ทองคำเป็นแหล่งเก็บมูลค่ามานานหลายพันปีและเป็นที่ต้องการในยามที่มีความไม่แน่นอน สินทรัพย์ชนิดนี้ไม่ได้รับความสนใจมากนักหลังจากวิกฤติธนาคารยุโรปในปี 2011 อย่างไรก็ตามความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีแนวโน้มทำให้เศรษฐกิจโลกแย่ลง และการขยายตัวของหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯ ก็อาจผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นได้
ทองคำพิเศษอย่างไร?
โดยทั่วไปจะมีการอภิปรายเกี่ยวกับประเภทของการลงทุนในทองคำ ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดกระแสเงิน เหมือนอย่างหุ้นหรือตราสารหนี้ มันเป็นโลหะมีค่าที่ใช้ในอุตสาหกรรมจึงโดนจำแนกเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย
แต่ความต้องการทองคำเพื่อโภคภัณฑ์เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของความต้องการทองคำทั้งหมด ในอีกแง่หนึ่งทองคำอาจถูกมองว่าเป็นของสะสม อย่างเช่น การซื้อและถือเครื่องประดับทองคำ
อย่างไรก็ตาม ประธาน Fed ช่วงปี 1987-2006 กลับมีมุมมองอื่น:
“ทองคำเป็นสกุลเงิน หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่าเป็นสกุลเงินชั้นเลิศที่ไม่มีสกุลเงินอื่นสามารถเทียบชั้นได้ แม้กระทั่งดอลลาร์” – Alan Greenspan
ทองคำใน DNA ของมนุษย์
ไม่ว่าคุณจะจำแนกทองคำอย่างไร ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่ามันทำให้เราหลงใหลมานานกว่า 5,000 ปี ถึงอย่างนั้น ชิ้นส่วนของทองคำธรรมชาติก็ได้ถูกค้นพบในถ้ำยุคหินซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึง 40,000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอียิปต์โบราณดูเหมือนจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ถลุงทองคำ และชาวเมโสโปเตเมียก็เป็นคนกลุ่มแรกที่ทำเครื่องประดับทองคำ เหรียญทองคำถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในราชอาณาจักรลิเดียในช่วง 700-550 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทองคำก็ถูกใช้เป็นเงินตรา
ในยุคต่อมา คาดว่า British West Indies เป็นกลุ่มแรกที่นำรูปแบบมาตรฐานทองคำมาใช้ในปี 1704 จากนั้น มาตรฐานทองคำระหว่างประเทศก็ตามมาในศตวรรษต่อมา ตั้งแต่นั้น สกุลเงินก็มักจะเชื่อมโยงกับทองคำ หรือทองคำและเงิน จนกระทั่งประธานาธิบดีนิกสันตัดสินใจที่จะยุติการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นทองคำในปี 1971 และนั่นก็ทำให้ระบบ Bretton Woods สิ้นสุดลง
ข้อดีของการถือทองคำในพอร์ต
สำหรับพอร์ตการลงทุน สิ่งที่สำคัญสุดคือคุณสมบัติของทองคำและผลกระทบที่มีต่อพอร์ตโดยรวม เมื่อเรามองทองคำ เราจะมองว่าเป็นสินทรัพย์แยกต่างหาก ทองคำมีสภาพคล่องสูง ไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิต และสามารถทำงานในฐานะตัวกระจายการลงทุนสำหรับพอร์ตการลงทุนของคุณเนื่องจากมันมักจะมีความสัมพันธ์ต่ำกับสินทรัพย์ประเภทอื่น
ทองคำไม่แปรผันตามหุ้น
ในขณะที่เรามุ่งเน้นไปที่หุ้นเป็นหลัก (บางครั้งมีการผสมผสานตราสารหนี้เข้ามาด้วย) เราได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและหุ้นโลก หากเราวัดตั้งแต่เดือนมกราคม 1988 ตลอดไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2019 ความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นโลกกับทองคำอยู่ที่ 3% ซึ่งดูๆ ไปแล้วก็ใกล้กับศูนย์
เมื่อดูที่ความสัมพันธ์แบบ 10-year rolling correlation ก็จะเห็นว่ามันเคลื่อนไหวในกรอบ 10% ถึง -10% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทองคำจะขึ้นในช่วงปรับฐานของตลาดหุ้น
จากการพล็อตดัชนีราคาหุ้นโลกและทองคำ เราจะเห็นว่าในช่วงที่ฟองสบู่ดอตคอมแตก ช่วงวิกฤตการเงินโลก และช่วงวิกฤติธนาคารยุโรป ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นในขณะที่ราคาหุ้นร่วงลง ราคาทองคำนั้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงขาลงของตลาดหุ้น
แหล่งเก็บมูลค่ามานานกว่าพันปี
ทองคำมีมูลค่ามานานหลายพันปีและเป็นที่ต้องการในยามที่มีความไม่แน่นอน
“มันมีบางอย่างเกี่ยวกับทองคำที่ทำให้ผมคิดมาหลายปีแล้ว และถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออก มันราวกับว่าในทางเทคนิคแล้วความสามารถในการมีความเสถียรด้านราคาของทองคำนั้นมีมูลค่ามาก” – Alan Greenspan
ในช่วงที่ตลาดหุ้นกระทิงกินระยะเวลายาวนาน และไม่มีเงินเฟ้อหลังจากวิกฤตธนาคารในยุโรป ทองคำไม่ได้แสดงผลที่น่าตื่นเต้นใด ๆ อย่างไรก็ตามความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันทำให้แนวโน้มการเติบโตทั่วโลกแย่ลง หนี้ภาครัฐของสหรัฐฯ อาจจะดึงดูดนักลงทุนในตลาดให้หันมาสนใจทองคำมากขึ้น และทองคำอาจจะเริ่มขยับขึ้นราคา
ทองคำสามารถใช้เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงและกระจายความเสี่ยงได้ หากตลาดหุ้นปรับตัวลง ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้น ในกรณีที่แย่ที่สุด อย่างน้อยทองคำก็จะยังมีค่าและไม่โดนผลกระทบจากหุ้นครับ
ที่มาบทความ: https://becomeabetterinvestor.net/blog/gold-can-shine-in-market-downturns/
**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลงด้วยสินทรัพย์อย่างตราสารหนี้และทองคำ หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