
ตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ หลังดัชนี SET ปรับตัวลดลงกว่า 16% ตั้งแต่ต้นปี ทำให้ไทยกลายเป็นตลาดหุ้นที่ผลงานแย่ที่สุดจาก 92 ดัชนีทั่วโลก ตามรายงานของ Bloomberg ความพยายามฟื้นฟูตลาดผ่านกองทุนวายุภักษ์มูลค่า 150,000 ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นได้ ขณะที่เงินทุนจากต่างชาติไหลออกไปแล้วกว่า 140,000 ล้านบาท ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
Source: Bloomberg as of 18/3/25
เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่มีการปรับเป็นค่าที่เทียบเคียงกันได้ (Normalized) ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2024 จะเห็นว่า ตั้งแต่ปลายปี 2024 ถึงมีนาคม 2025 ดัชนี SET ของไทย (เส้นสีดำ) ลดลงกว่า -17% ซึ่งแย่กว่าตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้านที่ปรับลดลงเพียง -5% ถึง -10% เท่านั้น สะท้อนถึงวิกฤตความเชื่อมั่นที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะ
ทำไมตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก?
- ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจลดลง – นักลงทุนกังวลว่าไทยจะไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ไกลกว่าภาคการท่องเที่ยว
- หนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ – กระทบการใช้จ่ายของประชาชนและธุรกิจ
- ปัญหาการเมืองและคดีอื้อฉาว – ส่งผลให้ต่างชาติขาดความมั่นใจ
- ดอลลาร์แข็งค่า – ทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย
- ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนต่ำกว่าคาด – กดดันดัชนีอย่างต่อเนื่อง
แผนกระตุ้นยังไม่เห็นผล
รัฐบาลพยายามออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น
- กองทุนวายุภักษ์
- แจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้านบาท (เงินดิจิทัล 10,000 บาท)
- กองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG และ Thai ESGX
- ส่งเสริมค่าเงินบาทอ่อนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
แต่ถึงตอนนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็ยังไม่กลับมา Goldman Sachs ถึงกับปรับลดอันดับตลาดหุ้นไทย โดยชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ดีและมูลค่าหุ้นสูงเกินไป “เมื่อแรงสนับสนุนจากกองทุนวายุภักษ์เริ่มจางหายไป พื้นฐานไม่ดีของไทยก็กลับมาให้เห็นอีกครั้ง” ทีมวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ระบุ
หุ้นไทยร่วงหนัก แตะระดับโควิด
Source: Bloomberg as of 18/3/25
จากกราฟด้านบน จะเห็นได้ว่าดัชนี SET ของไทยกำลังซื้อขายที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ในปี 2020 โดยดัชนีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2024 จนถึงต้นปี 2025 หลังจากที่เคยฟื้นตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 1,700 จุดในช่วงปี 2021 – 2022 ปัจจุบันดัชนีอยู่ที่ประมาณ 1,200 จุด ซึ่งต่ำกว่าช่วงเริ่มต้นของปี 2024 อย่างชัดเจน
ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับภาวะท้าทายเช่นนี้ เราคงต้องหันกลับมามองถึงโอกาสในความยากลำบากที่อาจซ่อนอยู่ แม้ว่าภาพรวมจะยังคงหม่นหมองและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนจะลดลง แต่ราคาหุ้นที่ตกลงอย่างรุนแรงอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่สามารถมองข้ามความผันผวนระยะสั้นไปได้ การที่รัฐบาลยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การแจกเงินและการส่งเสริมการท่องเที่ยว แม้ผลลัพธ์ในปัจจุบันอาจไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความพยายามที่ไม่หยุดยั้งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
สิ่งสำคัญคือการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างรอบคอบในช่วงเวลาที่ตลาดปรับฐาน หากมีการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว เราจะเห็นการเติบโตที่สดใสของเศรษฐกิจไทยในอนาคต ที่จะเป็นแรงกระตุ้นให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
Definit SET Select พลิกกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทย ช่วยคัดเลือกหุ้นไทยเน้น ๆ ไม่เกิน 20 ตัว พิจารณา 3 ปัจจัย
Earnings หุ้นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น
Valuation หุ้นที่มูลค่าถูกกว่าอุตสาหกรรม
Technical หุ้นที่มีโมเมนตัมเชิงบวกของราคาในระยะสั้น
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | การลงทุนอาจมีการกระจุกตัวสูงทั้งในรายหุ้นและรายอุตสาหกรรม
ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ดี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด (บริษัท) ไม่สามารถยืนยันหรือรับรองความถูกต้องของข้อมูลเหล่านี้ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ บทวิเคราะห์ในเอกสารนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ทางวิชาการเกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์ และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขาย หลักทรัพย์ใดใดของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลมาจากวิจารณญาณของผู้อ่าน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพันธะผูกพันใด ๆ กับ บริษัท