บทความนี้อย่าได้หวังเห็น PE เทียบค่าเฉลี่ย SD ใด ๆ เพราะคุณควรเทียบ growth ที่คาดหวังต่างหาก หากนำข้อมูลเหล่านั้นไปเทียบ growth ก็จะพบว่านั่นละคือสิ่งที่ผลักดัน ให้ PE ดีดไปมาแล้วเราค่อยเอาอดีตของมันมาหา SD .. คำถามสำคัญคือ แล้ว growth เป็นอย่างไร?
หุ้นก็คือบริษัท ต้องยอมรับว่า Megatrend ใหญ่ ๆ ของโลกที่เรารู้สึกตื่นเต้น เช่น Artificial Intelligence, Semiconductor, e-Commerce, Social Media บริษัทเกือบทั้งหมดจดทะเบียนในสหรัฐหรือมาซื้อขายในตลาดสหรัฐได้ เช่น Alibaba ของแจ็ค หม่า และ TSMC โรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อยู่ตลาดสหรัฐ แต่ทำรายได้ไปทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยี และขายความเหนือชั้น คู่แข่งหลัก ๆ ตอนนี้เห็นจะมีเพียงจีน ยุโรปบางประเทศ มากอบโกยรายได้จากประเทศกำลังพัฒนาอย่างเรา
ขึ้นชื่อว่า Megatrend แน่นอนครับ มันจะต้องไม่ธรรมดา รายได้เติบโตกัน 20-30% เป็นว่าเล่น … ที่สำคัญบริษัทเหล่านี้ใหญ่มาก ๆ หากคุณนำ Facebook และ Amazon ไปรวมกับหุ้นเทค FANGMAN จะมีน้ำหนักถึง ⅓ ของดัชนี S&P500 แล้วคิดว่าถ้าผู้นำมันดี (ขึ้นเอา ๆ) เพื่อน ๆ ก็ขึ้นตามครับ เทรดหุ้นบ้านเรายังดูเพื่อนบ้านเลยยย
ความยากของมันคือ ไม่ใช่ทุกตัวที่หุ้นขึ้น เราจะเห็นแล้วว่าหุ้นขวัญใจมหาชนที่เม่า ๆ รู้จักกัน ไม่ได้ทำ high ใหม่สักเท่าไหร่ แต่เป็นหุ้นคุณภาพคับแก้วอีกจำนวนมาก บ้างก็มี money game เข้ามาเกี่ยว
แล้วหุ้นไหน? ก็พวกหุ้นในกลุ่ม megatrend นั่นละครับ เลือกหุ้นเองอ่านต่อด้านล่าง ถ้าเลือกไม่ถูก ก็เลือกผ่านกองทุนครับ ยกตัวอย่างเช่น…
1. ONE-UGG-RA (ONE-UGG-ASSF สำหรับ SSF หรือ ONE-UGERMF สำหรับ RMF)
กองทุนยอดฮิตที่สร้างผลตอบแทนบวกประมาณ 90% ภายในปีเดียว (ข้อมูลวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563) ผ่านการลงทุนในหุ้นสหรัฐโดยเฉพาะฝั่ง Tech มีตัวดัง ๆ อย่าง Amazon, Facebook, Netflix, Shopify หรือหุ้นตามกระแส Tesla, Zoom (ช่วงหลังเพิ่มหุ้นจีนเข้าพอร์ตไปด้วย ตามเทรนด์ Tech Boom)
เราเคยเขียนรีวิวถึงไปแล้วในโพสต์นี้ (มาอัปเดตกองทุน of the year กันเถอะ ONE-UGG ราคาวิ่งขนาดนี้ยังน่าลงทุนไหม !! และกำลังจะอัปเดตอีกหลังงบไตรมาส 3 ประกาศครบแล้ว
2. TMBGQG (TMBGQGRMF สำหรับคนที่ต้องการ RMF)
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นชั้นนำระดับโลก ซึ่งส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นหุ้นสหรัฐ มีครบทั้ง Apple, Microsoft, Amazon, Alphabet, Facebook
