ประเทศจีนกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่มี GDP สูงสุดในโลกแทนสหรัฐฯ ถ้าใครติดตามเรื่องราวของจีนจะรู้ว่า GDP จีนกำลังจะแซงสหรัฐฯในอีก 10-15 ปีข้างหน้า หรือราว ๆ ปี 2030-2035
ทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่จะมีโอกาสเห็นจีนขึ้นเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกด้วยตาตนเอง โดยจีนมีความแข็งแกร่งอย่างการพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศของตนเอง ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประชากรจีนมีจำนวนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
หรือเรียกได้ว่าทำสินค้า บริการออกมาให้ติดตลาดตนเองเป็นอันดับต้น ๆ กิน market share เยอะ ๆ หุ้นจีนก็โตระเบิดแล้วยังไม่ต้องนับเรื่องการขยายไปยังตลาดอื่น ๆ
นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น ปัจจัยอื่น ๆ จะเป็นอย่างไรลองติดตามผ่านบทความนี้ดูครับ
GDP จีนกำลังเติบโตทยานฟ้าใกล้ Breakeven สหรัฐฯ เข้าเต็มที
ที่มา: CEBR World Economic League Table 2021
ถ้าจะมาดูกันว่าอะไรคือตัว Drive GDP ของจีนให้โตแรงแซงสหรัฐฯ ได้ จะเห็นว่าสัดส่วน GDP ของจีนมีส่วนผสมของภาค Service เป็นสัดส่วน 53.3% หรือครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจ เป็นการผลิตและภาคอุตสาหกรรม 39.4% เป็นภาคเกษตร 7.3%
ที่มา: Statista.com
ถ้า GDP จะโตแรง ๆ ได้แน่นอนภาค Service ต้องมีส่วนร่วมในการผลักดัน ผมเชื่อว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าภาค Service ของจีนจะโตระเบิดจากการจับจ่ายใช้สอยของคนจีนในประเทศ
ที่มา: World Bank
และล่าสุดการเติบโตของจีนกำลัง take off เหมือนกับจรวดที่ถูกจุดขึ้นฟ้าอย่างไรอย่างนั้น!! ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเนื้อ ๆ เน้น ๆ ไม่ได้ประมาณการมโนเอาแต่อย่างใด จึงเป็นที่มาของไอเดียการลงทุนในวันนี้ ว่าถ้าอยากลงทุนให้พอร์ตโตไปกับกระแสการใช้เงินของคนจีน ผมนึกถึงกองทุนหนึ่งของทาง K-Asset ที่เรียกได้ว่าลงทุนเน้น ๆ กับธีม Chinese Consumer
ตอบคำถามคั่นก่อนลุยเนื้อหากองทุน: ตอนนี้หุ้นเทคโนโลยีจีนลงทุนได้อยู่ไหม?
ผมเชื่อว่านี่คงเป็นคำถามสำคัญสำหรับสาวกหุ้นจีน ตลาดหุ้นโลกช่วงนี้ปรับตัวลงมาเยอะมากโดนแรงกดดันทั้งการขึ้นดอกเบี้ย และสงคราม ส่งผลให้หุ้นจีนก็ปรับตัวลงมาเช่นกันแบบมหาโหด
แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอเราลองมาดูสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ เนื้อ ๆ กันว่าหุ้นจีนยังน่าซัดอยู่ไหม?
