คอนเซปต์หลักพอร์ต All Weather Strategy
- Global – ลงทุนทั่วโลก ไม่จำกัดเพียงแค่ในประเทศไทย
- Long-term – สร้างผลตอบแทนระยะยาวจากหุ้น และลดการสูญเสียในช่วงที่ตลาดหุ้นพักฐาน
- Diversified – กระจายการลงทุนทั่วโลกผ่าน 4 สินทรัพย์
ภาพรวม All Weather Strategy
- รีวิว: หุ้นยุโรปทำผลงานได้ดีที่สุด
- ผลการดำเนินงาน: ทำผลงานได้เหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ที่ 1.4%
- มุมมอง: ธนาคารกลางฝั่งตะวันตกยังคงมีนโยบายการเงินเชิงรุก โภคภัณฑ์มีปัจจัยหนุนจากวิกฤตพลังงานและปัญหาห่วงโซ่อุปทานโลก
- สรุป FVMR รายภูมิภาค
- ความเสี่ยง: เงินเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว เกิดการล็อกดาวน์ครั้งใหม่และสหรัฐฯ ล้มละลาย
รีวิว: หุ้นสหรัฐฯ ผลักดันหุ้นโลกจนทำจุดสูงสุดใหม่
รูปที่ 1: รูปเปรียบเทียบผลตอบแทนสินทรัพย์
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
สัดส่วนน้ำหนักสินทรัพย์นับตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2021
- เราไม่มีการปรับสัดส่วนในครั้งนี้
รีวิว: หุ้นสหรัฐฯ เป็นผู้นำในระยะยาวอย่างแท้จริง
สัดส่วนน้ำหนักหุ้นตามภูมิภาคนับตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2021
- เราไม่มีการปรับสัดส่วนในครั้งนี้
รีวิว: เน้นหนักในตลาดหุ้นตะวันตกพัฒนาแล้ว
- เมื่อเดือนมิถุนายน 2021 เราปรับสัดส่วน 25% จากตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นมายังหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปพัฒนาแล้ว
- เราไม่ทำการปรับสัดส่วนในเดือนกันยายนและเดือนธันวาคม
รีวิว: เราได้อานิสงค์จาก Santa Claus Rally!
- เราได้อานิสงค์จาก Santa Claus rally ถึงแม้จะมีข่าวเกี่ยวกับความกังวลเรื่องโอมิครอน ทำให้สินทรัพย์ทั้งหมดทำผลตอบแทนเป็นบวกในเดือนธันวาคม 2021
- ตลาดหุ้นยุโรปพัฒนาแล้วแข็งแกร่งที่สุดตามมาด้วยหุ้นสหรัฐฯ
- การจับจ่ายใช้สอยในช่วงวันหยุดและการอนุมัติวงเงินจำนวนมากของรัฐในสเปนและอิตาลีในปี 2022 ส่งผลให้หุ้นยุโรปทำผลงานอย่างแข็งแกร่ง
รีวิว: หุ้นตลาดเกิดใหม่ทำผลงานได้ไม่ดี
- ความกังวลเกี่ยวกับการล็อกดาวน์จากโอมิครอนส่งผลให้หุ้นตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นทำผลงานตามหลังตลาดพัฒนาแล้ว
- ความคาดหวังต่อเนื่องเกี่ยวกับการกระจายความเท่าเทียมส่งผลให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 อย่างจีนมีการเติบโตชะลอลง
- จีนมีสัดส่วนเป็นหลักในตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น
รีวิว: คงสัดส่วนตราสารหนี้ในระดับต่ำที่ 5%
- เรามีสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ที่ 5% เนื่องจากมีความน่าสนใจน้อยกว่าหุ้น
- กลยุทธ์ คือ ถือครองเพียงพันธบัตรรัฐบาลไทยเพียงเท่านั้น มากกว่าการถือพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้เอกชนทั่วโลก
- สินทรัพย์อื่น ๆ ปรับตัวขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น การมีสัดส่วนตราสารหนี้ในระดับต่ำเป็นผลดีต่อผลการดำเนินงานของกลยุทธ์
รีวิว: การฟื้นตัวของกลุ่มพลังงานขับเคลื่อนโภคภัณฑ์
รูปที่ 2: เปรียบเทียบผลตอบแทนสินค้ากลุ่มโภคภัณฑ์
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ราคาน้ำมันฟื้นตัวในเดือนธันวาคมหลังมีการคาดการณ์ว่าอุปทานจะหดตัว
- ตลาดตอบสนองเชิงบวกต่อข่าวโอมิครอนไม่รุนแรง
- ราคาน้ำมัน (WTI) ปิดตัวที่ 75 เหรียญ/บาร์เรล ในเดือนธันวาคม
รีวิว: ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนธันวาคม
- เรามีสัดส่วนลงทุนในทองคำอย่างน้อย 5%
- ทองคำตอบสนองต่อความคาดหวังเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษรวมไปถึงการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก่อนหน้า ส่งผลให้ราคามีความผันผวนสูง
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคมถึงแม้จะมีความผันผวน จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
- ราคาทองคำปิดตัวที่ 1,829 ดอลลาร์/ทรอยออนซ์ ในเดือนพฤศจิกายน
1 เดือนที่ผ่านมา: สัดส่วนหลักของพอร์ตอยู่ในสินทรัพย์ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 3 อันดับแรก
รูปที่ 3: ภาพแสดงผลตอบแทนพอร์ต AWS เทียบสินทรัพย์อื่น ๆ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- AWS: ทำผลงานเหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 อยู่ 1.4%
- หุ้นยุโรป: ทำผลงานได้ดีที่สุด
- หุ้นสหรับฯ: ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 2
- โภคภัณฑ์: ทำผลงานได้ดีที่สุดเป็นอันดับ 3
ทำผลงานได้เหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ดั้งเดิม
รูปที่ 4: ผลดำเนินงานพอร์ต AWS เทียบกับพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- นับตั้งแต่จัดตั้งกลยุทธ์ AWS มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 45-65% เป็นส่วนใหญ่และมีสัดส่วนในทองคำ 25%
- กลยุทธ์ทำผลงานในช่วงปิดปีเหนือพอร์ตการลงทุนแบบ 60/40 ดั้งเดิมอยู่ 1.0%
พอร์ต AWS ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง
รูปที่ 5: ผลดำเนินงานพอร์ต AWS และอื่น ๆ เทียบกับพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- พอร์ต AWS มีผลตอบแทนและผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงที่ดีกว่าในทุกช่วงเวลา
- พอร์ตืการลงุทนแบบ 60/40 มีจุดขาดทุนสูงสุดต่ำกว่าในปีที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพอร์ต AWS มีจุดขาดทุนสูงสุดเทียบผลตอบแทนที่ต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS มีความผันผวนต่ำกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
รูปที่ 6: เปรียบเทียบความผันผวนพอร์ต AWS กับสินทรัพย์ต่าง ๆ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- สัดส่วนลงทุนในหุ้น 25-65% ช่วยลดความผันผวน
- ทองคำช่วยลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ตเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความสัมพันธ์กับหุ้น
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS มีการสูญเสียน้อยกว่าในช่วง 8 ใน 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานย่ำแย่ที่สุด
รูปที่ 7: พอร์ต AWS มีการสูญเสียน้อยกว่าหุ้นโลกในช่วง 8 ใน 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- จุดเด่นสำคัญของพอร์ต AWS คือ การลดความสูญเสียเมื่อตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง
- นับตั้งแต่จัดตั้งพอร์ต AWS สูญเสียน้อยกว่าพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 คิดเป็น 80% ของจำนวนวันทั้งหมด 10 วันที่หุ้นโลกทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด
ตั้งแต่ก่อตั้ง: AWS ทำผลงานเหนือพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 จาก 62% ของเดือนทั้งหมด
