ประกัน VS กองทุนรวม
ผลิตภัณฑ์การเงินที่เป็นตัวช่วยในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีก็จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ด้วยกัน คือ กลุ่มของผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิต และ กลุ่มของผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนในกองทุนรวม SSF RMF ซึ่งทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ มีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไข ซึ่งมีทั้ง ข้อดี ข้อจำกัด โดยจะขอสรุปเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้

เปิดเงื่อนไข – การใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

ประกัน VS กองทุนรวม

ประกันชีวิต

1. กลุ่มแบบประกันสามัญ/ควบคู่การลงทุน

  • สัญญา 10 ปีขึ้นไป กรณีมีเงินคืนทุกปี หรือคืนระหว่างสัญญา ต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยรายปีหรือเบี้ยสะสมของแต่ละช่วงเวลารวมถึงแบบประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Unit Linked) ในส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ค่าธรรมเนียม ค่าประกันภัย (ยกเว้นส่วนลงทุน) ลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท

2. กลุ่มประกันบำนาญ

  • แบบประกันที่มีการจ่ายบำนาญเป็นรายงวดหลังเกษียณ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท เมื่อนับรวม RMF SSF กบข. PVD กอช. กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท

3. กลุ่มประกันสุขภาพ (ส่วนสัญญาเพิ่มเติม)

  • ประกันสุขภาพที่คุ้มครองกรณีการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ประกันอุบัติเหตุ ประกันโรคร้ายแรงที่มีค่ารักษาพยาบาล (ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อนับรวมประกันแบบสามัญ แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท) และประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท

กองทุนรวม (SSF RMF)

1.  กองทุนรวมเพื่อการออม : Super Saving Fund (SSF)

  • ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภทมีทั้งแบบจ่ายและไม่จ่ายเงินปันผล
  • มีระดับความเสียงให้เลือกตั้งแต่ระดับต่ำ – สูงมาก
  • ไม่กำหนดขั้นต่ำในการซื้อ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
  • สามารถลดหย่อนได้ระหว่างปีภาษี 2563 – 2567
  • มีเงื่อนไขต้องลงทุนครบ 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ
  • ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท
  • เมื่อนับรวมประกันบำนาญ RMF กบข. PVD กอช. กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท

2.  กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ : Retirement Mutual Fund (RMF)

  • ลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ไม่มีการจ่ายเงินปันผล
  • ไม่มีกำหนดขั้นต่ำในการซื้อ แต่เมื่อเริ่มซื้อต้องซื้อต่อเนื่องทุก ๆ ปี หรือปีเว้นปี โดยไม่ผิดเงื่อนไขต้องถือครองให้ครบ 5 ปีหรือจนครบอายุ 55 ปี
  • ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท
  • เมื่อนับรวมประกันบำนาญ SSF  กบข. PVD กอช. กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท

เปิดข้อดี – ข้อจำกัด

ประกัน VS กองทุนรวม

ประกันชีวิต

เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการสร้างหลักประกันให้กับครอบครัว หรือเพื่อเป็นเงินสะสมระยะยาว เงินบำนาญ เพื่อใช้ในยามเกษียณ รวมถึงการมีสวัสดิการเพื่อคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความสามารถในการเบี้ยประกันที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 15% – 25%ของรายได้ต่อปี ประกันชีวิตสามารถซื้อได้ไม่จำกัด จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีหรือไม่ก็ได้

ข้อดี – ไม่จำกัดการซื้อสูงสุด ไม่ต้องกังวลเรื่องซื้อเกินสิทธิ ได้รับผลประโยชน์ทั้งด้านความคุ้มครองและยังสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตและประกันสุขภาพไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้

