ที่มา: เพจเด็กการเงิน DekFinance
ข้อมูล ณ วันที่ 20 เมษายน 2021
[จัดประเภทของกองทุน Health Care และ Health Tech หนึ่งใน Megatrend ของโลก]
กลุ่มการดูแลสุขภาพ (Health Care) เป็นธีมการลงทุนที่ Boom มากในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการ outperform ผ่านช่วงโควิด ที่ต้องการการดูแลรักษามากขึ้น กลุ่ม Health Tech ก็มีผลตอบแทนที่ดีในปีที่ผ่านมาเช่นกัน ถ้าไม่นับว่าเป็นวิกฤตจากการแพร่ระบาดของไวรัสแล้ว Health Tech และ Health Care ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของ Megatrend ในเรื่อง Health and Society เนื่องจากประชากรมีอายุมากขึ้น รักการออกกำลังกาย และเอาใจใส่ต่อสุขภาพมากขึ้น และเลี่ยงไม่ได้แน่นอนที่คนเราจะป่วยและเจ็บ และเข้ารับการรักษาที่ที่มี Facility ที่สะดวกสบาย
วันนี้เด็กการเงินขอพามาจัดกลุ่มกองทุน Health Care ซึ่งทั้ง Universe มีประมาณ 50 กอง สามารถแยกลงไปได้มากกว่า ว่าอะไรคือ Health Care และ Health Tech เสียอีก อะไรคือความพิเศษ เรามาค่อย ๆ ทำความเข้าใจกันเลย
เริ่มต้นที่ดัชนี Health Care ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ MSCI World Health Care Index และ MSCI ACWI Health Care Index ซึ่งวัดผลตอบแทนกลุ่ม Health Care ในประเทศที่พัฒนาแล้ว และรวมประเทศทั่วโลกตามลำดับ แบ่งประเภทและสัดส่วนของธุรกิจในกลุ่มดังกล่าวดังนี้
1. กลุ่มประเภทยาทั่วไป (Pharmaceuticals) (38%) เป็น กลุ่มบริษัทผู้ผลิตยาที่สามารถจ่ายได้โดยแพทย์และเภสัชกรทั่วไป หาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือร้านสะดวกซื้อ ยาบางประเภทพิเศษและต้องการใบสั่งแพทย์
2. กลุ่ม Health Care Equipment (21 %) เป็นกลุ่มบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ และฟื้นฟูสุขภาพ
3. กลุ่ม Biotechnology (13%) เป็น กลุ่มบริษัทที่วิจัย และคิดค้นผลิตภัณฑ์ยาจากชีวภาพ เช่น วัคซีน เซรุ่ม ยาพิเศษจากพืชและสัตว์ กระบวนการผลิตยาโดยกระบวนการทางชีวภาพ รวมถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับพันธุกรรม หรือ ยีนส์
4. กลุ่ม Managed Health Care (8%) เป็นกลุ่มบริษัทที่รวมการรักษาครบวงจรไว้ในที่เดียว เพื่อเป็นศูนย์การแพทย์ที่เพิ่มมูลค่าในกับคนมีฐานะ และต้องการดูแลเป็นพิเศษ
5. กลุ่มอื่น ๆ เช่น Life Science และ Health Technology เป็นต้น
เมื่อเราเข้าใจกลุ่ม Health Care ว่ามีกลุ่มธุรกิจอะไรบ้างเป็นหลัก เราสามารถจัดกลุ่มประเภทของกองทุน Health Care ได้ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1. กองทุนกลุ่ม Healthcare – General
คือกลุ่มที่มีความคล้ายคลึงกับ MSCI World/ACWI Health Index คือไม่ได้ overweight กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ หรือ เกิน 30% (1 ใน 3) แม้ว่ากองทุนกลุ่มนี้ไม่ได้เริ่มจากดัชนีดังกล่าว แต่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเฉพาะทางใดทางหนึ่ง นับเป็นกลุ่ม Health Care ที่ conservative และผันผวนน้อยที่สุดครับ
ตัวอย่างกองทุน
เจาะลึก 3 กองทุนในธุรกิจสำคัญของโลก KFHEALTH, KFHHCARE, และ KFHTECH-A
2. กองทุนกลุ่ม Health Innovation หรือ Digital Health >30%