รูปที่ 8: เปรียบเทียบผลการดำเนินงาน AWS และพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40 จาก 61% ของเดือนทั้งหมด
ข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ในช่วง 21 เดือนจาก 34 เดือน พอร์ต AWS สามารถเอาชนะพอร์ตดั้งเดิมแบบ 60/40
มุมมอง: Fed สนับสนุนตลาดสหรัฐฯ เมื่อต้องการ
- บริษัทสัญชาติอเมริกันทำผลงานได้ดีและมีอำนาจต่อรองทางด้านราคาทั่วโลก
- ถึงแม้มาตรการ ‘Build Back Better’ ของ โจ ไบเดน ไม่ผ่านการอนุมัติ แต่เราคาดว่าในอนาคตสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- ดังนั้น เราคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและจะได้รับการสนับสนุนโดยมาตรการกระตุ้นจากทางรัฐ
มุมมอง: Fed จะประคองตลาดสหรัฐฯ
- โจ ไบเดนและพรรคเดโมแครตต้องการนาย เจอโรม พาวเวลล์ ในการพยุงตลาด
- ตลาดคาดว่ามีโอกาส 57% ที่ Fed จะทำการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม ปี 2022
- เทียบกับช่วงเดือนธันวาคมที่ตลาดให้ความเป็นไปได้ที่ 70% เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ปี 2022
- ถึงแม้ว่า Fed จะลดการเข้าซื้อสินทรัพย์และปรับขึ้นดอกเบี้ย เราคาดว่าสิ่งต่าง ๆ นี้จะกลับกันหากมันส่งผลอย่างหนักต่อตลาด
มุมมอง: ECB สนับสนุนตลาดเช่นเดียวกัน
- ยุโรปฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
- ECB ประกาศลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ แต่การขึ้นดอกเบี้ยอาจยังไม่เกิดขึ้นในปี 2022
- เราคิดว่าธนาคารกลางจะยังต้องสนับสนุนหุ้นต่อไปถึงแม้ว่า Fed และ ECB พูดถึงการลดการเข้าซื้อสินทรัพย์และขึ้นดอกเบี้ย
- หากการปรับนโยบายส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อตลาด เราคาดว่าพวกเขาจะปรับนโยบายในทางตรงกันข้าม
มุมมอง: จีนยังคงเผชิญความไม่แน่นอน
- นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับการควบคุมและสถานการณ์อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์
- ความกังวลต่อเนื่องเป็นผลลบต่อจีน รวมถึงสัดส่วนน้ำหนักที่มากของจีนในดัชนีตลาดเกิดใหม่และเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น อาจทำให้ดัชนีดังกล่าวมีผลงานที่แย่ลง
มุมมอง: ตราสารหนี้ยังไม่น่าสนใจ
- ในระยะสั้น เราคิดว่าตราสารหนี้จะทำผลงานย่ำแย่กว่าหุ้น
- สิ่งนี้สะท้อนผ่านสัดส่วน 5%
มุมมอง: โภคภัณฑ์ยังไปต่อได้
- ราคาพลังงานอาจยังแข็งแกร่งต่อไปหลังความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานยังคงอยู่ต่อไปอย่างน้อยจนถึงช่วงต้นปี 2022
- ภาวะห่วงโซ่อุปทานโลกที่หยุดชะงักจากการปิดเศรษฐกิจของรัฐอาจมีผลในระยะยาวที่ยาวกว่านี้
- เงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควรสนับสนุนกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหล็กอุตสาหกรรม
มุมมอง: ทองคำยังไม่มีปัจจัยหนุน
- ในระยะยาว หากเรื่องราวด้านเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อเนื่อง ประเด็นดังกล่าวอาจนำไปสู่ความคาดหวังเรื่องผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนราคาทองคำ
- Fed และ ECB พูดถึงการปรับลดการซื้อสินทรัพย์ในขณะที่ Fed กล่าวถึงการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบต่อทองคำหากผลตอบแทนที่แท้จริงปรับตัวขึ้น
- จังหวะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และยุโรปยังคงมีความไม่แน่นอน และยังไม่มีข่าวที่จะช่วยผลักดันราคาทองไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