  • ผลตอบแทนตามกรมธรรม์จะได้รับจำนวนที่แน่นอน (ยกเว้นแบบประกันควบคู่การลงทุน) ส่วนต่างของผลประโยชน์ เงินคืนระหว่างสัญญา ได้รับยกเว้นภาษี
  • กรณีฉุกเฉิน หากกรมธรรม์มีมูลค่า (จำนวนเงินกู้ขึ้นอยู่กับแบบประกันและระยะสัญญา) สามารถกู้เงินตามสิทธิกรมธรรม์ได้
  • กรณีค้างชำระเบี้ย มีระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน และหากค้างเบี้ยเกินกำหนดสามารถกู้อัตโนมัติชำระเบี้ยได้ (กรณีกรมธรรม์มีมูลค่าเพียงพอสำหรับชำระเบี้ย)
  • กรณีเสียชีวิต ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ บริษัทประกันจ่ายเป็นเช็คเงินสินไหมมรณกรรมให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ตามที่ผู้เอาประกันระบุในกรมธรรม์ ไม่ต้องร้องศาล ขอตั้งผู้จัดการมรดก และได้รับเงินตามทุนประกัน ซึ่งจะได้มากกว่าเบี้ยที่ชำระไว้

ข้อจำกัด – ผลตอบแทนของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะได้น้อยกว่ากองทุนรวม (ยกเว้นแบบประกันชีวิตควบคู่การลงทุน) ที่ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับกองทุนที่เลือกลงทุน

  • กรณียกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดหรือเวนคืนกรมธรรม์จะได้รับเงินคืนน้อยกว่าเบี้ยประกันที่ชำระไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแบบประกันและระยะสัญญา และหากนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษี ต้องคืนภาษีย้อนหลังที่เคยได้รับการยกเว้นและต้องชำระดอกเบี้ยปรับให้กับกรมสรรพากร
  • ประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเงื่อนไขด้านประวัติสุขภาพ อายุ อาชีพ  ความเสี่ยง ที่เข้ามาประกอบการพิจารณารับประกัน หากไม่อยู่ในเกณฑ์ที่บริษัทประกันรับประกันได้ก็ไม่สามารซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพได้

กองทุนรวม (SSF RMF)

เหมาะสำหรับท่านที่มีฐานภาษี 15% -35% ที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วยการลงทุน สำหรับเป็นเงินลงทุนระยะยาวหรือเงินเกษียณ ทั้งนี้ หากฐานภาษีอยู่ที่ 5% – 10% ควรพิจารณาถึงกระแสเงินสดสภาพคล่องและ ภาษีที่ต้องชำระว่า ควรซื้อกองทุน SSF RMF หรือไม่ เนื่องจากเป็นการลงทุนในระยะยาว และมีเงื่อนไขการซื้อ-ขายและการถือครอง หากไม่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แนะนำซื้อกองทุนทั่วไปจะเหมาะสมกว่า เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงื่อนไขการซื้อขาย การถือครองเหมือนกองทุน SSF RMF

ข้อดี – เป็นการสร้างวินัยในการลงทุนสำหรับเป้าหมายการลงทุนระยะยาว

  • มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่หลากหลาย เลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และยังสามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้ระหว่างทาง
  • กำไรส่วนต่างในการขายกองทุนได้รับยกเว้นภาษี
  • สามารถลงทุนได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบัน ธนาคาร บล. บลน. ส่วนใหญ่มีบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย เปิดบัญชีผ่านทางแอปพลิเคชัน ซึ่งการซื้อกองทุนรวมไม่มีเงื่อนไขด้านประวัติสุขภาพ อาชีพ อายุเหมือนการซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ

ข้อจำกัด – จำกัดการซื้อไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนด หากซื้อเกินสิทธิ์ ผลประโยชน์จากกำไรส่วนต่างต้องเสียภาษี รวมถึงการขายกองทุนก่อนครบกำหนด หรือผิดเงื่อนไขต้องคืนภาษีย้อนหลังที่เคยได้รับการยกเว้นและต้องชำระดอกเบี้ยปรับให้กับกรมสรรพากร

