Michael Bloomberg เจ้าของบริษัท Bloomberg LP เริ่มต้นธุรกิจของเขาได้อย่างไรและมีหลักการคิดอย่างไร? เรามาเรียนรู้ประวัติคร่าวๆ และความเชื่อของเขากันดีกว่า
ตั้งแต่เขาจบมหาวิทยาลัย Bloomberg ทำงานให้กับ Salomon Brothers (บริษัทวาณิชธนกิจ) เป็นเวลามากกว่า 20 ปี เขาไต่เต้าขึ้นมาจากการเป็นพนักงานธรรมดา จนได้เป็น Partner แต่หลังจากนั้นไม่นานบริษัทของเขาก็ถูกซื้อไปโดยบริษัท Phibro Corporation
1. Take Risk. (กล้าที่จะเสี่ยง)
Bloomberg โดนไล่ออกจากงานประจำพร้อมเงินตั้งต้น 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และเขาได้เริ่มต้นเปิดบริษัทของตัวเองในวันต่อมาโดยทันที เขามีความตั้งใจจะเปิดบริษัทที่จะทำให้ทุกคนสามารถเห็นข้อมูลทางการเงินได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ด้วยความเชื่อที่ว่าคนเราจะลงทุนได้ดีขึ้นหากข้อมูลทางการเงินนั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เขาพยายามจะสร้างเทคโนโลยีที่จะมาจัดระเบียบข้อมูลทางการเงินทั้งหมดเพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้น เขาเริ่มสร้าง Bloomberg Terminal ก่อนช่วง internet boom ถึงแม้จะมีคนบอกว่าสิ่งที่เขาทำอยู่จะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
2. Make your own Luck. (กำหนดโชคชะตาของตัวเอง)
เพราะ Bloomberg ไม่เคยเชื่อในโชคชะตา ทำให้เขาคิดว่าถ้าเขาอยากให้บริษัทใหม่ของเขาเป็นที่รู้จักเขาต้องลงมือทำ เขาจึงตัดสินใจว่าทุกวันในเวลาเที่ยงตรง เขาจะนำกาแฟไปยืนด้านหน้าบริษัท Merrill Lynch เพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับลูกค้าในอนาคตของเขา ซึ่ง 3 ปีหลังจากนั้น Merrill Lynch ก็ได้เป็นลูกค้ารายแรกของ Bloomberg จริง โดยได้ซื้อ terminal ของ Bloomberg จำนวน 20 เครื่อง
3. Spark Your own Curiosity, Never Stop Learning. (ไม่หยุดที่จะเรียนรู้)
Bloomberg เชื่อในคำว่า “ทำไม” เขาเชื่อว่าคนเราควรจะเปิดกว้างต่อความรู้ใหม่ ๆ และไม่เลิกที่จะสงสัย เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยคนที่เชื่อว่าตัวเองรู้ทุกอย่างและคำโปรดของคนพวกนี้คือคำว่า “ไม่” คนพวกนี้จะชอบพูดถึงความเป็นไปไม่ได้และจะมีทัศนคติในแง่ลบ Bloomberg คิดว่าเราไม่ควรฟังคำพูดของคนพวกนี้และเรียนรู้ที่จะไม่เอาเป็นแบบอย่าง
4. Find an Audience to Serve. (ตอบสนองความต้องการของคนหมู่มาก)
Bloomberg รู้ว่า Bloomberg Terminal ที่เขากำลังสร้างขึ้นมานั้นจะต้องเป็นที่ต้องการของผู้คนใน Wall Street เพราะว่าด้วยประสบการณ์การทำงานใน Salomon Brothers ของเขาแสดงให้เขาเห็นว่าข้อมูลทางการเงินนั้นเข้าใจยากและคนธรรมดาเข้าถึงยาก นอกจากนั้นเขาก็ได้ทำสถานีโทรทัศน์ รวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและธุรกิจเพื่อที่ลูกค้าของเขาจะได้เสพข่าวได้ทันเวลา 24 ชั่วโมง
5. Be a Philanthropist, Give Back to the Community. (ช่วยเหลือผู้อื่น)
หลังจากที่ Bloomberg ทำหน้าที่เป็นนายกเทศมนตรี นครนิวยอร์ก เป็นเวลา 3 สมัย เขาก็ได้อำลาวงการการเมืองและหันความสนใจมาในเรื่องพัฒนาสังคม Bloomberg ใช้ตัวเลขและข้อมูลในการจัดสรรเงินบริจาคของเขา ซึ่งสะท้อนแนวทางของเขาในการบริหาร Bloomberg Terminal เขาบริจาคเงินโดยแบ่งเป็น 5 ส่วน คือ สาธารณสุข, สิ่งแวดล้อม, การศึกษานวัตกรรมของรัฐและศิลปะและวัฒนธรรม ในปี ค.ศ. 2018 มีการประเมินว่าเขาได้บริจาคเงินกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับหลากหลายองค์กรการกุศล
แปลและเรียบเรียงบางส่วนจาก
Michael Bloomberg: Top 5 Tips For Becoming A Successful Entrepreneur
Michael Bloomberg Defined