หากจะเอ่ยถึงวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนนั้น เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงนึกถึงใน 2 แง่มุมก็คือ 1. เป็นวันที่หลาย ๆ ท่านได้รู้จักกับวันคนโสด ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่เผยแพร่มาจากประเทศจีน และอีกแง่หนึ่งก็คือการเป็นวันที่ ยักษ์ใหญ่ด้าน E-Commerce อย่าง อาลีบาบา กรุ๊ป นั้น จัดเป็นวันช้อปปิ้งระดับโลก นับตั้งแต่ปี 2009 หรือคิดเป็น 11 ครั้งต่อเนื่อง ย่างเข้าครั้งที่ 12 ในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ซึ่งหากย้อนอดีตไปนั้น เราจะพบว่ามหกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์นี้ มีจุดเริ่มต้นในปี 2009 จากการจัดงานเล็ก ๆ บนเถาเป่ามอลล์ (Taobao) หนึ่งในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ในประเทศจีน และ Alibaba ซึ่งเน้นการขายแบบ C2C (ผู้ประกอบการรายย่อยกับผู้บริโภค)

ก่อนที่ปีต่อมา (2010) จะเปิดตัว www.tmall.com ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในบริษัทย่อยของอาลีบาบาที่ทำธุรกิจแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์แบบผสมทั้ง C2C และ B2C สามารถสร้างยอดขายมากถึง 1 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 4.68 ล้านบาทได้ภายใน 1 วัน

ก่อนที่จะค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงปีล่าสุด 2012 ที่มีสินค้ามากกว่า 200,000 แบรนด์ จาก 28 ประเทศทั่วโลกเข้ามาร่วมจำหน่าย พร้อมด้วยกลยุทธ์การขายแบบไลฟ์สตรีมมิ่งจาก 17,000 แบรนด์ ช่วยให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งสะท้อนออกมาที่ยอดการสั่งซื้อมากกว่า 544,000 ครั้งภายใน 1 วินาที มากกว่างานครั้งแรกในปี 2009 ที่จัดภายใต้แบรนด์เถาเป่าถึง 1,360 เท่า หรือคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 2.684 แสนล้านหยวน (1.16 ล้านล้านบาท) ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงเท่านั้น

ซึ่งแน่นอนว่าปริมาณการขายของมากขนาดนี้นั้น ส่งผลให้ระบบขนส่งโลจิสติกส์ก็ต้องยิ่งใหญ่เป็นเงาตามตัว ทำให้อาลีบาบานั้นต้องจัดตั้งบริษัท ไช่เหนียวเน็ตเวิร์ค (Cainiao Network) ขึ้นมาเพื่อดูแลด้านโลจิสติกส์โดยเฉพาะ ทั้งในยามปรกติ และในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งอย่าง 11.11 ซึ่งในช่วงกลางปีที่ผ่านมานั้นได้มีการลงทุนเพิ่ม เพื่อยกระดับการส่งสินค้าด้วยการเสริมทัพเครื่องบินขนส่งสินค้าจากเดิมที่มีอยู่ 260 ลำ ให้แตะระดับ 1,260 ลำภายในเดือนเมษายน 2021 นี้ รถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ (AGV) และเครื่องยนต์อัตโนมัติเก็บพัสดุจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายสำคัญก็คือการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าทั่วประเทศจีนภายใน 24 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมงสำหรับลูกค้าในหัวเมืองหลักทั่วโลก

กลับมาที่ยุคปัจจุบันของเราในปี 2020 นี้อาลีบาบาก็ตั้งใจว่าจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหน ๆ ผ่านทางกลยุทธ์ที่สำคัญก็คือ เปลี่ยนแนวคิดวันคนโสดจาก Single เป็น Double ซึ่งล้อไปกับเลขของวันที่จัดงานคือ 11.11 ด้วยการเพิ่มระยะเวลาการจัดงานขึ้นเป็น 2 ช่วง ประกอบไปด้วยวันที่ 1-3 พฤศจิกายน และ วันจริงคือ 11 พฤศจิกายน เพื่อช่วยสร้างโอกาสให้นักช้อปทั่วโลกได้มีเวลาเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกัน ร้านค้าใหม่ ๆ และเอสเอ็มอีก็มีเวลาโปรโมทสินค้ามากขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ต่าง ๆ จากทั่วโลก เข้าร่วมมากขึ้นมากกว่า 250,000 แบรนด์ด้วยกัน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นแบรนด์จากต่างประเทศที่เป็นแบรนด์ระดับโลกถึง 2,600 แบรนด์ รวมไปถึงแบรนด์หรูอย่าง Prada, Cartier, Montblanc, Balenciaga และ Chloé ที่เข้าร่วมด้วยเป็นครั้งแรก ทำให้มีสินค้าใหม่มากกว่า 2,000,000 รายการให้เลือกซื้อ รวมไปถึงสินค้าหมวดที่อยู่อาศัยและยานยนต์ ที่จะมีให้เลือกซื้อออนไลน์ได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย

พร้อมด้วยกิจกรรมอีกมาก ทั้งเกมส์ ไลฟ์สดจากอาลีบาบาเองที่จะมีการจัดงานกาล่าในช่วงวันที่ 11.11 การไลฟ์สดจากร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ และการไลฟ์จากดาราชื่อดังกว่า 300 ท่าน เป็นการเพิ่มสีสันให้กับการช้อปปิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Gen Z ที่จะร่วมสนุกไปกับการช้อปปิ้งในครั้งนี้

เพื่อรับโอกาสการเติบโตในโลกของ E-Commerce ได้อย่างเต็มที่ ท่ามกลางพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนเอง ที่เป็นประเทศหนึ่งที่มีกำลังการบริโภคสูงที่สุดในโลก โดยมียอดการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคมากถึง 1.5 ล้านล้านหยวน หรือคิดเป็นมากกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หากแต่มีปริมาณการซื้อขายสินค้าออนไลน์เพียง 90,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 6% เท่านั้น สะท้อนว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

ซึ่งทาง AKN Blog เราเองนั้น ได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังสัมมนาออนไลน์ของทางอาลีบาบาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้ทราบถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นหลากหลายอย่าง อาทิ

• ในปี 2020 นี้ สถาบัน DAMO ของอาลีบาบาและอาลีเอ็กซ์เพรสได้เปิดตัวฟังก์ชันการใช้งานหลายภาษาเรียลไทม์ โดยสามารถแปลภาษาจีนเป็นภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย และภาษาสเปน ได้ตามแบบเรียลไทม์
• ในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา อาลีบาบาได้เตรียมสินค้าสำหรับมหกรรม 11.11 ไว้เกือบ 10 ล้านตันถูกขนย้ายไปยังในคลังสินค้าของไช่เหนียว เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้สินค้าคงคลังของเครือข่ายสมาร์ทโลจิสติกส์นั้นมีสินค้าคงคลังมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่าเครื่องบินแอร์บัส 16,000 ลำ
• ภายใน 30 นาทีแรกของช่วงพรีเซลล์วันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา มียอดโอนเงินผ่านเถาเป่า มากกว่า 50,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 232,082 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

แล้วในมหกรรม 11.11 ปีนี้จะมีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในครั้งนี้ มียอดขายทะลุเป้าหรือเปล่า อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์เราคงได้รู้กัน

#AKN Blog

ที่มาบทความ: https://www.facebook.com/aknblog/posts/3459143480805905