มุมมองการลงทุนในปัจจุบัน

แม้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งแรกของปีจะชะลอตัวลง แต่ก็ถือว่าตัวเลขการเติบโตมีแนวโน้มดีกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ โดยมีแรงสนับสนุนจากภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และการเปิดประเทศจีนที่มาเร็วกว่าหลาย ๆ คนประเมินไว้ ในช่วงครึ่งแรกของปี BCAP ประเมินว่าเศรษฐกิจจะแผ่วลงเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจากดัชนีชี้นำอย่างเช่น Global PMI Manufacturing ปรับตัวลงต่อเนื่อง ในขณะที่เงินเฟ้อจะมีความหนืดเพิ่มมากขึ้นและจะปรับตัวลงน้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะเข้าสู่จุดสูงสุด หรือ Terminal Rate ภายในปีนี้ ภาวะการลงทุนจะมีความผันผวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐฯ มีราคาพื้นฐานที่แพงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ในขณะที่ประเทศจีนมีราคาพื้นฐานที่ถูกกว่า และมีความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดเล็ก ๆ จากรัฐบาลจีนเป็นระยะ ๆ เพื่อประคองการเติบโตของเศรษฐกิจให้เข้าสู่เป้าหมายที่บริเวณ 5.0-5.25% ซึ่งเราประเมินมาตรการกระตุ้นคาดว่าจะอยู่ในเรื่องของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากปริมาณเงินออมของคนจีนอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนโควิด ดังนั้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Consumer Products น่าจะได้ประโยชน์สูงสุด

 โดยมีประเด็นความเสี่ยงเพิ่มเติมที่น่าจับตามองในระยะต่อไปคือปัญหา Supply Disruption สืบเนื่องจากจีน-สหรัฐฯ เริ่มมีการโต้ตอบในการห้ามส่งออกแร่และสินค้าอิเล็กโทรนิค และราคาพลังงานที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นควรกระจายการลงทุนใน Multi-Asset และถือครองทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ต

แนะนำการลงทุน

ตราสารหนี้
BCAP-MFIX 10%
BCAP-GFIA 10% 

ตราสารหุ้น
BCAP-TEQ 10%
BCAP-GE 20%

Satellite
BCAP-CTECH 10%
BCAP-DISRUPT 10%

ทางเลือก
BCAP-GOLD 5%

Tactical Allocation
BCAP-GTAC 25%

สัดส่วนพอร์ตการลงทุน BCAP Dynamic Wealth Portfolio ที่มา: บางกอกแคปปิตอล วันที่: 17 กรกฎาคม 2023



คำเตือน
 ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้   กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น   กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย  เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด โทร  0 2618 1599 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299