สามเหลี่ยมทางการเงิน กับ 10 กฎความมั่งคั่งของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

ชื่อของ วอร์เรน บัฟเฟตต์   หลายคนคงเคยได้ยินว่าเป็นกูรูทางการลงทุน

กฎทอง 10 ข้อของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ อยู่ในส่วนไหน ของ สามเหลี่ยมทางการเงินมากที่สุด

คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการลงทุน ผมบอกเลยว่าไม่ใช่!!!!

ก่อนอื่นเรามาดูสามเหลี่ยมทางการเงิน กับ 10 กฎความมั่งคั่งของปู่  ดูตามภาพข้างหลังได้เลย

หลังจากนั้น เรามาดูกันว่า กฏทอง 10 ข้อของวอร์เรน บัฟเฟตต์ จะแยกตามหัวข้อของสามเหลี่ยมทางการเงินได้อย่างไร

1. Wealth Creation – สร้างความมั่งคั่งให้เกิด ผมมักจะเรียกว่า ทำงานสร้างฝัน

ตรงนี้ถือว่าเป็น ฐานของสามเหลี่ยมทางการเงิน ถ้าฐานไม่มั่นคง ส่วนต่อขยายไปยังยอดก็เกิดยาก

ต้องทำงานหนัก

ถ้าคุณมีเป้าหมายหรือฝันในชีวิตชัดเจน คุณจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อจะมีเงินเยอะ นอกจากทำงานหนักต้องทำงานฉลาดด้วย

อย่าขี้เกียจ

บ้างคนมีฝันอยากร่ำรวย แต่ไม่ทำอะไร มัวแต่รอคอยความหวังและโชค

รายรับจากหลายแหล่ง

ข้อนี้เป็นเคล็ดลับของมหาเศรษฐีหลายคน ทำงานมากกว่า 1 อย่างเพื่อจะกระจายความเสี่ยงและให้มีรายได้เพิ่มเติมนั้นเอง

ควบคุมรายจ่าย

ถ้าหาเงินมาได้เยอะ แต่ใช้จ่ายไปเยอะ มันจะมีประโยชน์อะไร คิดและตั้งสติก่อนที่จะจ่ายเงินซื้ออะไรในชีวิตเสมอ

ตั้งใจออม

อย่ารอเก็บออมเงินที่เหลือหลังจากที่ได้ใช้จ่ายจนพอใจ แต่เราต้องกันเงินส่วนหนึ่งของรายได้มาเพื่อเก็บสะสมก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย เราเรียกว่า Pay yourself first จ่ายให้ตัวคุณก่อน

งดกู้ยืม

อย่าสร้างหนี้สินโดยไม่จำเป็น หรือ สร้างหนี้สินจนเกินตัว ให้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง

จัดทำระบบบัญชี

อันนี้สำคัญมากจะต้องมีการจดบันทึกโดยเฉพาะ งบรายรับรายจ่ายประจำเดือน เพราะเราจะได้รู้ว่ารายจ่ายแบบไหนที่เราจ่ายไปมากเกินไป จะได้หาทางลดลงมาได้

หมั่นตรวจสอบ

ถ้าเรามีบัญชีรายรับรายจ่ายแล้ว เราจะต้องหมั่นตรวจสอบทุกเดือน และอีกบัญชีคือ งบดุลส่วนบุคคล ที่จะต้องตรวจสอบอย่างน้อยปีละครั้ง

2. Wealth Protection – ปกป้องเงินของเรา

หลายคนคิดอยากได้แต่ผลกำไรตอนลงทุน แต่ไม่ได้คิดเรื่องความเสี่ยงก่อน

ชีวิตคนเรามีความเสี่ยงตลอดเวลา ก่อนลงทุนควรจะจัดการความเสี่ยงเสียก่อน

จัดการความเสี่ยง

เขาเคยกล่าวไว้ว่า เราไม่ควรจะทดสอบความลึกของแม่น้ำที่จะข้าม ด้วยขาสองข้างพร้อม ๆ กัน เพราะเราอาจจมน้ำตายได้  ดังนั้นการจัดการความเสี่ยง จะต้องตรวจสอบว่าความเสี่ยงอะไรบ้างที่จะกระทบกับการเงินของเรา แม้จะมีโอกาสเกิดน้อย แต่ถ้าเกิดแล้วจะกระทบหนัก เช่น เกิดเป็นโรคร้ายแรงเช่น มะเร็ง   เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือ ไฟไหม้บ้าน เราจะต้องมีแผนสำรองเพื่อรองรับเหตุการณ์เหล่านั้น

3. Wealth Accumulation ทำให้เงินเพิ่ม

บริหารการลงทุน

เงินเฟ้อจะทำให้ค่าเงินของคุณลดลงในอนาคต ดังนั้นคุณจะต้องรู้จักลงทุนในความเสี่ยงที่คุณรับได้ และตามเป้าหมายทางการเงินที่คุณมีอยู่ คนส่วนใหญ่ไม่ได้บริหารเงินโดยแยกเป็นเป้าหมายทางการเงินเป็นส่วนๆ ทำให้การลงทุนไม่ได้ถูกจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินนั้นๆ

สำหรับคนที่ลงทุนยังไม่เก่ง ก็อาจจะเริ่มจากซื้อกองทุนไปก่อน แล้วค่อยๆ ศึกษาการลงทุนก่อนจะลงทุนด้วยตัวเอง

4. Wealth Distribution ส่งต่อให้ทายาท

กฏทอง 10 ข้อของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้ระบุไว้ แต่บ่งบอกด้วยการกระทำ   วอร์เรน บัฟเฟตต์จะให้เงินส่วนหนึ่งกับลูก แต่จะบริจาคเงินส่วนใหญ่ให้แก่มูลนิธิ เขาสอนให้ลูกหาปลา ไม่ได้ซื้อปลาให้ลูก

จะเห็นได้ว่า กฎทอง 10 ข้อของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะอยู่ในกระบวนการ Wealth Creation – สร้างความมั่งคั่งให้เกิด มากที่สุด เพราะมันเป็นรากฐานของความมั่งคั่ง ดังนั้นถ้าอยากรวย จงขยัน พอเพียงและมีวินัยในการออม

sompoj patsuwan
สมพจน์ พัดสุวรรณ
‪#‎wealthguru