เปิดบัญชีวันนี้ รับกองทุน K-CHINA-A(A) ฟรี ! 100 บาท 👉 รับคูปอง คลิก >>> https://finno.me/mevt-oa-pro
สรุป 3 เหตุผลโอกาสสำหรับสาวกคอหุ้นจีน
1. หุ้นจีนอยู่ในระดับที่โคตรถูก
ที่มา: msci.com วันที่: 31 มกราคม 2023
จากภาพเราจะเห็นได้ว่าหุ้นจีน PE ค่อนข้างต่ำ อยู่ที่ระดับประมาณ 10 กลาง ๆ ส่วนประมาณการ PE อยู่ที่ระดับประมาณ 10 ต้น ๆ
สิ่งนี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่าถ้าคุณเชื่อว่าเศรษฐกิจของจีนจะโตระเบิดไปอีกประมาณ
2. ผู้ที่คว้าโอกาสรับของถูกคือผู้ที่จะสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าในระยะยาว
ที่มา: boundedfinance.com วันที่ 9 กรกฎาคม 2021
จากภาพเราจะเห็นได้ว่าหากเลือกซื้อหุ้นที่ถูกโคตร ๆ (PE ต่ำ) ผลตอบแทนของเราจะเป็นบวกทั้งหมดและอยู่ในระดับที่สูงที่สุด ในขณะที่หากเราซื้อหุ้นที่มี PE สูง (ราคาแพง) ผลตอบแทนที่ได้ในช่วงสั้น ๆ อาจจะมีบ้าง แต่กลับกันแล้วในระยะยาวเราจะได้ผลตอบแทนติดลบเลยทีเดียว
ดังนั้นหากจะบอกว่าช่วงนี้ที่ราคาปรับตัวลง คือ โอกาส ก็คงจะไม่ผิดนัก
3. บิ๊กเทคของจีนจำนวนผู้ใช้งานยังแข็งแกร่ง
ที่มา: Tencent’s key operating metrics จัดทำโดย Mr. Serotonin
ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพที่ชี้ชัดให้เราเห็นว่าจำนวนผู้ใช้งานในแอปพลิเคชันสื่อสารของ Tencent ซึ่งมีสัดส่วนเป็นรายได้ของบริษัทยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง หรืออาจสื่อเป็นนัย ๆ ว่าจริง ๆ แล้วพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนและ Tencent ยังคงแข็งแกร่งดังเดิม
ที่มา: Bloomberg วันที่: 13 พฤศจิกายน 2019
ที่มา: statistia.com วันที่: 14 ตุลาคม 2022
และบิ๊กเทคราชันย์ E-commerce อย่าง BABA ก็ไม่น้อยหน้า จำนวนผู้ใช้งานยังคงเติบโตต่อเนื่องไม่มีหยุด!!
สุดท้ายที่สำคัญกองทุนที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ มีหุ้นบิ๊กเทคจีนเหล่านี้ด้วย!!!
K-CHINA-A(A) เติบโตไปกับพลังเงินของจีน
K-CHINA-A(A) มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก JPMorgan Funds – China Fund, Class JPN China I (acc) – USD ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ตั้งถิ่นฐานหรือดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 67% ของ NAV และปัจจุบันมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไม่น้อยกว่า 75% ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 : เสี่ยงสูง
โดยกองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีนเป็นหลัก ทางกองทุนใช้หลักการคัดเลือกหุ้นโดยเน้นไปที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และจัดเต็ม ๆ กับบริษัทที่ทางผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทน
สิ่งที่ทำให้ผมสนใจในกองทุน K-CHINA-A(A) คือสัดส่วนการลงทุนในกลุ่ม Consumer Discretionary ที่สูงถึง 32.1% หรือราว ๆ 1 ใน 3 ของกองทุนเลยทีเดียว ถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับที่อื่น ๆ
จาก Research ของ Mckinsey การลงทุนใน Consumer Trend ของจีนจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลง 3 ข้อด้วยกัน
- การ Digitization ของกลุ่มบริษัทที่กำลัง Transform ตัวเองเข้าสู่เทคโนโลยี เราจะได้เห็นบริษัทในจีนส่วนใหญ่แม้ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีแต่ใช้เทคโนโลยีกันอย่างเข้มข้นมาก ๆ
- การเพิ่มขึ้นของการบริโภคในประเทศ จีนรู้ว่าการจะเอาชนะในเกมมหาอำนาจนี้ได้จะต้องใช้ประโยชน์จากคน 1,300 ล้านคนของประเทศตนเองให้มากที่สุด ดังนั้นจีนเลยหันมาเน้นการบริโภคภายในประเทศ
- การแข่งขันที่รุนแรงในเชิงเทคโนโลยีทำให้จีนได้เปรียบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผู้นำเทคโนโลยีคือสหรัฐฯ แต่ผมเชื่อว่าถ้าถามใหม่ในวันนี้ หลาย ๆ คนอาจตอบว่าจีน ตัวผมเองก็ได้สัมผัสสินค้าจีนมาหลายยี่ห้อ นับว่าคุณภาพ และราคาถือว่าคุ้มค่ากว่าของสหรัฐฯ ในหลาย ๆ มุม จำนวนผู้บริโภคในประเทศที่มหาศาล ทำให้จีนสามารถทำต้นทุนได้ต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่ม Consumer Discretionary จึงน่าสนใจ แต่นี่ก็ไม่ใช่แค่จุดเด่นเดียวของกองทุน K-CHINA-A(A) เพราะอุตสาหกรรมอันดับ 2 ที่กองทุนลงทุนคือ Communication Services และอันดับ 3 คือ Information Technology ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคตทั้งคู่
ที่มา: JPMorgan Fund Fact Sheet
วันที่: 31 ธันวาคม 2022
ถ้าสังเกตตรง Top 10 Holdings จะเห็นว่าเสน่ห์ของ K-CHINA-A(A) อยู่ที่การลงทุนในหุ้นแบบ High-Conviction เน้น ๆ ในหุ้นจีนลูกครึ่งที่ได้ประโยชน์จากทั้งการเติบโตของ Consumer และ Technology อย่าง Tencent, Meituan และ Alibaba
ที่มา:JPMorgan Fund Fact Sheet
วันที่: 31 ธันวาคม 2022
ณ เวลาที่ผมเขียนอยู่นี้หุ้นหลักทั้ง 3 ตัวต่างมีการปรับฐานลงมามากพอสมควร ถือเป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว
BABA บริษัท E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลงมาจากจุดสูงสุดที่ราคาประมาณ 318.10 USD เหลือ 103.08 USD ลดลงมาเกือบ 70.00%
TENCENT บริษัท Game ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเจ้าของ Wechat ลงมาจากจุดสูงสุดที่ราคาประมาณ 773.6 HKD เหลือ 390.00 HKD ลดลงมาเกือบ 50.00%
MEITUAN บริษัทรีวิว จองร้านอาหาร และบริการต่างๆ ในราคาที่มีส่วนลด มีส่วนแบ่งตลาด 65% เป็นรายใหญ่ของประเทศจีน (อารมณ์คล้ายๆ วงใน + Grab บ้านเรา) ลงมาจากจุดสูงสุดที่ราคาประมาณ 460 HKD เหลือ 150.40 HKD ลงมาเกือบ 70.00%
หุ้นที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในสถานะที่กำลังเติบโตและได้รับผลประโยชน์จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ในช่วงก่อนหน้า ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องหันไปใช้บริการต่าง ๆ ออนไลน์มากขึ้นแม้ในระยะสั้นอาจมีการสะดุดบ้างจากการเปิดเมืองสลับกับการปิดเมืองสไตล์ zero covid ของจีน แต่ในระยะยาวเชื่อว่ายังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม Technology เป็นสิ่งที่ได้กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เป็น Luxury อย่างในอดีต นโยบายของจีนเองก็เน้นเรื่องการพัฒนา Technology เพราะสีจิ้นผิงเองก็รู้ว่า ถ้าจะชนะสหรัฐฯ ได้ สองสิ่งที่จะทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจคือ Technology และพลังการบริโภคมหาศาลของคนจีน 1,300 ล้านคน
ถ้าใครศึกษาอดีตจะพบว่าในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เมื่อโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้ชนะมักจะเป็นฝั่งผู้ท้าชิงเสมอ ผมเชื่อว่าจีนพัฒนาขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงที่มาพร้อมกับการบริโภคมหาศาล และ Technology ที่จะช่วยให้ธุรกิจของจีนสามารถพัฒนาได้แบบไร้ขีดจำกัด
ปี 2028 เราได้เห็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกแน่ ๆ ครับ และกองทุนจีนทั้งหลายที่มีอยู่ในตอนนี้ คงไม่ได้อยู่ที่ราคานี้แต่น่าจะเติบโตตามเศรษฐกิจและ Technology ของจีนไป ส่วนจะกำไรเท่าไรนั้น เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้
BuffettCode
เปิดบัญชีวันนี้ รับกองทุน K-CHINA-A(A) ฟรี ! 100 บาท 👉 รับคูปอง คลิก >>> https://finno.me/mevt-oa-pro
ดูข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่
https://www.finnomena.com/fund/K-CHINA-A(A)
https://www.kasikornasset.com/th/mutual-fund/fund-template/Pages/K-CHINA.aspx
https://am.jpmorgan.com/lu/en/asset-management/adv/products/jpm-china-i-acc-usd-lu0248042839
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในประเทศจีน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงบางส่วน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299