เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เป็นอีกวันที่เหล่าโอตะหรือแฟนคลับของวง BNK48 ตั้งตารอคอย อีเวนต์สำคัญ “BNK48 2nd Generation – The Debut” ได้เปิดตัวสมาชิกรุ่นที่ 2 ของวงอย่างเป็นทางการ เริ่มเปิดการแสดงด้วยเพลง “Aitakatta อยากจะได้พบเธอ” ตามมาด้วยเพลงประจำของวง นั่นคือเพลง “BNK48” หลังจากนั้นได้มีการแนะนำตัวสมาชิกรุ่นที่ 2 ทั้งหมด 27 คน ให้ทุกคนได้รู้จัก และมีประกาศจากผู้จัดการวง BNK48 สมาชิกรุ่นที่ 2 จะมีงานจับมือพร้อมกับรุ่นที่ 1 ในวันที่ 18 – 19 สิงหาคม และมีการถ่ายรูป 2 shot กับสมาชิกรุ่นที่ 2 เพิ่มอีกด้วย (2shot คือการถ่ายรูปคู่กับสมาชิกของวงที่ได้เลือกผ่านบัตรที่แถมมากับอัลบั้ม BNK48 “River”) มีการเพิ่มรอบ BNK48 Theatre ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์วันละ 2 รอบ และสมาชิกรุ่นที่ 2 แสดงทุกวันศุกร์เวลา 19.00 น.
ยังคงสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่องด้วยการประกาศเพลง debut ของรุ่นที่ 2 “Tsugi no season ฤดูใหม่” โดยเพลงรองของซิงเกิ้ลที่ 4 นี้ได้แสดงวันนี้เป็นครั้งแรก มี มิวนิค เป็นเซ็นเตอร์ของวง และสมาชิกรุ่นที่ 2 ได้แก่ จูเน่ ฟ้อนต์ แบมบู ฟีฟ่า ดีนี่ แพนด้า เข่ง สตางค์ วี รตา วิว จีจี้ นิกี้ นิว มายยู ถูกเลือกมาร้องเพลงนี้ ซึ่งเป็นเพลงที่มีเนื้อหาพูดถึงการรับช่วงต่อความฝันของรุ่นพี่ รุ่นที่ 1 นั่นเอง ปิดท้ายการแสดงด้วยเพลง 365 วันกับเครื่องบินกระดาษให้แฟนคลับเหล่าโอตะได้ประทับใจกันไป มีการมอบช่อดอกไม้นำโดย เฌอปราง ปัญ และ อิซึรินะ สมาชิกรุ่นที่ 1 ของ BNK48 โดยเฌอปราง กัปตันของวงได้กล่าวว่า “ดีใจที่มีคนรับช่วงต่อ และภูมิใจในสมาชิกรุ่นที่ 2” เฌอปรางกล่าวด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ เซอร์ไพรส์ไม่หยุดยังมีต่อเนื่อง นั้นคือการประกาศซิงเกิ้ลที่ 4 “Kimi wa Melody” ส่วนใครจะได้รับเลือกเป็นสมาชิกหลักของซิงเกิ้ลนี้ รอติดตามต่อไป
ปัจจุบันวง BNK48 มีสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 26 คน เป็น 53 คน การมีสมาชิกที่เพิ่มขึ้นแน่นอนย่อมมีการแข่งขันกันในวงที่สูงขึ้นเพื่อรักษาคะแนนความนิยมของตัวสมาชิกเอง เป็นเหมือนพี่น้อง มิตรและคู่แข่งไปพร้อมๆ กัน หากเปรียบให้เห็นภาพได้ชัดเจน ไม่ต่างจากสโมสรฟุตบอลแห่งหนึ่งที่มีสมาชิกเข้ามาได้ และออกไปได้ โดย โดยมีการแข่งขันกันเป็นตัวจริงลงสนาม โดยคัดเลือกจากความสามารถ ความนิยมของสมาชิกเหล่านั้นที่มีการแข่งขันกันตลอดเวลา จากที่แข่งกันภายในรุ่น 26 คน ยิ่งทำให้ตัวสมาชิกของวงต้องพัฒนาความสามารถ และศักยภาพของตัวสมาชิกวงเองมากขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นไปตามระบบและกลยุทธ์ของวงที่ลงท้ายด้วยเลข 