สรุป FVMR แต่ละภูมิภาค
รูปที่ 9: สรุป FVMR หุ้นแต่ละกลุ่มประเทศ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2021 (ที่มา: A.Stotz Investment Research, Refinitiv)
- พื้นฐาน (Fundamentals): หุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ROE (Return on Equity) สูงที่สุด
- มูลค่า (Valuation): ตลาดเกิดใหม่มี PE (Price-to-Earnings) ต่ำสุด และญี่ปุ่นมี PB (Price-to-Book) ต่ำสุด
- แนวโน้ม (Momentum): หุ้นสหรัฐฯ ขึ้นเยอะสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
- ความเสี่ยง (Risk): ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และญี่ปุ่น มีอัตราหนี้สินต่อทุน (Gearing) ต่ำที่สุด
ความเสี่ยง: เงินเฟ้ออาจเป็นเรื่องชั่วคราว
- พอร์ต AWS ถูกปรับให้ได้รับประโยชน์จากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2022
- มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยชั่วคราว และอาจส่งผลต่อผลการดำเนินงานของเรา
ความเสี่ยง: ไวรัสสายพันธุ์ใหม่อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์
- หากรัฐบาลในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับสูงทำการล็อกดาวน์อีกครั้ง อาจส่งผลกระทบต่อตลาดดังกล่าว
- หากประเทศส่วนใหญ่ในโลกปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ความต้องการโภคภัณฑ์อาจได้รับผลกระทบ
ความเสี่ยง: การล้มละลายของสหรัฐฯ
- ในขณะที่สภาอเมริกันซื้อเวลาผ่านการขยายเพดานหนี้ แต่ประเด็นดังกล่าวอาจกลับมาอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในเดือนธันวาคม
- หากสหรัฐฯ ล้มละลาย หุ้นสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจรวมไปถึงหุ้นโลก
สรุป รีวิวพอร์ต All Weather Strategy ประจำเดือนมกราคม 2022
- พอร์ต AWS ทำผลตอบแทนได้เหนือกว่าพอร์ตสัดส่วน 60/40 อยู่ 1.4% ในเดือนธันวาคม ปี 2021
- การที่ Fed และ ECB ไม่ต้องการให้ตลาดปรับฐานรุนแรงอาจทำให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้น
- อุปสงค์ที่ฟื้นตัวและปัญหาห่วงโซ่อุปทานจะช่วยขับเคลื่อนโภคภัณฑ์
- ความเสี่ยง: เงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว การล็อกดาวน์ครั้งใหม่เกิดขึ้นและสหรัฐฯ เกิดการล้มละลาย
Andrew Stotz
สำหรับลูกค้าที่ลงทุนใน All Weather Strategy สามารถดูพอร์ตการลงทุนได้ตามช่องทางนี้
ผ่านมือถือ/Tablet >>แอปฯ FINNOMENA
ผ่านคอมพิวเตอร์ >> เว็บไซต์ FINNOMENA
**All Weather Strategy พอร์ตกองทุนรวมจัดโดย Andrew Stotz ซึ่งจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนจากหุ้นในระยะยาว ในขณะที่ลดความรุนแรงของการขาดทุนในช่วงภาวะตลาดขาลง หากสนใจสร้างแผนการลงทุน สามารถคลิกที่นี่ https://www.finnomena.com/guruport-andrew-all-weather-create/ หรือแบนเนอร์ข้างล่างได้เลยครับ
คำเตือน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญของกองทุนโดยเฉพาะนโยบายกองทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน | ข้อมูลและการคาดการณ์ที่ปรากฏในบทความนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลในอดีตร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความสมบูรณ์แท้จริงและความแม่นยำของการวิเคราะห์ข้อมูลในอนาคตได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”