คือกลุ่มที่แตกต่างจากกลุ่มบนอย่างชัดเจน คือ เน้นในเรื่องของเทคโนโลยีสุขภาพและการรักษาที่เน้นนวัตกรรม เช่น
- Medical Robotics หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด
- Telemedicine/Tele Health การรักษาผ่านทางไกล
- Bio and Health Analytics การวิเคราะห์สุขภาพและยีนส์ด้วย Super Computer
- I. Diagnostics การร่วมวินิจฉัยด้วยเอไอ
- Advanced Medical Devices เครื่องมือทางการแพทย์ล้ำยุค
- Health Care Info Tech แพลตฟอร์มเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ
จะเห็นได้ว่ากองทุนกลุ่มนี้ มีเรื่องเทคโนโลยีมาเกี่ยวข้องเยอะมาก ๆ ดังนั้นจึงสามารถมองกลุ่มนี้ผันผวนกว่ากองทุน Health Care ปกติมากครับ และจะต้องพึ่งพารายได้ในอนาคตจากการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าเข้าสู่ตลาดได้ ดังนั้น อย่ารวมกองทุนนี้เข้ากับ Health Care ปกตินะครับ
ตัวอย่างกองทุน
รีวิวกองทุน PRINCIPAL GHEALTH-A: ลงทุนครอบคลุมทุกภาคส่วนของ Health Care รับแรงหนุนจากเทคโนโลยี
รีวิวกองทุน UCHI: การผนึกกำลังของเทคโนโลยีและสุขภาพในประเทศจีน
3. กองทุนกลุ่ม Healthcare + Bio-tech / Bio-Pharmaceutical >30%
Health Care อีกกลุ่มหนึ่ง ที่เราปิดตาข้างหนึ่งก็มองเป็น Health Care ปกติทั่วไปนั่นแหละ เพียงแต่ว่ากองทุนหลักมีการ overweight ในเรื่องของ Bio-tech / Bio-Pharmaceutical มากกว่า 30% ดังนั้นพอมองได้ว่ากองทุนดังกล่าวมีแนวคิดที่จะเพิ่มมูลค่าจากนวัตกรรมทางชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นยา วัคซีน หรือ ยีนส์ ครับ เป็น Health Care ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมา เนื่องจากเทคโนโลยีชีวภาพก็ต้องการพัฒนา และการรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ในประเทศนั้น ๆ และส่วนอื่น ๆ ของโลก ดังนั้น ถือเป็นกองทุนที่เป็น Health Care ที่มี specialize ในเรื่อง Bio ครับ
4. กองทุนกลุ่ม Genomic Technology
คือกลุ่มที่มีการเน้นในเรื่องของ Genomic หรือเทคโนโลยีรักษาพันธุกรรม หรือสร้างยาจากพันธุกรรมเพื่อรักษามะเร็ง การวิจัย DNA Sequencing เป็นต้น ปัจจุบันมีกองทุนหลักเดียว คือ ARK Genomic Revolution (ARKG)
ตัวอย่างกองทุน
รีวิวกองทุน TGENOME และ ARKG: เมื่อสุขภาพและเทคโนโลยีถึงคราวมาบรรจบกัน
หวังว่าทุกคนได้เข้าใจความแตกต่างเล็กๆของกองทุน Health Care รวมถึงความเสี่ยงเฉพาะในแต่ละกลุ่ม เราต้องเข้าใจ ในสิ่งที่เราลงทุนเสมอ เพื่อที่จะได้ลงทุนอย่างมีความสุขนะ
อนึ่งการจัดกลุ่มทำโดยเด็กการเงินเท่านั้น มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เห็นความแตกต่างของแต่ละกองทุน Health Care และไม่มีเจตนาในการชักจูงเพื่อลงทุนแต่อย่างใด
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ก่อนการตัดสินใจลงทุน
เด็กการเงิน DekFinance
ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/DekFinance101/posts/162810412403097
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนรวม โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้ขายหน่วยลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนเหล่านี้ลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรม Health Care จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”