเงิน DekFinance
ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ค. 2021
บริษัทชั้นนำในเกาหลีใต้มีระดับการพัฒนาเทคโนโลยีที่สูงและสามารถทำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมออกมาได้นานแล้ว และสามารถส่งออกไปไกลได้ทั่วโลก บริษัทในประเทศไทยเราเอง ต้องพัฒนาออกจาก Old Economy ให้ได้โดยเร็ว!!
หมายเหตุ: MSCI จะทำการรีวิวสัดส่วนใน Index นี้ทุกไตรมาส ช่วงมีนาคม มิถุนายน กันยายน และ ธันวาคม ของทุกปีครับ
เราคิดว่าเกาหลีใต้มีศักยภาพในการเติบโตได้อีก เป็นแนวหน้าของเอเชีย เคียงคู่กับจีน ญี่ปุ่น ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ผ่านการผลิตและส่งออกเทคโนโลยี ชิป มือถือ รถยนต์ สื่อบันเทิง และแพลตฟอร์มการสื่อสาร อย่าง NAVER และ KAKAO
เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและยังขยายตัวได้อีก ทั้งหมดนี้มีอยู่ใน SCBKEQTG
ส่วนการแข่งขันในระยะยาว ต้องจับตาแผนพัฒนาประเทศอย่าง New Deal ว่าจะทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควบคู่กับความสามารถด้านดิจิทัล และนวัตกรรมสีเขียวได้หรือไม่ ต้องติดตามตอนต่อไป
ป.ล. SCBKEQTG มีแบบ Class E ด้วยนะ
เด็กการเงิน DekFinance
ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/DekFinance101/posts/183733163644155
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนรวม โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้ขายหน่วยลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนเหล่านี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มหุ้นเกาหลี จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”