ราคาหุ้น AMAZON โตขึ้น 20 เท่าจากจุดต่ำสุดช่วงวิกฤติ Subprime ในขณะที่กำไรโตขึ้นประมาณ 2.8 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน หุ้นเทรดอยู่ที่ระดับ P/E ประมาณ 187 เท่า ซึ่งหมายความว่าราคาหุ้นแบกรับความคาดหวังไว้เต็มๆ ในปีที่ผ่านมาบริษัททำกำไรได้ 2,585 ล้านดอลล่าห์ แต่มีอัตรากำไรสุทธิบางเฉียบที่ 1.74

บริษัทนี้ยังมีเสน่ห์อยู่จริงหรือ E-commerce ในไทยจะโตแบบนั้นรึเปล่า?

รายได้หลักกว่า 60% มาจาก e-commerce ในอเมริกา และ 32% จากต่างประเทศ ซึ่งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ทำให้ทุกคนรู้จัก อเมซอน แต่ว่าทำกำไรให้บริษัทน้อยเหลือเกิน

ส่วนธุรกิจที่ทำกำไรให้อเมซอนอย่างเป็นกอบเป็นกำ คือธุรกิจให้บริการด้าน Cloud ที่อเมซอนเรียกว่า Amazon Web Services ที่คิดเป็นเพียง 9% ของรายได้ ซึ่งธุรกิจนี้มีอัตรากำไรดีมากๆ คิดเป็นกว่า 80% ของกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Income) ของบริษัทเลยทีเดียว ในปีที่ผ่านมา

รายได้ของธุรกิจทั้งสามด้านยังโตต่อเนื่อง ซึ่งช่วงหลังๆ อเมซอนก็ออกมารุกธุรกิจในต่างประเทศ เช่น อินเดีย อย่างหนัก มีการลงทุนด้านระบบต่างๆ เป็นจำนวนเงินมหาศาล ซึ่งส่วนนี้ยังไม่ได้ทำกำไรให้อเมซอน ยังรอเวลาที่ธุรกิจในต่างประเทศจะถึงจุดคุ้มทุนและทำกำไรให้อเมซอนในอนาคต

หลายท่านอาจงง ว่า ราคาหุ้นแพงจัง ทำไมมันขึ้นมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องบอกว่าหุ้นมันแบกความคาดหวังไว้เยอะจริงๆ ซึ่งถ้าตัวเลขกำไรของบริษัทผิดความคาดหวังถึงแม้ว่าจะมีการเติบโตดีขึ้น ก็มีโอกาสโดนเล่นงานได้ง่ายๆ อย่างล่าสุดรายได้จาก Cloud ก็พลาดเป้า

อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้หุ้นนี้แพงมากหากดูแค่กำไร เพราะว่าบางทีหุ้นต่างประเทศในบางธุรกิจโดนเฉพาะที่อยู่ในช่วงกำลังเติบโต นักลงทุนอาจจะให้ความสำคัญกับกระแสเงินสดมากกว่า เพราะฉะนั้นเราก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ไว้ด้วยหากคิดจะออกไปโลดแล่นในต่างประเทศ

ป.ล. อ่านเกมส์ออกไหมครับ เขาเล่นอะไรกันอยู่ Amazon ไม่ใช่แค่ เว็ปขายของอีกต่อไป เขามี Cloud ธุรกิจที่มีรายได้เพียง 9% ของทั้งหมด แต่กลับสร้างกำไรให้มากถึง 80% และกำลังเติบโตเป็น 2 เท่าของส่วนที่เหลือของบริษัท #ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน แต่เสน่ห์ชวนฝันนี้มันจะเป็นจริงแค่ไหน?

ไว้จะมาเล่าให้ฟัง ถึงธุรกิจ Cloud ต่อครับ

BottomLiner