สวัสดีครับนักลงทุนทุกคน บทความนี้จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับผลตอบแทนที่ผ่านมา (ตั้งแต่เริ่มแนะนำ 4 มิถุนายน 2019) ของพอร์ต Long Term Defensive Plus และจะให้มุมมองของผมที่มีต่อผลตอบแทนที่เกิดขึ้น แนวทางในการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของกองทุนในพอร์ต พร้อมทั้ง Comment เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดในครึ่งปีหลัง 2019 ที่น่าจะมีผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุน
ผลตอบแทนที่ผ่านมาของพอร์ต Long Term Defensive Plus
พอร์ต Long Term Defensive Plus ที่ได้มีการแนะนำให้กับผู้ลงทุนไปตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา เมื่อเราลองมาดูผลตอบแทนที่ได้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 (รูปที่ 1) ซึ่งระยะเวลาผ่านมาไม่ถึง 1 เดือน พบว่าผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 5.10% ต้องบอกว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงมากทีเดียวในระยเวลาสั้น ๆ อย่างไรก็ตามผมมีข้อสังเกตและมุมมองในการลงทุนที่อยากจะนำเสนอกับผู้อ่านหรือผู้ที่กำลังสนใจลงทุนในพอร์ต Long Term Defensive Plus เกี่ยวกับผลตอบแทนที่เกิดขึ้น ดังนี้ครับ
รูปที่ 1 กราฟแสดงผลตอบแทนของพอร์ต Long Term Defensive Plus (สีส้ม) เปรียบเทียบกับ MSCI World 100% Hdg NR USD (สีเทา) SET TR THB (สีฟ้า)
*ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อสังเกตแรก คือ ตลาดหุ้นขึ้น พอร์ต Long Term Defensive Plus ก็ขึ้นตามภาวะตลาดหุ้น เนื่องจากพอร์ตมีการถือกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสัดส่วน 50% ซึ่งในเดือนมิถุนายนตลาดหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจากพอร์ต Long Term Defensive Plus จึงออกมาดีตามไปด้วย ดังนั้นถ้าหากภาวะตลาดหุ้นไม่ดีหรือหุ้นตก ก็มีความเป็นได้เช่นเดียวกันที่พอร์ต Long Term Defensive Plus จะมีมูลค่าของพอร์ตที่ลดลง สิ่งที่อยากนำเสนอในข้อสังเกตแรกผมต้องการให้ผู้ลงทุนทำความเข้าใจไว้ล่วงหน้าก่อนว่า หุ้นขึ้นหรือลงเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของตลาดหุ้นที่มีความผันผวนขึ้นลง และการขึ้นลงของตลาดหุ้นจะส่งผลมายังมูลค่าพอร์ตของเราให้ขึ้นลงตามทิศทางของตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามพอร์ต Long Term Defensive Plus ถูกออกแบบมาให้มีความผันผวนที่น้อยกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นเพื่อให้ผู้ถือพอร์ตนี้ได้อย่างสบายใจ
รูปที่ 2 แสดงความผันผวนของมูลค่าพอร์ตการลงทุนที่มีความผันผวนมาก (สีแดง) และพอร์ตการลงทุนที่มีความผันผวนน้อยกว่า (สีเขียว)
ข้อสังเกตที่สอง การแสดงผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาสั้น ๆ อย่างนี้อาจจูงใจให้ผู้ลงทุนหันมาสนใจลงทุนในพอร์ต Long Term Defensive Plus อย่างไรก็ตามผมอยากให้ทำความเข้าใจว่าข้อมูลที่เห็นนั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น และเป็นจังหวะ “พอดี” ที่หุ้นขึ้นเร็ว ดังนั้นผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมที่เกิดขึ้นใน 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่แนะนำให้ผู้ลงทุนนำไปเป็นตัวอ้างอิงว่าผลตอบแทนการลงทุนในอนาคตจะต้องสูงแบบนี้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แต่อยากให้มองเป็นการลงทุนในระยะยาวมากกว่าเพราะไอเดียในการออกแบบพอร์ต Long Term Defensive Plus มุ่งหวังไปที่ผลตอบแทนเฉลี่ยแบบต่อเนื่องในระยะยาว (7-10 ปีขึ้นไป) ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 7-8%ต่อปี