  • ผลตอบแทนของกองทุนขึ้นอยู่กับกองทุนที่เราเลือกและความสามารถในการลงทุนของผู้จัดการลงทุน
  • ต้องคอยติดตามผลการดำเนินงาน ผลตอบแทน สถานการณ์ การปรับการลงทุนให้เหมาะสมตามช่วงเวลา เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว
  • กรณีเสียชีวิต มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ต้องร้องศาลขอตั้งผู้จัดการมรดก เพื่อทายาทโดยธรรมขอรับเงินจากกองทุน

เปิดเทคนิคในการเลือกซื้อประกัน VS กองทุนรวม (SSF RMF) เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

ประกัน VS กองทุนรวม

  1. เปรียบเทียบ การคำนวณการยื่นเสียภาษี อัตราฐานภาษีเงินได้ ภาษีที่ต้องชำระระหว่างไม่ได้ซื้อกับซื้อประกันหรือกองทุนรวม SSF RMF โดยคำนึงถึงกระแสเงินสด รายได้ที่มี เพื่อพิจารณาถึงความสามารถในการชำระเบี้ยและการลงทุน เนื่องจากการซื้อขายของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์เป็นระยะยาว
  2. เงื่อนไข ควรศึกษาให้เข้าใจถึงเงื่อนไขการซื้อขายของแต่ละแบบ เพื่อป้องกันปัญหาถูกเรียกคืนภาษีย้อนหลัง และถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยปรับ
  3. เข้าใจก่อนซื้อ ควรทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ เช่น
    • ประกันชีวิต ควรรู้ว่าเป็นแบบประกันประเภทใด ระยะสัญญา ชำระเบี้ยกี่ปี มีเงินคืนระหว่างสัญญาอย่างไร ทุนประกันเท่าไร ลดหย่อนภาษีได้หรือไม่
    • ประกันสุขภาพ ควรรู้ถึงความคุ้มครองวงเงินค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล โรงพยาบาลคู่สัญญา ข้อยกเว้นในการคุ้มครอง ระยะเวลารอคอยของแต่ละโรค
    • กองทุนรวม SSF RMF ควรประเมินความเสี่ยงว่ายอมรับความเสี่ยงได้ระดับใด ศึกษากองทุนที่จะลงทุนจาก Fund Fact Sheet ก่อนเสมอ เพื่อเลือกกองทุนที่เหมาะกับเรา เปรียบเทียบผลตอบแทน ค่าธรรมธรรมเนียมของแต่ละกองทุน
  1. เลือกบริษัทประกัน ธนาคาร บล. บลจ. บลน. ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคง มีบริการด้านข้อมูล ข่าวสาร รวมถึงช่องทางที่สามารถติดต่อได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เช่น   แอปพลิเคชัน  เว็บไซต์  Call Center

ประกัน VS กองทุนรวม

จากตัวอย่างนี้  เป็นเพียงการคำนวณเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการวางแผนใช้ผลิตภัณฑ์การเงินกับไม่ใช้ผลิตภัณฑ์การเงิน  โดยสิ่งที่สำคัญในการเลือกวางแผนภาษี คือ “กระแสเงินสดสภาพคล่อง” ที่มีในการนำมาพิจารณาถึงความคุ้มค่า หากนำมาซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษีแล้ว จะมีผลกระทบต่อสภาพคล่องของครอบครัวหรือไม่ เนื่องจากการซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีสภาพคล่องต่ำ มีเงื่อนไขด้านเวลามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากเราไม่สามารถถือครองตามสัญญา หรือซื้อได้ตามเงื่อนไข  อาจจะได้รับผลเสีย และเสียหายมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับนะคะ

ก่อนการเลือกซื้อ แนะนำควรศึกษา ทำเข้าใจก่อนตัดสินใจว่าแบบไหนที่เหมาะกับเราและที่สำคัญต้องไม่เกิน “ความสามารถในการชำระ” เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง ทั้งในวันนี้และในอนาคตนะคะ

Thidarat Keereeta, Finance Coach.
Add Money

ที่มาบทความ: http://add-money.net/th/detail.php?id=228


คำเตือน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน