วันนี้ เด็กการเงิน ขอมานำเสนอเรื่อง Passive Income สำหรับใครที่อยากได้เงินหรือ cashflow เพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทุกเดือน การลงทุนในกองทุนรวมแบบได้ปันผล หรือลงทุนในหุ้นกู้ที่ได้ดอกเบี้ยในทุกไตรมาสหรือทุกครึ่งปีถือว่าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการนี้
ทั้งนี้ ถ้าเราเริ่มต้นด้วยเงินที่ไม่มาก เราก็จะเห็นว่าเงินปันผลที่ได้มานั้นน้อยนิด แต่ถ้าเรามีเป้าหมายแล้วว่าในแต่ละเดือน เราอยากได้เงินมาใช้เท่าไร ก็มาดูกันว่า เราต้องมีเงินต้นเท่าไรเพื่อให้ได้ Passive Income ที่ต้องการ
สำหรับสูตรที่ใช้ประมาณจำนวนเงินต้นที่ต้องใช้ในการลงทุน ถ้าหากต้องการมี Passive Income ทุกเดือนคือ
เงินต้นที่ต้องใช้ = (เงินต้นที่ต้องการต่อเดือน x 12) / อัตราผลตอบแทนต่อปี
ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากมี Passive Income 30,000 บาทต่อเดือน และเรานำเงินไปลงทุนในหุ้นกู้ที่จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 5% ต่อปี เราจะต้องมีเงินต้นอยู่ที่ (30,000 x 12) / 5% = 7,200,000 บาท
หรืออีกตัวอย่างนึงคือ ถ้าอยากมี Passive Income 20,000 บาทต่อเดือน และเรานำเงินไปลงทุนในกองทุนที่จ่ายปันผลเฉลี่ยได้อยู่ที่ 8% ต่อปี เราจะต้องมีเงินต้นอยู่ที่ (20,000 x 12) / 8% = 3,000,000 บาท
ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าเงินปันผลที่ได้ออกมานั้นต้องเสียภาษี 10% ด้วยนะ
สิ่งที่ควรรู้คือ โดยปกติแล้วการลงทุนในหุ้นกู้หรือกองทุนปันผลจะไม่ได้รับ Passive Income ทุกเดือน เนื่องจาก
1) การลงทุนในหุ้นกู้ ส่วนมากจะจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายไตรมาส หรือทุก 6 เดือน ซึ่งผลตอบแทนของหุ้นกู้ระดับ Investment Grade จะอยู่ที่ระดับ 3%-5% ต่อปี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของหุ้นกู้แต่ละตัวด้วย
2) การลงทุนในกองทุนปันผล กองทุนจะจ่ายปันผลก็ต่อเมื่อกองทุนมีกำไร และไม่มีกำหนดจำนวนครั้งที่แน่นอนในการจ่ายปันผลแต่ละปี ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาเลือกกองทุนปันผลที่มีประวัติการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และประมาณจำนวนเงินที่ต้องใช้เผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินถ้าหากกองทุนไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้
เด็กการเงิน DekFinance
ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/DekFinance101/posts/225270102823794
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต