คุณคิดว่า ความรักสำคัญกว่าเงินตราไหม ?
จริงหรือไม่ที่บอกว่า รักแท้ไม่ต้องการเงินมาเกี่ยวข้อง แต่ทำไมหลายคู่มีความรักแต่สุดท้ายไปกันไม่รอด เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ก็มีบางคู่อย่างคนรวยๆ ก็หย่าร้างกันก็มี ในเมื่อเขาก็มีเงินเยอะเหมือนกัน
เงินทองหล่อเลี้ยงกาย ความรักหล่อเลี้ยงใจ
เราทุกคนมาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อคนสองคนตกหลุมรัก เราต้องเรียนรู้วิธีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทัศคติ ในด้านต่างๆ
และรวมถึงทัศนคติเรื่องการบริหารจัดการเรื่องเงินด้วย
มันทำให้ผมนึกถึงคำถามเก่า ๆ ที่บอก “ช้างกินแซนวิชอย่างไร?”
คำตอบ: “กัดเพียงครั้งเดียว”
และนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพูดคุยกับคู่ของคุณด้วยเช่นกัน กล้าได้กล้าเสียกล้าได้กล้าเสียและดำน้ำในการสนทนาครั้งละครั้ง
ผมมีเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณติดต่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อพูดถึงเรื่องเงิน
- กำหนดวัน เพื่อพูดคุยเรื่องเงินกัน
- ถามกันเกี่ยวกับประวัติการทำเงินของคู่รักของคุณ ค้นหาความทรงจำประสบการณ์และวิธีการที่พ่อแม่ของคุณเองและคู่รัก ที่มีผลต่อพฤติกรรมของคุณและคู่รักของคุณในปัจจุบันอย่างไร
- Share ความผิดพลาดที่เจ็บปวดเรื่องเงินในอดีต
- ถามเกี่ยวกับความหวังและความฝันของการดำเนินชีวิตของคุณและคู่รักของคุณ
- แบ่งปันเป้าหมายทางการเงินในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวของคุณและคู่รักของคุณ
- อภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณที่ใช้ร่วมกันหรือแผนการใช้จ่ายเพื่อจัดการการเงินรายวัน
- กำหนดแผนการเงินของแต่ละคน รวมไปถึงอนาคตถ้าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
จากหลักธรรมของคู่ชีวิต พระพุทธเจ้าได้แนะนำว่า คู่ชีวิตควรจะมี ศีลเสมอกัน
“ ผู้มีศรัทธาเสมอกัน”
“มีศีลเสมอกัน”
“มีจาคะเสมอกัน”
“มีปัญญาเสมอกัน”
ผมขอเพิ่มเติมอีกข้อ คือ “มี Mindset การเงินเสมอกัน”
Mindset การเงินเสมอกัน มิใช่มีรายได้ มีสถานะการเงินระดับเดียวกัน แต่ต้องการวิธีคิดและบริหารการเงินเหมือนกัน