ณ อายุ 12 ปี เด็กชายธนากร ธนวริทธิ์ สูญเสียคุณพ่อให้กับโรคมะเร็ง นอกจากความรู้สึกที่เหมือนจะสูญเสียทุกอย่างในชีวิต เด็กชายธนากรต้องออกจากโรงเรียนเพื่อให้พี่ชายคนโตได้เรียนต่อ และออกมาช่วยคุณแม่ขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครับที่สูญเสียคุณพ่อไป
คุณธนากรนิยามตนเองว่าเป็น “นักสู้ข้างถนน” ความจริงใจ ความซื่อตรง และการอยู่บนความเป็นจริง เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจของคุณธนากร อย่าสัญญาในเรื่องที่ทำไม่ได้ เรียนรู้ให้มากที่สุดในทุกเรื่อง เพื่อที่จะเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่องที่ตั้งใจจะทำ
ผ่านมาถึงปี 2013 บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งขึ้น และในวันที่ 8 พฤษภาคม 2019 บริษัทได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI โดยบริษัทได้พัฒนาโครงการทั้งคอนโดมิเนียมแบบ Low-Rise, ตึกสูง และทาวน์โฮมส์ รวมถึงบริการดูแลอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซ่อมบำรุง การรักษาความปลอดภัย และบริการนายหน้าซื้อขายอสังหาฯ สำหรับนักลงทุนต่างชาติ
เส้นทางธุรกิจของคุณธนากรมีที่มาที่ไปอย่างไร ร่วมแกะ Business DNA ที่ฝังอยู่ตัวคุณธนากรได้ในบทสัมภาษณ์ฉบับนี้
ดาวน์โหลดบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ)
Company DNA: บริษัท All Inspire Development
บทสัมภาษณ์นี้โฟกัสไปที่การทำความเข้าใจ DNA ของบริษัท ว่าอะไรที่ทำให้บริษัท All Inspire Development มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร เหมือนกับที่ DNA ทำให้คนแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ธุรกิจเองก็เช่นกัน
All Inspire Development มอบบริการด้านอสังหาฯ แบบครบทุกด้าน มุ่งเน้นเจาะกลุ่ม Mass-Premium ในตลาดอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัย
เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่สามารถคว้ามาได้
คุณธนากร: ช่วงที่ผมทำงานอยู่ 7-Eleven ผมก็ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วยตนเองเช่นกัน จุดนั้นทำให้ผมเห็นว่าคนทุกคนต้องการบ้าน เมื่อผมเห็นความต้องการของตลาด ผมจึงตัดสินใจที่จะเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ถึงผมจะไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา แต่ผมรู้เรื่องการตลาดและการขายของ ผมเลยเข้าไปศึกษาช่องว่างของตลาดตรงนั้น เมื่อได้ลองเริ่มทำจากสิ่งเล็ก ๆ มันทำให้ผมเห็นศักยภาพว่าจริง ๆ แล้วผมสามารถกลายเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้
ปรับตัวไปตามตลาด
คุณธนากร: ผมเชื่อว่าไม่มีใครครองตลาดได้ 100% เพราะผมทำงานเป็นพนักงานบริษัทมานาน ผมรู้ว่าเวลาพนักงานบริษัทต้องการจะซื้อบ้าน เขาอยากได้คอนโดหลังใหญ่ ๆ แต่ไม่สามารถซื้อได้ ส่วนใหญ่เลยต้องเริ่มจากหลังเล็ก ๆ ก่อน ผมเลยเข้าไปเจาะตลาดตรงนี้
สำหรับหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดอย่างผม มันง่ายมาก เมื่อไม่มีรากฐานก็ต้องสร้างมันขึ้นมา ธุรกิจต้องมีความยืดหยุ่นสูงมาก ยอมขายที่กำไรต่ำ ๆ ได้ ยอมลดราคา หรือยอมเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของลูกค้า ทั้งหมดทำได้โดยพนักงานไม่ต้องไปปรึกษาเจ้านายก่อน
ลูกค้าส่วนใหญ่ตัดสินใจจากเงินทุนตัวเอง
คุณธนากร: โมเดลในการทำธุรกิจของผม ผมโฟกัสที่ผู้คนมากกว่าแผนการ เมื่อพูดถึงทำเล ผมจะไม่เลือกที่เป็นถนนหลัก ผมจะเลือกทำเลที่ราคาจับต้องได้และมีความสะดวกสบาย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เลือกซื้อจากงบประมาณของตัวเองอยู่แล้ว ก่อนที่จะดูเรื่องของทำเล
ผมไม่ได้มีพื้นฐานวิศวะฯ แต่ถ้าอยากจะทำอะไร เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง ส่วนตัวผมเรียนรู้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นต้องเรียนในการบริหารธุรกิจให้ไปต่อได้ ปัจจุบันผมจึงพยายามที่จะอยู่กับความจริง และตอนนี้เราก็ขยายไปทุกกลุ่มเป้าหมาย เป็นธุรกิจอสังหาฯ เพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเจาะกลุ่มแมสแต่ยังคงความเป็นพรีเมี่ยมอยู่
อะไรคือสิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ?
