Update: นักลงทุนสามารถซื้อกองทุน SSF-RMF กับ FINNOMENA ได้แล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ https://finno.me/tax-saving-fund1452
หลังจากที่ SSF และ SSFX มีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 (อาทิตย์ก่อน) ก็มีคำถามเข้ามาพอสมควร ผมขอสรุปรวมคำตอบของคำถามที่น่าสนใจไว้ตรงนี้นะครับ
SSFX ต่างกับ SSF อย่างไร?
SSFX เป็น SSF พิเศษที่ออกมาขายเฉพาะช่วงนี้เท่านั้นครับ เป็นนโยบายพิเศษของรัฐบาลในการลดความผันผวนของตลาดหุ้น โดยการให้คนที่ต้องการลดหย่อนภาษี ลดหย่อนเพิ่มเติมได้ในวงเงิน 200,000 บาท โดยมีระยะเวลาซื้อได้ถึง 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น วงเงินของ SSFX เป็นวงเงินพิเศษ ไม่ต้องไปรวมคำนวณกับ SSF หรือ RMF ใด ๆ ทั้งสิ้นครับ
และเนื่องจากเงื่อนไขของการถือ SSFX และ SSF นั้นต้องลงทุนถึง 10 ปีด้วยกัน ดังนั้นกลยุทธ์ในการเลือกต้องวางให้เหมาะสม
เลือก SSF หุ้นใหญ่
ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาต่างชาติขายหุ้นไทยไปถึง 480,000 ล้านบาท และด้วยที่ตลาดประเทศไทยเป็นตลาดเล็กการที่หุ้นจะขึ้นได้ต้องอาศัยเม็ดเงินต่างชาติ ถ้าต่างชาติกลับมาซื้อน่าจะทำให้กองทุนที่มีหุ้นขนาดใหญ่มีโอกาสทำผลตอบแทนเหนือตลาดได้ ดังนั้นผมจึงมองการลงทุนใน SSFX ที่เป็นหุ้นใหญ่ เลือกกองทุนที่ลงทุนในดัชนี SET50 เช่น PHATRA SET50 ESG-SSFX หรือ PRINCIPAL SET50SSFX ที่มี SSFX ด้วย
เลือก SSF ปันผล
ด้วยความที่ความผันผวนของตลาดช่วงนี้ค่อนข้างสูง การเลือกลงทุนในหุ้นที่มีการปันผลจะช่วยลดความเสี่ยงจากตลาดขาลงได้ ในขณะเดียวกันตามระยะเวลาที่ผ่านไปก็จะได้ปันผลทยอยจ่ายกลับมาก่อนที่จะถึง 10 ปีด้วย แม้จะต้องเสียภาษีเงินปันผลเล็กน้อย แต่ก็แลกมาด้วยความคล่องตัวที่เราจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอะไรก็ได้ ไปลงทุนต่อก็ได้ กองทุน SSF ปันผลที่ผมอยากแนะนำก็มี LHSMARTDSSF/SSFX อันนี้ลงหลายสินทรัพย์ หรือจะลง T-ES-EQDSSFX ของบลจ.ธนชาติก็ได้
เลือก SSF ที่มีการลงทุนต่างประเทศ
ข้อดีของ SSF ที่แตกต่างกับ LTF แบบเห็นได้ชัดเจนคือ SSF มีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ และมีการลงทุนต่างประเทศอยู่ด้วย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่มีการลงทุนในประเทศไทยเยอะแล้ว ที่จะกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ และลดหย่อนภาษีได้ด้วย กองทุนแนะนำก็เช่น PRINCIPAL IPROPEN-SSF ซึ่งลงทุนในกองทุนอสังหาฯ ชั้นนำของเอเชีย, Data Center และกองทุน Infrastructure ได้รายได้ที่ต่อเนื่องจากการปล่อยค่าเช่า
เลือก SSF หุ้นเล็กสายซิ่ง
ที่ผ่านมาหุ้นเล็กโดนถล่มขายออกมาเยอะมาก จากสภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ อย่างไรก็ตามอาจลงมาจนถึงจุดต่ำที่สุดแล้วก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าอยากลงทุนแบบเลือดสูบฉีด เน้นเดิมพันระยะยาว ASP-SME-SSF/SSFX ที่ลงทุนในหุ้นเล็กอาจจะเหมาะกับคุณ
เลือก SSF ธนาคารใหญ่ เน้นสะดวกบวกความมั่นใจ ลงทุนง่าย ขั้นต่ำน้อย
ผมแนะนำ K-SUPSTAR-SSFX ของกสิกรไทย กองนี้ลงทุนในหุ้นไทย ขั้นต่ำแค่ 500 บาท เปิดมานานแล้วมีกองเปิดขายอยู่แล้วคือ K-STAR ผมเองเป็นลูกค้ากสิกรไทยมานาน ถ้าการซื้อ SSF เน้นลดหย่อน K-SUPSTAR-SSFX ก็ดีอยู่ครับ ซื้อผ่าน K-Plus ง่าย ๆ สบาย ๆ แถมคือกสิกรเป็น 1 ใน 2 บลจ.ที่ออกมาการันตีว่าจะไม่มีเหตุการณ์ปิดกองทุนแน่นอน ก็ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ครับ แบงก์เขาใหญ่สภาพคล่องน่าจะดีกว่าแบงก์เล็ก
หวังว่าสรุปอันนี้จะช่วยให้หลาย ๆ คนตัดสินใจเลือกกองได้นะครับ ต่างคนต่างโปรไฟล์คงเลือกกองไม่เหมือนกันครับ
Buffettcode
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน