รีวิว
- ไวรัสโคโรน่ายังคงเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นลง
- ความไม่แน่นอนเป็นตัวผลักดันทองคำขึ้น
- เดือนมกราคม 2020: ชนะหุ้นโลก อันเนื่องมาจากสัดส่วน 25% ในทองคำ รวมถึงตลาดหุ้นที่ทำผลงานได้ดี 2 อันดับแรก
- ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ต่ำว่าหุ้นโลกอยู่ 0.7%
- ตั้งแต่ก่อตั้ง: เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีความผันผวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของความผันผวนตลาดหุ้นโลกเล็กน้อย
- ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตการลงทุนนี้มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก ในช่วงเวลาเดียวกัน
มุมมองอนาคต
- ตลาดสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว
- ความตึงเครียดที่สหรัฐฯ มีกับจีนและอิหร่านยังคงอยู่ แต่ช่วงนี้จะเงียบไป
- ไวรัสโคโรน่าส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งตรงนี้ทองคำสามารถป้องกันความเสี่ยงขาลงได้
รีวิว: ไวรัสโคโรน่ายังคงเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นลง
- หุ้นยังคงมีมูลค่าที่สูง และปัจจัยพื้นฐานได้แตะระดับสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
- ตั้งแต่การปรับพอร์ตเมื่อเดือนธันวาคม 2019 พอร์ตได้ลงทุนในทองคำ หุ้นสหรัฐฯ และหุ้นญี่ปุ่น ด้วยสัดส่วน 25% ในแต่ละสินทรัพย์
- เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอันเกิดมาจากไวรัสโคโรน่าได้ฉุดดึงตลาดหุ้นทั้งหมดลง
- อย่างไรก็ดี หุ้นสหรัฐฯ และญี่ปุ่นทำผลงานได้ดีที่สุด
รีวิว: ความไม่แน่นอนเป็นตัวผลักดันทองคำขึ้น
- ผลการดำเนินงานของโภคภัณฑ์เมื่อเดือนมกราคมสะท้อนสถานการณ์ไวรัสระบาดในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ราคาน้ำมันและโลหะอุตสาหกรรมร่วงลงในขณะที่มุมมองการเติบโตในอนาคตก็แย่ลงเช่นกัน
- ความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นผลักดันให้นักลงทุนตามหา “สินทรัพย์หลบภัย” ทองคำจึงมีผลการดำเนินงานที่ดี
เดือนมกราคม 2020: ชนะหุ้นโลก อันเนื่องมาจากสัดส่วน 25% ในทองคำ รวมถึงตลาดหุ้นที่ทำผลงานได้ดี 2 อันดับแรก
รูปที่ 1: รูปเปรียบเทียบผลตอบแทน AWS กับสินทรัพย์อื่น ๆ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2020 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าหุ้นโลก 0.8% โดยเราได้ให้สัดส่วน 25% กับทองคำ ซึ่งกลายเป็นสินทรัพย์ที่ทำผลตอบแทนได้ดีสุดในเดือนมกราคม 2020
- นอกจากนี้ เรายังวางสัดส่วนอย่างละ 25% ในหุ้นสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดหุ้นสองแห่งที่ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุด
ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานที่ต่ำว่าหุ้นโลกอยู่ 0.7%
รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่าง AWS และ MSCI World
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2020 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีการกระจายการลงทุนในหุ้น 45% ตั้งแต่จัดตั้ง จนถึงเดือนกันยายน 2019 ได้เพิ่มสัดส่วนเป็น 65% หลังจากนั้น
- การมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ต่ำกว่าในเชิงเปรียบเทียบ ช่วยลดความรุนแรงของการปรับตัวลงเมื่อเทียบกับกลยุทธ์ที่มีหุ้นเพียงอย่างเดียว
ตั้งแต่ก่อตั้ง: เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นโลก พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีความผันผวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของความผันผวนตลาดหุ้นโลกเล็กน้อย
รูปที่ 3: ความผันผวนของแต่ละสินทรัพย์
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2020 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- ความผันผวนของพอร์ต A.Stotz All Weather Strategy คิดเป็นประมาณ 64% ของความผันผวนตลาดหุ้นโลก
- สัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่ 25% จนกระทั่งเดือนกันยายน 2019 ช่วยให้ความผันผวนของพอร์ต A.Stotz All Weather Strategy ต่ำ
- ทองคำไม่มีความสัมพันธ์กับหุ้น จึงช่วยลดความผันผวนของ พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy
ตั้งแต่ก่อตั้ง: พอร์ตการลงทุนนี้มีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก ในช่วงเวลาเดียวกัน
รูปที่ 4: ผลดำเนินงานของ 10 วันที่แย่ที่สุดของหุ้นโลก เทียบกับ AWS