คุณธนากร: จริง ๆ ตอนนี้เราเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว เปิดบริษัทมาได้ 6 ปีและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงบริษัทจะเล็กแต่ยังมีพื้นที่ให้เติบโต รายได้ตอนนี้อยู่ที่ 3 พันล้านบาท ซึ่งการจะก้าวไปถึงรายได้ 5-6 พันล้านบาทนั้นไม่ใช่แค่ฝัน แต่มีความเป็นไปได้
Leader DNA: คุณธนากร ธนวริทธิ์
ยอมออกจากโรงเรียนเพื่อช่วยครอบครัว
คุณธนากร: ตอนผมอายุ 12 ปี พ่อผมเสียจากโรคมะเร็งตอนท่านอายุ 45 ปี การสูญเสียคุณพ่อเหมือนการสูญเสียทุกอย่าง เราต้องขายทุกอย่างและไม่มีที่ให้อยู่
ผมหยุดเรียนเพราะที่บ้านไม่มีเงิน ผมต้องยอมเสียสละการศึกษาของผมเพื่อให้พี่ชายได้เรียนต่อ ผมมาช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวและเราก็ค่อย ๆ ขยายไปขายผัก ผมคิดว่าคนที่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิตให้กับผมมากที่สุดก็คือคุณแม่ของผมนี่ละครับ
แต่จริง ๆ แล้วอยากไปโรงเรียนมาก
คุณธนากร: ตอนนั้นผมอยากกลับไปเรียนมาก ผมจะร้องไห้ทุกครั้งเวลาเห็นเพื่อนไปเรียนหนังสือ ซึ่งต่อมาผมเริ่มหาทางหาเงินได้ ตอนเช้าตรู่ผมจะออกไปตลาดเพื่อซื้อไก่มาขาย และนั่นทำให้ผมมีเงินเพียงพอที่จะกลับไปเรียน
การทำงานที่ Starbucks หลังเรียนจบ และเรียนการเงินในวันหยุด
คุณธนากร: หลังเรียนจบ ผมไปสมัครงานที่ Starbucks ซึ่งตอนที่ทำงานอยู่ผมจะชอบเข้าไปที่แผนกการเงินแล้วก็ถามนู่นถามนี่ตลอด ผมพยายามจะเรียนรู้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุดเพราะผมอยากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หน้าที่ของผมตอนนั้นคือบริหารงานเสิร์ฟกาแฟที่สาขาวันต่อวัน แต่ผมก็อยากเข้าใจเรื่องการเงินให้มากขึ้นด้วย
หลังจาก Starbucks ก็ McDonald’s และ 7-Eleven
คุณธนากร: หลังจาก Starbucks ผมก็ย้ายงานไปที่ McDonald’s เพราะผมต้องการเติบโตขึ้นเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น ผมรู้ตัวอยู่แล้วว่าอยากเป็นผู้ประกอบการ ดังนั้นทางเดียวคือต้องได้งานที่เงินเดือนสูงและเก็บเงินไปเปิดธุรกิจของตัวเองให้ได้ ที่ McDonald’s ผมเริ่มได้เรียนรู้วิธีทำธุรกิจให้กับตลาดกว้าง และเรียนรู้วิธีการขยายธุรกิจ
หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปที่ CP All (7-Eleven) ทำงานในตำแหน่ง General Manager อีก 5 ปี ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคเยอะมาก เพราะงานที่ 7-Eleven มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แถมที่ร้านก็แทบไม่เคยมีเวลาไหนที่ว่างเลย
อะไรคือแรงผลักดันของคุณ? อะไรคือสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณผ่านช่วงยากลำบากมาได้? ช่วงเวลาไหนที่คุณต้องพึ่งพาแรงบันดาลใจนี้?
