คอนเซปต์หลักพอร์ต All Weather Strategy
- Global – ลงทุนทั่วโลก ไม่จำกัดเพียงแค่ในประเทศไทย
- Long-term – สร้างผลตอบแทนระยะยาวจากหุ้น และลดการสูญเสียในช่วงที่ตลาดหุ้นพักฐาน
- Diversified – กระจายการลงทุนทั่วโลกผ่าน 4 สินทรัพย์
ภาพรวม All Weather Strategy
รีวิว:
- สหรัฐฯ ผลักดันให้หุ้นโลกทำจุดสูงสุดใหม่
- ตุลาคม 2021: พอร์ต AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 อยู่ 0.5%
- นับตั้งแต่จัดตั้ง: พอร์ต AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตการลงทุนดั้งเดิมแบบ 60/40
- นับตั้งแต่จัดตั้ง: พอร์ต AWS มีความผันผวนต่ำกว่าพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40
- นับตั้งแต่จัดตั้ง: มีการสูญเสียน้อยกว่าพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ในวันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด
- นับตั้งแต่จัดตั้ง: พอร์ต AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 จาก 63% ของเดือนทั้งหมด
- สรุป FVMR
มุมมอง:
- Fed และ ECB อาจสนับสนุนหุ้นฝั่งตะวันตกให้ทำราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง
- วิกฤตพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทานจะช่วยขับเคลื่อนโภคภัณฑ์
สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค
รีวิว: หุ้นสหรัฐฯ ผลักดันหุ้นโลก
รูปที่ 1: รูปเปรียบเทียบผลตอบแทนสินทรัพย์
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
รีวิว: ตลาดพัฒนาแล้วฝั่งตะวันตกเป็นสัดส่วนหลักของหุ้นใน AWS
- เราแบ่งสัดส่วนหุ้น 25% จากตลาดเกิดใหม่และเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่นไปยังสหรัฐฯ และยุโรปพัฒนาแล้ว เมื่อเดือนมิถุนายน
- เราไม่ปรับสัดส่วนในเดือนกันยายน
รีวิว: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวในเดือน ตุลาคม
- ในการอัปเดตครั้งก่อนหน้า เราคาดการณ์ว่าสภาสหรัฐฯ จะปรับเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งอาจทำให้หุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว
- สภาสหรัฐฯ ปรับเพิ่มเพดานหนี้เป็นจำนวน 4.8 แสนล้านเหรียญ จนทำให้หุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่และทำผลงานได้ดีที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม 2021
รีวิว: ตลาดหุ้นยุโรปพัฒนาแล้วทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2
- การเติบโตของ GDP ยุโรปในช่วงไตรมาส 3 ปี 2021 เหนือกว่าการคาดการณ์
- ECB เลื่อนการทำ QE Tapering ในส่วนของมาตรการพิเศษที่ออกมาเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ไปยังเดือนธันวาคม 2021
- การเปิดประเทศยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง
- หุ้นยุโรปยังทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง
รีวิว: หุ้นตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นทำผลงานตามหลังหุ้นยุโรปพัฒนาแล้ว
- การล็อกดาวน์ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศยังถูกจำกัด
- การแทรกแซงธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนส่งผลให้การลงทุนในจีนเกิดความไม่แน่นอน
- ปัญหาเกี่ยวกับ Evergrande ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอสังหาฯ จีน
- จีนมีสัดส่วนเป็นหลักในตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น
รีวิว: คงสัดส่วนตราสารหนี้ในระดับต่ำที่ 5%
- เรามีสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่ 5% เนื่องจากมีความน่าสนใจน้อยกว่าหุ้น
- กลยุทธ์ คือ ถือครองเพียงพันธบัตรรัฐบาลไทยเพียงเท่านั้น
- นอกเหนือจากหุ้นญี่ปุ่น สินทรัพย์อื่น ๆ ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกันในเดือนตุลาคม ดังนั้นการคงสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่ 5% เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
รีวิว: กลุ่มพลังงานยังขับเคลื่อนโภคภัณฑ์เป็นหลัก
รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนสินค้ากลุ่มโภคภัณฑ์
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กลุ่มพลังงานยังขับเคลื่อนโภคภัณฑ์เป็นหลักจากความกังวลด้านการขาดแคลนพลังงานโลก
- น้ำมันดิบ WTI มีราคาปิดที่ 83 เหรียญ/บาร์เรล ในเดือนตุลาคม
รีวิว: ทองคำปรับตัวขึ้นในเดือน ตุลาคม
- เรามีสัดส่วนลงทุนในทองคำอย่างน้อย 5%
- เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่เกิดความผันผวนและความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ส่งผลให้ราคาทองคำซื้อขายเหนือระดับ 1,800 เหรียญ/ทรอยออนซ์
