4 เทรนด์โลกคริปโต ที่น่าจับตา

ในปี 2021 คริปโตเคอร์เรนซีมีมูลค่ารวมของตลาดที่มากถึง 2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และก็เป็นอีกปีที่ได้เห็นการเติบโตของตลาดอย่างแข็งแกร่ง มีการเติบโตของมูลค่าตลาดคริปโตฯประมาณ 193% ทั้งยังเป็นปีที่หลากหลายธีมในโลกคริปโตฯ ได้กลายมาเป็นกระแส และถูกให้ความสนใจในวงกว้าง นักลงทุนต่างหันมาสนใจการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ กันมากขึ้น เช่น โปรเจกต์ที่เกี่ยวกับ NFT และ Metaverse ในบทความนี้ เราก็จะมาดูเทรนด์หลักในโลกคริปโตฯ ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างสูงในระยะยาว และทุกคนควรจับตามองต่อ ๆ ไป

1. DeFi

4 เทรนด์โลกคริปโต ที่น่าจับตา

(Source: Coin Culture)

DeFi หรือ Decentralized Finance คือ ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ ที่ไม่มีตัวกลางในการทำธุรกรรม โดยจะทำงานอยู่บนเทคโนโลยีบล็อกเชน และอาศัย Smart Contract ในการบันทึกธุรกรรมต่าง ๆ มีบริการการเงินที่ครบวงจรในการใช้งาน เช่น บัญชีเงินฝาก การกู้ยืมเงินแบบ P2P (Peer-to-Peer) ตลาดแลกเปลี่ยนไร้ตัวกลาง การประกันภัย และ การสร้างโทเคนจากสินทรัพย์ ทั้งยังสามารถตัดในเรื่องต้นทุนการดำเนินงานของสถาบันการเงินในปัจจุบันด้วย จึงทำให้มีการเปิดประเด็นที่ว่า DeFi จะเข้ามาเป็นอนาคตแห่งโลกการเงินหรือไม่ และจะแทนที่ระบบการเงินเก่าไปเลย หรือเป็นการผสมผสานกันระหว่างระบบที่มีตัวกลางและไร้ตัวกลาง

DeFi ก็ได้กลายมาเป็นกระแสตั้งแต่ปี 2021 ที่มีคนเข้ามารู้จักและพูดถึงในวงกว้าง และเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนที่พุ่งขึ้นถึงเกือบ 1,000% ในปีที่ผ่านมา และสำหรับปีนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งปีทองสำหรับ DeFi ปัจจุบัน มีมูลค่าเม็ดเงินลงทุนมากถึง 52.86 พันล้านดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตาม DeFi ยังอยู่ในช่วงการเริ่มต้น และยังมีความเสี่ยงมากมาย เช่น การฉ้อโกงและการโจรกรรม และ การใช้งานที่พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีตัวกลางที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ ก็ยังเป็นเรื่องที่เข้าถึงยากในหมู่คนทั่วไปด้วย DeFi จึงยังมีพื้นที่ให้เติบโตและพัฒนาอีกมหาศาล

2. NFT

4 เทรนด์โลกคริปโต ที่น่าจับตา

(Source: The New Yorker)

NFT หรือ Non-Fungible Token คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถลอกเลียนหรือใช้ทดแทนกันได้ ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชน มักถูกนำไปใช้แทนรูปภาพ วีดีโอ ดนตรี อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยชิ้นที่เป็นที่นิยมมาก ก็จะเป็น รูปภาพชุด CryptoPunks และ Bored Ape Yatch Club ซึ่งราคาของบางชิ้นงาน NFT ก็ทะลุเกินสิบล้านดอลลาร์ และยังมีการประมูล NFT ที่หายากกันอีกด้วย นักวาดภาพ รวมถึงศิลปินโนเนมทั้งหลาย จึงได้หันมาสร้างผลงาน NFT หวังทำรายได้ในระดับสูงจากการขาย ส่วนทางด้านแพลตฟอร์มซื้อขาย NFT เช่น Opensea และ SuperRare ก็สามารถทำรายได้มหาศาลจากการเก็บค่าบริการการเทรดด้วยเช่นกัน

ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ตลาด NFT ก็อยู่ในจุดที่คงที่ หลังจากที่ได้เห็นการเติบโตที่ถดถอยลงในปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสบูมของของสะสมในรูปแบบ NFT ในปี 2021 ที่ได้มีปริมาณการซื้อขายทั้งปีมากถึง 24.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเติบโตจากเพียง 94.9 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 แต่อย่างไรก็ตาม NFT ก็ถูกมองว่ามีสัญญาณของการกลับมาบูมอีกครั้ง ทั้งยังถูกมองว่าการบูมครั้งใหม่จะยิ่งใหญ่กว่า และ สามารถเป็นกระแสที่มาแรงกว่ากระแสเก่าของของสะสม NFT เลยทีเดียว โดยการเก็งกำไรในวงการของของสะสม NFT จะไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการซื้ออีกต่อไป แต่คนจะมองถึงประโยชน์ของ NFT ว่ามันสามารถนำไปใช้อะไรได้บ้างมากกว่า ซึ่งก็เห็นได้ว่าในปัจจุบัน หลากหลายบริษัทก็ยังคงเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ NFT เช่น วิดีโอเกม, การเงิน, สื่อบันเทิง, แฟชั่น และ กีฬา เป็นต้น

3. GameFi

4 เทรนด์โลกคริปโต ที่น่าจับตา

(Source: Inside Telecom)

GameFi มาจากการรวมคำกันของ ‘Gaming’ กับ ‘DeFi’ เป็นการผสมผสานเกมบนบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง และ เรียกได้ว่าเป็นเกมในรูปแบบ Play-to-Earn (P2E) ที่ผู้เล่นจะได้รับเงินในเกมเป็นโทเคน ไอเทม หรือของอื่น ๆ ที่มีมูลค่าทางการเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สามารถนำเอาไปใช้อัพเกรดต่าง ๆ ในเกม หรือ ทำรายได้จากการซื้อขายในตลาดคริปโตด้วยเช่นกัน จึงจะมีความแตกต่างจากเกมทั่วไปที่เน้นเล่นเพื่อชนะ ไม่สามารถทำเงินจากการเล่นได้ GameFi เลยกลายมาเป็นกระแส ที่ทำเงินให้กับคนจำนวนมาก ถึงขั้นที่ว่าเป็นรายได้หลักของบางคนเลย และปัจจุบันก็ได้มี GameFi ที่โด่งดังมากมาย เช่น Axie Infinity, The Sandbox Game และ Decentraland เป็นต้น ซึ่งตัวท็อปอย่าง Axie Infinity ก็เคยทำจุดสูงสุดของยอดผู้ใช้รายวัน อยู่ที่ 2.7 ล้าน ในช่วงปลายปี 2021 เลยทีเดียว

แม้ว่า GameFi จะมีมูลค่าตลาดที่ลดลงท่ามกลางสภาวะตลาดหมีนี้ แต่ยอดผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly Active Users) ก็ได้พุ่งสูงถึง 27% ในเดือนกันยนยนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขการเพิ่มขึ้นระหว่างเดือนที่สูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม และการเติบโตในสัดส่วนใหญ่ มาจากผู้เล่นรายใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นในเกม Arc8 และ Polygon

4. Metaverse

4 เทรนด์โลกคริปโต ที่น่าจับตา

(Source: ArchDaily) 

Metaverse คือ โลกดิจิทัลที่สามารถให้ผู้ใช้ได้สื่อสาร ทำกิจกรรม หรือทำงานร่วมกันได้แบบยกระดับ เสมือนว่าเราได้เข้าไปอยู่ว่าในสถานที่นั้นจริง ๆ ด้วยกัน โดยใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual reality (VR) เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลนี้ และยังมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน คริปโตเคอร์เรนซี และ NFT มาร่วมใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าและบริการบน Metaverse ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และไร้ซึ่งตัวกลางด้วย

โดยในช่วงปลายปีที่แล้ว Metaverse ก็เป็นกระแสที่บูมมาก และมีธุรกิจจำนวนมากที่พากันเร่งลุงทุนในการสร้าง Metaverse ของตัวเอง หลังจากที่ Facebook ได้มีการรีแบรนด์เป็น ‘Meta’ อันเนื่องมากจากแผนที่มุ่งสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลแบบโลกเสมือน หรือ Metaverse หวังที่จะให้คนสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้มากกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันก็ได้เปิดตัว Meta Horizon Home ไปแล้ว และ หวังที่จะมียอดผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 500,000 คน ภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ อีกหนึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ก็ได้นำ Metaverse มาใช้ โดยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Mesh หรือ ตัวละครเสมือน (Avatar) บนแพลตฟอร์มของ Microsoft Teams เช่นกัน

อ้างอิง Bitkub, eFinanceThai, Online Newstime, Nansen, Master ad, Bitcoin Addict, Defillama, Bitkub, NonFungible, Demand Sage, CryptoSlate, The Matter, The Standard, Content Shifu

Bitkub.com


คำเตือน

คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ | สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ | ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

TSF2024