48 ของ อากิโมโตะ ยาสุชิ ผู้ก่อตั้งวง AKB48 วงรุ่นพี่และ วง 48 Group อื่นๆ ที่มีการแข่งขันเพื่อเพิ่ม Productivity ของวงและบริษัทให้มากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่เราไม่พูดถึงไม่ได้คือสินค้าของสมาชิกรุ่นที่ 2 ที่มีการออกสินค้าเหมือนกับรุ่นที่ 1 เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ที่ฮือฮากัน นั้นคือ Photoset 5 ใบ ราคา 250 บาท ณ เวลานั้น วงยังไม่ได้รับความนิยมและอยู่ในวงจำกัด ซึ่งเป็นไปตามอุปสงค์อุปทานที่รูปของสมาชิกรุ่นที่ 1 ออกมาน้อย เป็นของหายาก ราคารูปครบคอมพ์ (คอมพ์มาจาก complete คือสะสมรูปน้องคนนั้นๆ ครบทุกรูปในเซท) มีราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท ดังนั้นการที่ รูปสุ่มหรือ Photoset ชุดนี้ออกมา เป็นที่หมายตาของเหล่าบรรดาโอตะหรือแฟนคลับของวง เข้ามาสะสมรวมถึงเก็งกำไรด้วย แต่แน่นอนราคาอาจจะไม่ได้พุ่งถึงหลักหมื่นแล้ว
แต่สิ่งที่ทุกคนสนใจมากที่สุดคือ การได้มีโอกาสลุ้น SSR (รูปที่มีลายเซ็นต์ของสมาชิกวง BNK48 รุ่นที่ 2 ) จากการซื้อรูปของสมาชิกรุ่นที่ 2 ซึ่งราคารูปที่มีการประมูลสูงสุดของ BNK48 รุ่นที่ 1 ของ มิวสิค BNK48 มีราคาสูงถึง 455,000 บาท ยิ่งกระตุ้นยอดการสั่งซื้อได้เป็นอย่างดี และเป็นไปได้ว่าราคาของรูปมีโอกาสพุ่งสูงได้เทียบเท่ากับสมาชิกรุ่นที่ 1 เนื่องด้วยมีโอกาสลุ้นได้รับจำนวนจำกัดเช่นเดียวกัน เป็นการสร้างรายได้เปิดตัวได้อย่างมหาศาล ไม่ต่างจากสโมสร Juventus ซื้อตัว Cristiano Ronaldo ในวันแรกได้ขายเสื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และ ช็อปของสโมสร ไปมากกว่า 520,000 ตัว ใน 24 ชั่วโมงแรกของการประกาศการย้ายตัวจากสโมสร Real Madrid
เมื่อสมาชิกมีจำนวนมากขึ้น ในแง่การทำธุรกิจ สามารถเพิ่มกำลังและศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัท บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ ได้มากขึ้น โดยการให้สมาชิกรุ่นที่ 2 รับงานแทนสมาชิกรุ่นที่ 1 มากขึ้น สมาชิกรุ่นแรกก็ได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น แต่นั่นคือการที่บริษัทต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจมากขึ้นเช่นเดียวกัน การมีพื้นที่สื่อ หรือแอร์ไทม์ให้สมาชิกของวงได้แสดงความสามารถและดึงดูดแฟนคลับเข้ามามากขึ้น เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจต่างสนใจเข้าร่วมมากมาย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ลงทุนในบริษัท บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จำกัด (บีเอ็นเค48) ในอัตราส่วน 35% มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 182.25 ล้านบาท และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ได้มีการร่วมลงทุนในบริษัทจัดตั้งใหม่คือ บริษัท บีเอ็นเค โปรดักชั่น จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ สำหรับออกอากาศทางโทรทัศน์และออนไลน์ รวมทั้งจัดงานอีเวนต์และคอนเสิร์ต ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท เรียกชำระแล้ว 1 ล้านบาท บริษัท บีเอ็นเค โปรดักชั่น นี้ WORK จะถือหุ้น 50% ส่วน บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จะถือหุ้น 49.99% และคุณจิรัฐ บวรวัฒนะ ผู้บริหารจาก บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ ถือหุ้น 0.01% มีรายการกับทาง Workpoint แน่นอน 2-3 รายการ รองรับแล้ว
นอกจากการสร้างพื้นที่สื่อจากพาร์ทเนอร์และสปอนเซอร์ต่างๆ แล้ว จุดแข็งของวง BNK48 ที่ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องคือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกับทางวงก่อนหน้านี้ มีการถ่ายทำ MV “Koisuru Fortune Cookie คุกกี้เสี่ยงทาย” ระหว่างแฟนคลับกับสมาชิกวง ซึ่งในวันนี้มีประกาศกิจกรรมให้แฟนๆ cover ทำนอง solo เพลง ฤดูใหม่ โดยใช้เครื่องดนตรีไหนก็ได้ “ฤดูใหม่ Fan solo campaign” ทุกคนที่ cover ได้รับปิ๊กดีดกีต้าร์ และหากถูกใจทีมงานเลือกมา 16 คน จะได้ ปิ๊กดีดกีต้าร์พร้อมลายเซ็นต์สมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 ด้วย ซึ่งรางวัลไม่ได้มีต้นทุนมากมายนัก แต่มีมูลค่าทางจิตใจสูงต่อแฟนคลับเหล่าโอตะ หล่อเลี้ยงกระแสได้อย่างต่อเนื่อง
และที่เซอร์ไพรส์ที่สุด คือ BNK48 รุ่นที่ 2 เข้าร่วมงาน Nippon Kohaku ที่จะจัดในวันที่ 2 กันยายน แสดงเพลง “ฤดูใหม่” ในงานนี้ด้วย ซึ่งเป็นงานเดียวกันกับงาน Hi-five หรืองานแตะมือ Single ที่ 2 “Love attention มุ้งมิ้ง” ของวงไอดอล Sweat16 ด้วย เป็นเรื่องราวที่น่าติดตามในวงการไอดอล ที่หากไม่ได้ติดตาม ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว สินค้าที่อุปโภคบริโภค โฆษณา บนรถไฟฟ้า โฆษณาที่อยู่บนรถเมล์ที่ใช้เดินทางในทุกๆ วัน ล้วนมีชื่อ BNK48 เข้ามาวนเวียนรอบตัวเรา วงการด้านการเงินและการลงทุนต่างให้ความสนใจกับวงการบันเทิงและวงการไอดอลที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวนักลงทุนและคนทั่วไปเสียแล้ว
เป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับสมาชิก BNK48 รุ่นที่ 2 ที่ต้องแบกรับความฝันอันยิ่งใหญ่ของรุ่นพี่หล่อเลี้ยงกระแสและความนิยมของวง BNK48 ให้ยั่งยืนต่อไป เป็นความท้าทายในฤดูใหม่ของวง BNK48 ที่ยังคงเอาใจช่วยอิซึรินะ BNK48 ลุ้นให้ได้เป็นสมาชิกหลังของซิงเกิ้ลที่ 4 และวง Sweat16 ก็ยังคงมีความท้าทายเฉกเช่นเดียวกัน เป็นกำลังใจม่านมุก และ เอ๋ Sweat16 เช่นกันครับ
“Tsugi no Season”