รับชมบน YouTube: https://youtu.be/ZVkeib82Th8
Ethereum มักถูกพูดถึงในฐานะเจ้าของสกุลเงินคริปโตฯ ที่มีมูลค่าตลาดเป็นที่ 2 รองจาก Bitcoin แต่แท้ที่จริงแล้ว Ethereum เป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ในโลกของคริปโตฯ ที่ Bitcoin เองก็ไม่สามารถแทนที่ได้ วันนี้เรามาทำความรู้จัก Ethereum ให้มากขึ้นกัน
Ethereum คืออะไร
- Ethereum เป็น Blockchain อีกเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งถึงแม้จะมีระบบกระจายศูนย์กลางในการประมวลผลเหมือนอย่าง Bitcoin Blockchain แต่สิ่งที่ทำให้ Ethereum เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไป นั่นคือการที่ Ethereum เป็น Programmable Blockchain หรือ Blockchain ที่สามารถให้ผู้ใช้งานใส่ Smart contract เข้าไปรันใน Blockchain ได้
- ทำให้สิ่งที่อยู่บน Ethereum Blockchain จะไม่จำกัดเพียงสกุลเงินหลักอย่าง Ether หรือ ETH แต่จะรวมถึงนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น Decentralized Apps, Decentralized Finance (DeFi), NFTs ไปจนถึง GameFi ด้วยนั่นเอง
รู้จัก Smart Contract กันหน่อย
- Smart Contract ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกในปี 1990 โดย Nick Szabo ผู้ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และทนายความในคนเดียวกัน
- โดย Szabo ได้เปรียบเทียบ Smart Contract ให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าคล้ายกับสิ่งที่เราเห็นได้จากตู้ขายของหยอดเหรียญที่เมื่อตั้งโปรแกรมไว้ว่าเมื่อลูกค้าหยอดเหรียญและกดเลือกน้ำโซดา ตู้หยอดเหรียญก็จะหย่อนกระป๋องน้ำโซดาพร้อมทอนเงินให้ลูกค้าอัตโนมัติ
- Smart Contract บน Ethereum Blockchain ก็ทำงานบนหลักการเดียวกัน คือเมื่อผู้ใช้งานได้ทำบางอย่างก็จะเกิดผลลัพธ์บางอย่างอัตโนมัติตามที่ได้โปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้า ไม่ต้องใช้คนหรือตัวกลางอื่นมาคั่นระหว่างกระบวนการอีก
จุดเริ่มต้นของ Ethereum Blockchain
- คอนเซ็ปต์ของ Ethereum Blockchain ถูกร่างขึ้นโดย Vitalik Buterin ตั้งแต่ปี 2013 จนกระทั่งถูกนำมาใช้งานจริงเมื่อปี 2015
- เหตุการณ์สำคัญที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นใน Ethereum Blockchain คือการถูกแฮ็กระบบในปี 2016 ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้เกิดความสูญเสียมูลค่ากว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- ผู้พัฒนา Ethereum จึงทำการ Hard Fork หรือการงอกเครือข่ายของ Blockchain ใหม่แยกจากเครือข่ายเดิม ทำให้เกิดเหรียญคู่ขนานที่ยังอยู่ใน Ethereum เครือข่ายเดิม เรียกว่า Ethereum Classic หรือ ETC นั่นเอง
- นับจากนั้นมา Ethereum ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความสามารถในการนำมาใช้งานได้กว้างขวางหลากหลาย ETH สกุลเงินหลักซึ่งหมุนเวียนอยู่ในระบบนิเวศของ Ethereum จึงได้รับความนิยมไม่แตกต่างกัน จนกระทั่งเป็นเหรียญคริปโตฯ ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเป็นอันดับสอง เป็นรองก็แค่เพียง BTC เท่านั้นเรื่อยมา
การอัปเกรด Ethereum สู่ Ethereum 2.0
- มีวัตถุประสงค์สำคัญคือเปลี่ยน Algorithm เดิมที่เป็น Proof-of-Work ให้เป็น Proof-of-Stake ซึ่งเชื่อว่าจะเสริมประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนให้กับ Blockchain ได้
- โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าในทางทฤษฎีแล้วการเปลี่ยน Algorithm ให้เป็น Proof-of-Stake จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า
- โดยแผนการสำคัญที่ว่านี้ถูกประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2020 และคาดการณ์ไว้ว่าจะแล้วเสร็จในประมาณปี 2022
- โดยในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการอัปเกรดอยู่เรื่อย ๆ อย่างในสิงหาคมปี 2021 ก็มีการทำ Hard Fork ครั้งสำคัญ เรียกว่า London Hard Fork ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญคือการวางระบบคำนวณค่าธรรมเนียมธุรกรรมบน Ethereum ใหม่ให้มีความผันผวนน้อยลง
- ส่วนเมื่อวันอัปเกรดสู่ Ethereum 2.0 อย่างเสร็จสมบูรณ์มาถึง สิ่งที่อยู่บน Ethereum ระบบเดิมรวมถึงเหรียญ ETH ก็จะถูกย้ายไปสู่ระบบใหม่อัตโนมัติ
พบความสุดพิเศษสำหรับคุณได้ในทุกวัน ทั้งบทความให้ความรู้เกี่ยวกับกองทุนรวม หุ้น คริปโตฯ และการบริการ โปรโมชั่น ของรางวัลต่างๆ ที่คัดสรรมาเพื่อมอบให้กับสมาชิก FINNOMENA เท่านั้น
👉 สมัครสมาชิกเว็บไซต์ FINNOMENA https://finno.me/register-website