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2020 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ลักษณะที่โดดเด่นของ A.Stotz All Weather Strategy คือ ตั้งเป้าให้ปรับตัวลงน้อยกว่า ยามตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง
- นับตั้งแต่ก่อตั้งพอร์ต เมื่อดูข้อมูลของ 10 วันที่ตลาดหุ้นมีผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุด พบว่าผลตอบแทนของ A.Stotz All Weather Strategy ปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดหุ้นโลกในวันนั้น
มุมมองอนาคต: ตลาดสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว
- ประเด็นหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ และประเด็นค่าเงิน เป็นผลบวกต่อทองคำ แต่เป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสหรัฐฯ อาจยังไม่เกิดขึ้น และหากมีการลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นช่วงสิ้นปี 2020 มีโอกาสประมาณ 65% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 2020
- อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่ต่ำ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์ที่เสี่ยงขึ้นอย่างหุ้น ในปี 2020 นี้
- เมื่อพิจารณาไปที่บริษัทเอกชน พบว่าปัจจัยพื้นฐานถึงจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้ Upside ของราคามีจำกัด
มุมมองอนาคต: ความตึงเครียดที่สหรัฐฯ มีกับจีนและอิหร่านยังคงอยู่ แต่ช่วงนี้จะเงียบไป
- การเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one) ของสหรัฐฯ และจีน น่าจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของหุ้นแข็งแกร่ง ในระยะสั้น
- แม้ว่าการเจรจาการค้า “ขั้นแรก” (Phase one) จะหาข้อสรุปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสงครามการค้าจะจบ และยังคงมีความไม่แน่นอนต่อไป
- แม้ว่าการที่สหรัฐฯ สังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่าน และการตอบโตของอิหร่าน จะไม่ได้เพิ่มระดับความขัดแย้ง แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่
มุมมองอนาคต: ไวรัสโคโรน่าส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งตรงนี้ทองคำสามารถป้องกันความเสี่ยงขาลงได้
- หากจีนไม่สามารถจำกัดการแพร่เชื้อของไวรัสโคโร่น่าไปสู่ประเทศอื่นๆ การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอาจแย่ลงอย่างรวดเร็ว
- กระทั่งตอนนี้ ไวรัสโคโรน่าก็ได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุปสงค์ อุปทาน และการท่องเที่ยวของโลก
- ความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมือง และประเด็นไวรัสโคโรน่า ส่งผลลบต่อมุมมองการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและหุ้น เป็นไปได้ว่านักลงทุนจะยังคงสับเปลี่ยนไปสู่ “สินทรัพย์หลบภัย” ในระยะสั้นนี้
สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค
รูปที่ 5: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 2020 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Thomson Reuters)
- พื้นฐาน (Fundamentals): หุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ROE (Return on Equity) สูงที่สุด
- มูลค่า (Valuations): ตลาดเกิดใหม่มีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ต่ำที่สุด และญี่ปุ่นมีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B ratio) ต่ำที่สุด
- แนวโน้ม (Momentum): หุ้นมีผลตอบแทนที่ดีในปี 2019 และคาดว่า EPS จะฟื้นตัวในปี 2020
- ความเสี่ยง: ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีอัตราหนี้สินต่อทุน (Gearing) ต่ำที่สุด
สรุป รีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนมกราคม 2020
- พอร์ต A.Stotz All Weather Strategy มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าตลาดหุ้นโลกเล็กน้อย แต่มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่ามาก
- หุ้นมีปัจจัยหนุนในระยะสั้น และเรามีเป้าหมายสัดส่วนการลงทุนที่ 65% ในหุ้น โดยให้น้ำหนัก (Overweight) ที่หุ้นญี่ปุ่นด้วย
- ความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมือง และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ส่งผลให้เรายังสนใจทองคำอยู่
Andrew Stotz
**สนใจลงทุนพอร์ต All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจดูข้อมูลและลงทุนในพอร์ตนี้ สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/port/andrew/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้