คุณธนากร: ผมเริ่มมาจากศูนย์และมันยากมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ เพราะฉะนั้นผมเสียมันไปไม่ได้ ผมไม่อยากให้การทำงานเก็บเงินเป็นพนักงานมาตลอด 20 ปีเป็นเรื่องสูญเปล่า นอกจากนั้นผมต้องดูแลคนในทีมด้วย ผมไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง
อีกอย่างหนึ่งคือผมยังไปไม่ถึงเป้าหมายในใจ เพราะเป้าหมายของผมก็คือการติดอันดับ 1 ใน 5 นักธุรกิจของโลก
อะไรคือสิ่งที่จำกัดการเติบโตของคุณอยู่?
คุณธนากร: ข้อจำกัดอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้คือ “ปริมาณความต้องการ“ โครงสร้างประชากรกำลังจะเปลี่ยน ไลฟ์สไตล์คนกำลังจะเปลี่ยน และกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ
ความท้าทายคือการหาคนที่มีทัศนคติคล้าย ๆ ผม เพราะผมไม่สามารถสร้างธุรกิจด้วยตัวคนเดียวได้ ผมเป็นคนทำงานไว ถ้าคนในทีมตามไม่ทัน มันก็ไม่ประสบความสำเร็จ
สรุปประเด็นสำคัญ
- ทฤษฎีได้จากการอ่านหนังสือ ความรู้ภาคปฏิบัติมาจากการทำงานจริง – ตอนคุณธนากรยังเด็ก เขาชอบอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ประสบความสำเร็จ เราสามารถเรียนรู้จากหนังสือได้ แต่มันเป็นทฤษฎี การทำงานกับผู้คนจริง ๆ จะให้ความรู้ภาคปฏิบัติที่เราเอาไปใช้จริงได้
- มุ่งมั่นในทุกสิ่งที่ทำ – คุณธนากรเรียนรู้การรักในงานที่ทำจาก Starbucks ถ้าคุณมีความหลงใหลในงานที่ทำ คุณจะอยากรู้ทุกอย่างที่จะทำให้คุณเก่งขึ้นได้
- ปรับตัวให้เข้ากับลูกค้า – สร้างสิ่งที่ผู้คนต้องการและมีความยืดหยุ่น พื้นฐานคุณธนากรมาจากพนักงานบริษัท เขาจึงเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างดี
- คนส่วนใหญ่ตัดสินใจจากเงินที่มี – บริษัท All Inspire Development โฟกัสไปยังอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาจับต้องได้ เพราะคนส่วนใหญ่จะดูงบประมาณของตัวเอง ก่อนที่จะดูทำเล
- “ปริมาณความต้องการ” คือสิ่งที่ขวางการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ไทย – ข้อจำกัดที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมนี้คือปริมาณความต้องการ เพราะโครงสร้างประชากรไทยกำลังจะเปลี่ยน ผู้สูงอายุกำลังเพิ่มขึ้น และไลฟสไตล์ของผู้คนกำลังจะเปลี่ยนไป
เรียนรู้เกี่ยวกับคุณธนากรและ All Inspire Development เพิ่มเติม
ในบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ)
บทความต้นฉบับโดย Andrew Stotz
ที่มาบทความ: https://becomeabetterinvestor.net/business-dna-from-starbucks-mcdonalds-and-7-eleven-to-real-estate/
**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