ล่าสุดบริษัท เบทาโกร กำลังยื่น Filing เพื่อ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งหากวัดด้วยรายได้ในปีที่ผ่านมา จะทำให้ เบทาโกร ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตและแปรรูปเนื้อสัตว์อันดับ 2 ของตลาดทันที
วันนี้ BottomLiner ชวนทุกคนมารู้จักและเข้าใจความแตกต่างของบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปเนื้อสัตว์ในตลาด 4 บริษัทด้วยกัน
CPF เครือเจริญโภคภัณฑ์
ฟาร์มสัตวที่เลี้ยงเอง: หมู ไก่ กุ้ง
ขนาดบริษัท 204,977 ล้านบาท ในปี 2564 มีรายได้ 517,584 ล้านบาท กำไร 13,082 ล้านบาท
โดยมีสัดส่วนรายได้จาก
- อาหารเพื่อการบริโภค 21%
- อาหารสัตว์ 25%
- การเลี้ยงสัตว์และแปรรูป 54%
ซึ่งมาจาก
- การผลิตและบริโภคในประเทศ 31%
- ส่งออก 6%
- เลี้ยงสัตว์และจำหน่ายในต่างประเทศ 63%
BETAGRO
ฟาร์มสัตว์ที่เลี้ยงเอง: หมู ไก่
ในปัจจุบันได้เสนอขายหุ้นสามัญเป็นจำนวน 500 ล้านหุ้น ที่ราคาพาร์ 5 บาท (ราคาหุ้นยังไม่มีการแจ้ง)
ในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 85,424 ล้านบาท กำไร 839 ล้านบาท
โดยมีสัดส่วนรายได้อย่างละเอียดตามที่บริษัทแจ้งดังนี้
- เกษตร 26%
- อาหารเพื่อบริโภค 30.3%
- ผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผลพลอยได้ 11.4%
- ปศุสัตว์ 10.4%
- ส่งออก 8.9%
- เนื้อสัตว์ไม่แบ่งบรรจุ 5.7%
- เลี้ยงสัตว์และจำหน่ายในต่างประเทศ 5.6%
- ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง 1.7%
- อื่น ๆ 0.09%.
ซึ่งมาจาก
- ในประเทศ 83%
- ต่างประเทศ 17%
TFG (ThaiFoodGroup)
ฟาร์มสัตว์ที่เลี้ยงเอง: หมู ไก่
ขนาดบริษัท 24,607 ล้านบาท ในปี 2564 มีรายได้ 35,074 ล้านบาท กำไร 561 ล้านบาท
โดยมีสัดส่วนรายได้จาก
- ไก่ 46.8%
- หมู 26.8%
- อาหารสัตว์ 26.8%
- อื่น ๆ 1.9%
ซึ่งเกือบทั้งหมดผลิตเพื่อบริโภคในประเทศมีส่งออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
GFPT
ฟาร์มสัตว์ที่เลี้ยงเอง: ไก่
ขนาดบริษัท 17,929 ล้านบาท ในปี 2564 มีรายได้ 14,090 ล้านบาท กำไร 209 ล้านบาท
โดยมีสัดส่วนรายได้จาก
- อาหารเพื่อการบริโภค 51.7%
- เลี้ยงสัตว์หรือปศุสัตว์ 27.7%
- อาหารสัตว์ 20.6%
ซึ่งมาจาก
- ในประเทศ 77.6%
- ส่งออก 22.4%
ทั้ง 4 บริษัทมีการส่งออกไปต่างประเทศ (แต่เน้นส่งออกมากน้อยไม่เท่ากัน) แต่บริษัทที่ตั้งฟาร์มในต่างประเทศเลยจะมีแค่ CPF และ BETAGRO
ทั้งนี้ข้อมูลจากบริษัททั้ง 4 มีการลงลักษณะบัญชีไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น CPF แจ้งว่ามีรายได้จากการเลี้ยงสัตว์และแปรรูป 54% ซึ่งรวมการเลี้ยงสัตว์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการแปรรูปต่าง ๆ ไว้ในหมวดนี้แล้ว แต่ข้อมูลที่เบทาโกรลงในการยื่น Filing จะย่อยหมวดหมู่มากกว่า ทั้งทีทั้งสองบริษัทนั้นมีการทำธุรกิจในลักษณะใกล้เคียงกัน
BottomLiner
ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/bottomlinerglobal/posts/5705494749465612