- ถึงอย่างนั้น ถ้อยแถลงยึดมั่นของ Fed ที่จะลดการสนับสนุนเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงในช่วงปลายเดือน
- ทองคำมีราคาปิดที่ 1,783 เหรยญ/ทรอยออนซ์
ตุลาคม 2021: AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 ที่ 0.5%
รูปที่ 3: ผลดำเนินงานพอร์ต AWS เทียบกับพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- สหรัฐฯ: ทำผลงานได้ดีที่สุด ฟื้นตัวจากการทำผลงานได้แย่ที่สุดเมื่อเดือนกันยายน
- ยุโรปพัฒนาแล้ว: ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2
- โภคภัณฑ์: ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 4
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
รูปที่ 4: ผลดำเนินงานพอร์ต AWS เทียบกับพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- พอร์ต AWS มีสัดส่วนลงทุนในหุ้น 45-65% เป็นส่วนใหญ่และมีสัดส่วนลงทุนในทองคำ 25%
- ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม: มีสัดส่วนหุ้น 65%, ตราสารหนี้ 5%, ทองคำ 5%, โภคภัณฑ์ 25%
- ช่วยลดความเสี่ยงขาลงเทียบกับการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS มีความผันผวนต่ำกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
รูปที่ 5: เปรียบเทียบความผันผวนพอร์ต AWS กับสินทรัพย์ต่าง ๆ
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- สัดส่วนลงทุนในหุ้น 25-65% ช่วยลดความผันผวน
- ทองคำช่วยลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ตเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความสัมพันธ์กับหุ้น
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS มีการสูญเสียน้อยกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 ในช่วง 8 ใน 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานย่ำแย่ที่สุด
รูปที่ 6: พอร์ต AWS มีการสูญเสียน้อยกว่าหุ้นโลกในช่วง 8 ใน 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- จุดเด่นสำคัญของพอร์ต AWS คือ การลดความสูญเสียเมื่อตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง
- นับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต AWS สูญเสียน้อยกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 คิดเป็น 80% ของจำนวนวันทั้งหมด 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 จาก 63% ของเดือนทั้งหมด
รูปที่ 7: เปรียบเทียบผลการดำเนินงาน AWS และพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 จาก 63% ของเดือนทั้งหมด
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ในช่วง 20 เดือนจาก 32 เดือน พอร์ต AWS สามารถเอาชนะพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
มุมมอง: Fed อาจลดการซื้อสินทรัพย์โดยเริ่มขายในปีนี้ แต่จะยังไม่หยุด
- “ผมคิดว่ามันถึงเวลาปรับลดวงเงิน QE แต่ยังไม่ถึงเวลาของการลดดอกเบี้ย” เจอร์โรม พาวเวลล์ กล่าว ณ วันที่ 22 ต.ค. 2021
- เจอร์โรม พาวเวลล์ ยืนยันว่า Fed อาจลดการอาจลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ในปีนี้ แต่จะยังไม่ทำการขึ้นดอกเบี้ย
มุมมอง: สภาสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการล้มละลาย
- เพดานหนี้ที่สูงขึ้นจำนวน 4.8 แสนล้านเหรียญ จะช่วยให้รัฐมีเงินสนับสนุนถึงช่วงกลางเดือน ธันวาคม เป็นอย่างน้อย
- เราคาดว่าเพดานหนี้จะขยายตัวต่อเนื่องหลังแตะระดับสูงสุดปัจจุบัน เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจที่เปราะบางได้รับผลกระทบ
มุมมอง: ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิถุนายน 2022
- ภาระหนี้ที่สูงของรัฐอาจทำให้ Fed ไม่ขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่รวดเร็วหรือมากเกินไป
- ในตอนนี้ตลาดมองไปถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยที่ 70% ในเดือนมิถุนายน 2022 เทียบกับช่วงก่อนหน้าที่ 50% ในเดือนกันยายน 2022
- เราคาดว่า Fed จะประครองตลาดสหรัฐฯ ต่อไป
มุมมอง: ยุโรปยังมีโมเมนตัมต่อเนื่อง
- คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB เชื่อว่าเงินเฟ้อเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวเช่นเดียวกับ เจอร์โรม พาวเวลล์
- คริสติน ลาการ์ด เปิดเผยถึงการหยุดมาตรการกระตุ้นฉุกเฉินในช่วงโรคระบาด (PEPP) ในเดือน มีนาคม ปี 2022 แต่ยังคงการอัดฉีดอื่น ๆ ต่อเนื่อง
- ดังนั้นการไม่ลดวงเงินอัดฉีด การผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และเงินเฟ้อ เป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นยุโรปพัฒนาแล้ว
มุมมอง: จีนยังคงเผชิญความไม่แน่นอน
- หลายประเทศในตลาดเกิดใหม่และเอเชียยังคงมาตรการควบคุมโควิด-19
- นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการควบคุมและสถานการณ์อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
- ความกังวลต่อเนื่องเป็นผลลบต่อจีน รวมถึงสัดส่วนน้ำหนักที่มากของจีนในดัชนีตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น อาจทำให้ดัชนีดังกล่าวมีผลงานที่แย่ลง
มุมมอง: ตราสารหนี้ยังไม่น่าสนใจ
- เราคาดว่าตราสารหนี้จะทำผลงานได้ไม่ดี ดังเช่นการที่เราคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น
- สิ่งนี้สะท้อนผ่านสัดส่วน 5%
มุมมอง: วิกฤตพลังงานหนุนโภคภัณฑ์
- ปัญหาความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานโลกจะช่วยผลักดันราคาพลังงาน
- สภาพอากาศที่ย่ำแย่ส่งผลต่ออุปทานของสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรหลัก
มุมมอง: ปัญหาห่วงโซ่อุปทานอาจทำให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
- คาดว่าการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจตะวันตกและจีนจะช่วยสนับสนุนโภคภัณฑ์
- ปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลกจากการปิดเศรษฐกิจของรัฐอาจเป็นมากกว่าปัญหาชั่วคราว
มุมมอง: ทองคำยังไม่มีปัจจัยหนุน
- ในระยะยาวหากเรื่องราวของเงินเฟ้อยังดำเนินต่อเนื่อง อาจนำไปสู่ความคาดหวังเรื่องผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบ
- ช่วยสนับสนุนราคาทองคำ
- เราคาดว่า Fed และ ECB จะไม่มีการประกาศที่เหนือความคาดหมาย ดังนั้นเราไม่เห็นการสื่อสารที่จะช่วยผลักดันราคาทองคำไปในทิศทางใดก็ตาม
- คงสัดส่วนหุ้นที่ 65% และโภคภัณฑ์ที่ 25%
- คงสัดส่วนตราสารหนี้และทองคำที่ 5%
- เราคงสัดส่วนหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปพัฒนาแล้วที่ 25%
สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค
รูปที่ 8: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ
ข้อมูล ณ วันที่ 29 ต.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- พื้นฐาน (Fundamentals): หุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ROE (Return on Equity) สูงที่สุด
- มูลค่า (Valuation): ตลาดเกิดใหม่มี PE (Price-to-Earnings) ต่ำสุด และญี่ปุ่นมี PB (Price-to-Book) ต่ำสุด
- แนวโน้ม (Momentum): หุ้นสหรัฐฯ ขึ้นเยอะสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
- ความเสี่ยง (Risk): ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และญี่ปุ่น มีอัตราหนี้สินต่อทุน (Gearing) ต่ำที่สุด
ความเสี่ยง: เงินเฟ้ออาจเป็นเรื่องชั่วคราว
- พอร์ต AWS ถูกปรับให้ได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
- มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยชั่วคราว และอาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานของเรา
- นอกจากนั้น ความคาดหวังต่อผลตอบแทนในภาวะเงินเฟ้อ ตั้งอยู่บนพื้นฐานการปรับขึ้นดอกเบี้ย
- แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรปคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงปลายปี 2022
ความเสี่ยง: ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์
- หากรัฐบาลในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูงทำการล็อกดาวน์อีกครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อตลาดดังกล่าว
ความเสี่ยง: การล้มละลายของสหรัฐฯ
- ในขณะที่สภาอเมริกันซื้อเวลาผ่านการขยายเพดานหนี้ แต่ประเด็นดังกล่าวอาจกลับมาอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในเดือนธันวาคม
- หากสหรัฐฯ ล้มละลาย หุ้นสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจรวมไปถึงหุ้นโลก
สรุป รีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนพฤษจิกายน 2021
- พอร์ต AWS ทำผลตอบแทนได้เหนือกว่าพอร์ตสัดส่วน 60/40 ในช่วงเดือนตุลาคม
- การไม่ปรับลดวงเงินอัดฉีดของ Fed และ ECB อาจทำให้หุ้นไปต่อ
- โภคภัณฑ์ได้รับการขับเคลื่อนจากวิกฤตพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
- ความเสี่ยง: เงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว การล็อกดาวน์ครั้งใหม่เกิดขึ้นและสหรัฐฯ เกิดการล้มละลาย
Andrew Stotz
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน All Weather Strategy สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >>แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ FINNOMENA
**All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจสร้างแผนการลงทุน สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/guruport-andrew-all-weather-create/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”