จุดเด่นของ TMBGQG คือมีการกระจายความเสี่ยงเยอะแต่ยังสร้างผลตอบแทนได้ดี ตามไปอ่านรีวิว TMBGQG ได้ที่ “โควิดอยู่หรือไปจะคิดมากทำไม ถ้าเราเลือกกองทุนที่เหมาะสม”
3. อีกกองคือ TMBUS500
เรากำลังจะเขียนถึงเร็ว ๆ นี้ ฝากติดตามด้วยนะครับ
ถ้าหากอยากเลือกซื้อหุ้นเอง ก็ให้เราหาว่า Trend อะไรกำลังมา แบบจะต้องมาแน่ ๆ (ต้องมาจริง ๆ นะ ไม่ใช่เราแค่มโน) ทั้งจากนโยบายของ Biden (เวลานโยบายมา วิ่งแรงเสมอ) ซึ่งบางอย่างก็ไหลไปตาม timeline เช่น 5G และกระแสรักษ์โลก (ดู valuation กันเองนะ) และจาก covid-19 ซึ่ง ณ จุดนี้ เคยเล่าแล้วว่าเป็นก๊อก 2 … มันจะอยู่กับเราจนวัคซีนอนุมัติ ก่อนชะลอความร้อนแรง
คำว่าก๊อก 2 คือบริษัทลดรายจ่ายกันสุด ๆ โดยเฉพาะฝั่ง operation แต่สิ่งที่ยังลดไม่ได้ คือรายจ่ายเพื่อให้เกิดรายได้ เราจึงเห็นหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับรายได้วิ่งกันยกแผง โดยเฉพาะ Digital Ads
หรือบ้างจะไปเน้นหุ้นที่รอดจาก covid-19 จะได้ตลาดจากคู่แข่งที่ล้มหายตายจากในอุตสาหกรรมเดียวกันไป ก็ high risk high return ครับ ตอนนี้เม็ดเงินเก็งกำไรพุ่งเข้าไปแล้วครับ งบน่าจะยังจืด ๆ กัน
ข้อได้เปรียบหนึ่งที่ดีมาก แม้เราจะเป็นเม่า คือ คุณไม่ต้องเป็นนักวิเคราะห์ชั้นนำ ขอแค่เป็นผู้ใช้งาน Facebook หรือ Instagram บ่อย ๆ ก็พอจะประเมินได้ว่าอนาคตหุ้น FB จะเป็นยังไง หรือกลุ่มสาว ๆ ที่ชอบใช้ Pinterest แอปฯ ใหม่มาแรงในไทย อาจเห็นโอกาสจากหุ้น PINS ก่อนนักวิเคราะห์ใน Wall Street ด้วยซ้ำ !! (วิ่งมาพร้อม ๆ snap twitter เรียกว่า millennials น่าจะคุ้นเคยกว่านักวิเคราะห์อายุเยอะ ๆ ที่มี power)
ส่วนท่านใด ส.ว. หรือ รุ่นบูมเมอร์ ก็แอบดูลูก ๆ เอานะครับ ว่าเค้าใช้อะไรกัน เฮโลกันไปทางไหน ฮาาา
และทิ้งท้ายแถม macro ให้
สถานการณ์หลายอย่างชี้ไปว่าตลาดหุ้นสหรัฐมีปัจจัยบวกรออยู่ เช่น คนในประเทศจะได้รับวัคซีนก่อนชาติอื่น รวมถึงนโยบายรัฐต่อจากนี้จะเน้น American First และประชานิยมเอาใจสุด ๆ นี่คือตัวช่วยที่ทำให้หุ้นขึ้นต่อไปได้ครับ
ป.ล. ความเสี่ยงทางราคาช่วงสั้น ก็เห็นจะเป็นการอนุมัติวัคซีนครับ
อ่านเหตุผลทาง macro ทำไมหุ้นสหรัฐขึ้น?
BottomLiner
ที่มาบทความ: https://bottomliner.co/uncategorized/us-stock-all-time-high-but-not-for-all-stocks/
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”