ในช่วงธีมการลงทุนใน AI บูมเช่นนี้ ทุกท่านอาจได้ยินมาบ้างแล้วว่า ประเทศจีน ไต้หวัน และเกาหลี นั้นเทคโนโลยี ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าชาติตะวันตกอย่างอเมริกาและเยอรมนี ลองดูตัวอย่าง ข้อเท็จจริง สั้นๆ 3 ข้อ
- เชื่อหรือไม่ ทุกวันนี้ บริษัท ผลิต chips ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่ไต้หวัน คือ Taiwan Semiconductors Manufacturer Company (TSMC)
- อินเตอร์เน็ตที่เกาหลี เร็วที่สุดในโลก และจะเป็นประเทศแรกที่ใช้ 5G และ Samsung นั้นยอดขาย Smartphone แซง Apple ไปแล้ว
- จีนเองมี Amazon Facebook Youtube Netflix Google Uber Line ในรูปแบบของจีนเอง ซึ่งเทคโนโลยีล้ำกว่าฝั่ง US เสียอีก ได้แก่
- Amazon : จีนมี Alibaba ซึ่งไม่เพียงแค่ครอบครอง B2B แต่ยังเป็นเจ้าของ taobao t-mall อีกด้วย
- Facebook, Youtube, Netflix, Line : จีนมี Tencent ที่ครอบครองครบไล่ตามลำดับดังนี้ Weibo, Tencent Video(ผู้ใช้มากที่สุดตอนนี้ มากกว่า Youku ที่ Alibaba ซื้อไป), iChiyi, WeChat
- Google : จีนมี Baidu ซึ่งไม่เพียงแค่มี search engine .. แต่เน้นไปที่พวก AI ด้วย
นอกจากนี้ ประเทศแถบเอเชีย ยังมีการเติบโตที่สูงกว่าที่อื่นๆในโลก เนื่องจากเป็นประเทศเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน และอาเซียน และในเรื่องของประชากร และรายได้ ก็ดูดีกว่าประเทศเกิดใหม่ในแถบอื่นๆอย่างแอฟริกา และอเมริกาใต้ (เพราะจีน อินเดีย อินโดนีเซีย นั้นเติบโตขึ้นมาเร็วจริงๆ)
คราวนี้ มาดูหน้าหุ้นกันครับ ว่ากองทุน ASP-ASIAN กองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชียนสเปเชียลซิททูเอชันส์ ของ บ.ล.จ. Fidelity บริหารกองทุนโดย คุณ Suranjan Mukherjee
มีทั้ง TSMC, Tencent, Alibaba และ Samsung เลยครับ สำหรับ Top 5 ในขณะเดียวกันก็มีหุ้นที่เหมาะสมกับตลาดเกิดใหม่ กลุ่มธนาคารเช่น UOB และ HDFC (ในอินเดีย) ประกันก็มี AIA , ICT ก็มี China Mobile และน่าภูมิใจครับว่ามี ปตท บ้านเราอยู่ด้วย เรียกได้ว่าพยายามหาหุ้นที่ได้ประโยชน์จากขาขึ้นจริงๆ
ลักษณะการบริหารพอร์ต
ดูจากในอดีตนั้นผู้จัดการกองทุนคนนี้ ตั้งแต่เข้ามาบริหารกองทุนตั้งแต่ปี 2012 ผลตอบแทนเทียบกับคู่แข่งนั้นดีมาตลอด และ Dynamic การเปลี่ยนหุ้นค่อนข้างมากกว่ากองทุนอื่นๆ และแนวหุ้นจะค่อนข้างชื่นชอบไปทางเทคโนโลยีมากกว่า
การลงทุนจะกระจุกอยู่ใน 3 กลุ่มคือ เทคโนโลยี (25%) การเงิน (26%) และสินค้าอุปโภคบริโภค ตามวัฎจักร (13.11%) ตัวผู้จัดการกองทุนเองบริหารกองทุนได้อย่างยอดเยี่ยม City Wire จัดให้อยู่ในเรทติ้ง AAA คือดีมาก และอยู่ใน Top 25% ของผู้จัดการกองทุน เกือบตลอดเวลา
ผลตอบแทน และ ความเสี่ยง
ผลการดำเนินงานนั้นจัดว่าโดดเด่น เทียบกับกองทุนหุ้นเอเชียอื่นๆ ซึ่งแลกมาด้วยความผันผวนที่มากกว่ากองทุนอื่น เช่นกัน เพราะมีหุ้นเทคโนโลยีจีน เกาหลี ไต้หวัน ค่อนข้างมาก จะสังเกตว่าผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเกือบทุกช่วงเวลา ยกเว้นช่วง 6 เดือน อย่างไรก็ตาม กองทุนนี้ค่อนข้างสัมพันธ์กับพวกหุ้นเทคโนโลยีของทางสหรัฐฯ หรือตลาด NASDAQ จึงจัดว่ามีความเสี่ยงสูง เป็นกองทุน High Risk High Return ในระดับหนึ่ง แม้จะมีหุ้นกลุ่ม Defensive ผสมอยู่บ้าง แปรเปลี่ยนไปตามโอกาส
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมของกองทุนนี้ จัดอยู่ในเกณฑ์ทั่วไปสำหรับ FIF คือ ค่าธรรมเนียมขาย (เขียนว่าขาย แต่หมายถึงตอนเราซื้อหน่วยลงทุน) ไม่เกิน 1.5% และค่าบริหารจัดการต่อปี ก็อยู่ในอัตราปกติ ไม่เกิน 1.5%
พิเศษ
หากท่านสนใจเปิดบัญชีลงทุนเพื่อรับคำแนะนำลงทุนจริง กรุณากรอกรายละเอียดสั้น ๆ ได้ ที่ www.finnomena.com/nter-exclusive-club เพื่อรับบริการพิเศษจากเรา (จำนวนจำกัด)