แนวทางในการปรับเปลี่ยนสัดส่วนของกองทุนในพอร์ต
ผมค่อนข้างมีความมั่นใจว่าการกำหนดสัดส่วนการลงทุนของพอร์ต Long Term Defensive Plus ที่ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในหุ้น 50% ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนใน REITs และ Infra Funds 30% และลงทุนในกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้20% เป็นสัดส่วนที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ดังนั้นสัดส่วนของสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ไม่น่าจะถูกปรับ ยกเว้นว่าในอนาคตจะมีตราสารทางการเงินที่เข้าหลักเกณฑ์ในการพิจารณา คือ ช่วยลดความผันผวนของพอร์ต และน่าเชื่อถือได้ว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีมีความมั่นคงในระยะยาว ก็อาจจะมีการปรับสัดส่วนของกองทุนในพอร์ต
แต่เมื่อเวลาผ่านไป กองทุนแต่ละกองที่เราลงทุนอาจมีมูลค่าขึ้นหรือลงไม่เท่ากัน ส่งผลให้สัดส่วนของแต่ละกองทุนที่ถูกกำหนดไว้แต่แรกเปลี่ยนแปลงไป ก็จะมีการทำ Rebalance เพื่อให้สัดส่วนกลับมาอยู่ที่ 50% 30% 20% ตามที่กำหนดไว้แต่แรก
สถานการณ์การตลาดในครึ่งปีหลัง 2019 และผลกระทบต่อพอร์ต Long Term Defensive Plus
พอร์ต Long Term Defensive Plus นั้นเหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว รวมถึงกลยุทธ์ที่เหมาะสมคือค่อย ๆ ทยอยลงทุนไปเรื่อย ๆ แบบ Dollar Cost Average (DCA) หากผู้ลงทุนเป็นคนที่วางแผนการลงทุนแบบระยะยาว ผมคงต้องบอกว่าการคาดการณ์ภาวะตลาดจะมีประโยชน์น้อยมากต่อผลตอบแทนจากการลงทุนของเรา ดังนั้นผู้ที่ลงทุนในพอร์ต Long Term Defensive Plus ผมมีความเห็นว่าไม่ค่อยมีความจำเป็นนักในการติดตามสถานการตลาด ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อมูลที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจและอยากรู้มากที่สุดตัวหนึ่งก็ตาม
แม้ว่าสถานการณ์ตลาดในครึ่งปีหลัง 2019 จะมีความผันผวนมากหรือน้อย ตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง มูลค่าตราสารหนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม ผมยังยืนยันคำแนะนำเดิมให้ผู้ลงทุนมีวินัย ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่สนในภาวะการปรับตัวขึ้นลงของตลาดหรือมูลค่าพอร์ตที่ถืออยู่ เพราะสิ่งที่ผู้ลงทุนจะต้องเจออย่างแน่นอนคือ ช่วงเวลาที่ตลาดไม่ดี มูลค่าการลงทุนมีการปรับตัวลดลง ผลกำไรลดลง หรือหากเราเริ่มลงทุนในจังหวะที่ไม่ดีพอร์ตการลงทุนอาจมีมูลค่าติดลบได้ ซึ่งช่วงจังหวะเหล่านี้จะเป็นตัวทดสอบผู้ลงทุนเองว่ายังสามารถมีวินัย และพร้อมที่จะลงทุนในระยะยาวหรือไม่
หากถ้าผู้ลงทุนที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนระยะเพื่อคาดหวังผลตอบแทนสั้น หรือมีแผนที่จะต้องใช้เงินที่นำมาลงทุนในอนาคตอันใกล้ คงต้องแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในพอร์ต Long Term Defensive Plus ครับ เนื่องจากถ้าจังหวะในการลงทุนไม่ดี ผลที่ได้รับอาจจะออกมาเป็นขาดทุนได้ ซึ่งผู้ที่สนใจลงทุนระยะสั้น ๆ อาจจะตัดสินใจไปลงทุนโดยใช้กลยุทธ์อื่นที่มีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนแทน
ผู้ลงทุนท่านใดสนใจข้อมูลพอร์ต Long Term Defensive Plus สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/daddy-trader/long-term-defensive-plus/
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต