มองความก้าวหน้าเทคจีนผ่านหุ้น SMIC ผู้ผลิต Chip อันดับ 1 ของจีน เมื่อความหวังด้านเทคโนโลยีของจีน ยังดูตื้อตัน งบ Q3 ดีแต่ตลาดยังเฉย

ทุกคนทราบกันดีว่าจีนนั้นล้ำหน้ามากในเทคโนโลยีของ AI และล่าสุดยังมีข่าว Quantum .. แต่รู้หรือไม่ว่า จีนนั้นเก่งปลายน้ำ แต่ต้นน้ำ ยังต้องพึ่งหาต่างชาติมาก โดยต้นน้ำที่ว่าก็คือ Chip หรือ Semiconductor นั้นเอง

ปัจจุบันตลาด Semiconductor มีประเทศจีนเป็นผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด โดยชิปกว่า 60% ของทั้งโลก มีปลายทางเป็นการใช้งานของคนจีน ผ่านการเป็นตลาดมือถือและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้น่าแปลกใจนัก เนื่องจากประเทศจีนมีฐานประชากรที่เยอะมาก

SMIC จึงถือว่าสำคัญมากในแผนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของจีนที่มีชื่อเล่นว่า Made in China 2025 หวังลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

Semiconductor Manufacturing International (SMIC) คือผู้ผลิต chip หรือ Semiconductor รายใหญ่ที่สุดของจีนที่ถูกก่อตั้งมากว่า 20 ปี และที่สำคัญเป็นบริษัทที่เทคโนโลยีการผลิตล้ำหน้าที่สุดในจีน เหนือกว่าโรงงานอื่น ๆ มาก (SMIC พวก processor ต่าง ๆ เช่น CPU ในคอมพิวเตอร์ หรือ chip อื่น ๆ ที่ใช้ในมือถือ)

พูดว่าล้ำหน้าที่สุด แต่ยังคงตามหลังไต้หวันเกินกว่า 5 ปี และไปต่อไม่ได้ โดยหากวัดความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีด้วยขนาด chip ที่ผลิตได้ (ยิ่งเล็ก ยิ่งดี) SMIC ยังค้างเติ่งที่ 14nm เนื่องจากถูกแบน (มีเนื้อหาอยู่ช่วงท้าย) ส่วนทาง TSMC ของไต้หวันตอนนี้ผลิต 5nm กันแล้ว) รัฐบาลจีนจึงผลักดันสุด ๆ ร่วมทุนตั้งโรงงานกันเลยทีเดียว

เมื่อย้อนดูรายได้ของ SMIC ที่ผ่านมา

ปี 2018 มีรายได้ประมาณ 3,360 ล้านดอลลาร์

ปี 2019 มีรายได้ประมาณ 3,120 ล้านดอลลาร์

ปี 2020 มีรายได้ประมาณ 3,910 ล้านดอลลาร์

จนมาก้าวกระโดดในปี 2021 คาดจะปิดปี ได้ราว 5,450 ล้านดอลลาร์

งบไตรมาส 3 ปี 2021 เติบโตดี Margin เพิ่ม แต่ SMIC ประกาศรายได้อยู่ที่ $1,415.3 million +30.7% YoY และมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ $467.9 million +78.6% YoY โดยสาเหตุที่เติบโตขึ้นมาจากการที่บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากชิป 55/65 nm และ 0.15/0.18 micron chip เพิ่มสูงขึ้นเพราะราคาของ Semiconductor สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา (เทคโนโลยีเก่า โรงงานสร้างใหม่ ๆ ก็เลยไม่ผลิตสินค้าพวกนี้ แต่ demand ซื้อยังมีอยู่ เลยรับส้มหล่นไปเต็ม ๆ)

บริษัทให้ Guidance รายได้ในไตรมาส 4 ที่ $1,570 – 1,598 million เติบโตขึ้น 11-13% QoQ โดยมี Gross Margin ที่ประมาณ 31-33% ซึ่งบริษัทเชื่อว่าปัญหา Capacity Shortage ที่มีไม่พอกับความต้องการของลูกค้าจะยังคงเกิดขึ้นไปจนถึงปีหน้า และการเติบโตของปีหน้าจะขึ้นอยู่กับการขยายกำลังการผลิตของปีนี้ โดยเมื่อไม่นานมานี้บริษัทได้ประกาศลงทุนสร้างโรงงานขนาดใหญ่ที่สุดของตัวเอง มูลค่า $8.9 billion

สหรัฐแข่งกับจีน เรื่องเทคโนโลยีตลอด แต่ในเมื่อจีนยังต้องพึ่งพาสหรัฐ ทำให้สหรัฐได้เปรียบมาก เมื่อสหรัฐจับไต๋ได้ว่า จีนขาด semiconductor ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

และเมื่อทางจีนประกาศแผน Made in China 2025 อย่าง สหรัฐจึงแบนไม่หยุดยั้ง และมี SMIC อยู่ในนั้นด้วย

โดยในปัจจุบันลดความเข้มข้นมาบ้างแล้ว บริษัทไหนจะส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ SMIC ต้องได้รับการอนุญาตเสียก่อน เนื่องจาก “มีความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้” ในการนำสินค้าเหล่านั้นไปใช้ทางการทหาร แต่เป้าหมายจริง ๆ คือ ไม่ต้องการให้ประเทศจีนมีเทคโนโลยีเทียบชั้นได้

แต่สาระสำคัญที่สุดยังคงไว้อยู่ คือห้ามไม่ให้ขายเครื่องจักรผลิต chip EUV ที่มีเทคโนโลยีการผลิตต่ำกว่า 14nm ได้ เป็นผลให้ทางจีนติดแหงก ไปต่อไม่ได้ และจะถูกทิ้งห่างขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเทคโนโลยีที่เก่า ๆ สูงกว่า 14nm ใช้เครื่องจักรแบบเดิม ๆ นั้นต้องอนุญาตจ้า

เรื่องนี้ดูจะมีผล มากกว่างบใด ๆ ไปอีกระยะ จนกว่าจะสั่งเครื่องจักรใหม่ได้ หรือหาทางใหม่ ๆ ได้