อย่างที่เราเห็นกันไปแล้วนะครับ ว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์ BREXIT ที่สหราชอาณาจักรลงประชามติโหวต No ไม่ขออยู่ในกลุ่มอียู มันทำให้เกิดการไหลกลับทิศของกระแสเงินทุนจากฝั่งยุโรป ไหลเข้าเอเชียเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ผมไปอ่านเจอข้อมูลของ Bloomberg Intelligence Economics อยู่อันหนึ่ง น่าสนใจในการเอาไปวิเคราะห์ต่อ นั่นก็คือ BI เขาทำ Heat Map ว่า ประเทศในเอเชีน ใครได้ประโยชน์มากหรือน้อยจากเหตุการณ์ BREXIT ที่ผ่านมา ได้ตามรูปด้านล่างนี้ครับ
รูปที่ 1 : Asia Heat Map – Who Has Most to Gain From U.K. Ties
แหล่งข้อมูล : Bloomberg
โดยทาง Bloomberg แบ่งการวิเคราะห์ออกเป็น 5 ปัจจัย มีรายละเอียดตามนี้ครับ
1. Trade – ดูความเข้มแข็งทางการค้าของแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับอังกฤษ ยิ่งค้าขายมาก ยิ่งได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้า หลังจากนี้ อังกฤษอาจค้าขายกับอียูน้อยลง แน่นอนว่า คู้ค่าสำคัญอื่นๆก็จะสำคัญมากขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้ จีน ญี่ปุ่น และ อินเดีย ได้ประโยชน์มากที่สุดในเอเชีย
2. Investment – ประเทศที่มี FDI (Foreign Direct Investment) จากอังกฤษมากที่สุด ก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน เพราะเชื่อว่า อังกฤษ จะยิ่งรักษาความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าในการขยายไปในตลาดโลก ปัจจัยนี้ ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และฮ่องกง มีเงินทุนจากอังกฤษไหลเข้ามาลงทุนมากที่สุด
3. Finance – หนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของอังกฤษก็คือ “การส่งออกบริการด้านการเงิน” ซึ่งประเทศที่เป็นคู่ค่ากับอังกฤษในการใช้บริการด้านการเงินมากที่สุดก็คือ ญี่ปุ่น ฮ่องกง และออสเตรเลีย
4. Tourism – แน่นอนว่า ถ้านักท่องเที่ยวอังกฤษเข้าประเทศไหนมากๆ ก็มีแนวโน้มที่ประเทศนั้นจะได้ประโยชน์ตามไปด้วย โดย จีน ออสเตรเลีย อินเดีย เป็นประเทศที่สามารถสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้มากที่สุด
5. Exchange Rate – แนวโน้มค่าเงิน GBP ที่จะอ่อนค่าต่อในระยะยาว ถ้าค่าเงินปอนด์อ่อนค่ามากๆเมื่อเทียบกับสกุลใดๆ แน่นอนว่า ประเทศนั้นก็มีแนวโน้มที่จะนำเข้าสินค้าและบริการจากอังกฤษเพิ่มขึ้น ปัจจัยนี้ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ ไทย ได้ประโยชน์มากสุด
เมื่อเรียงครบทั้ง 5 ปัจจัย ทาง BI ก็ทำ Score card เรียงว่า ประเทษใดได้ประเทศจากเหตุการณ์ BREXIT มากที่สุด ดูรูปที่ 2 เลยครับ
รูปที่ 2 : Ranking Asia-U.K. Ties (ตัวเลขน้อย แปลว่ายิ่งมีโอกาสเงินทุนไหลเข้าในระยะยาวสูง)
แหล่งข้อมูล : Bloomberg
จาก Score card ก็จะเห็นว่า ประเทศที่ได้ประโยชน์จาก BREXIT มากที่สุด 3 อันดับแรก ก็คือ ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และ จีน
อย่างไรก็ตาม ทางทีม BI ของ Bloomberg ก็บอกว่า อนาคตความสัมพันธ์ระหว่างยูโรโซนกับอังกฤษ หรือแม้แต่เอเชียกับอังกฤษ จริงๆก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน การวิเคราะห์ดังกล่าว ก็มาจากข้อมูลจริงที่เกิดขึ้นในอดีตเพียงเท่านั้น แต่นี่ก็พอจะทำให้เห็นภาพคร่าวๆเป็นอย่างดีกว่า ถ้าจะลงทุนใน Macro Theme หรือ มองภาพใหญ่ ก็จะเห็นแล้วว่า BREXIT นี้ ทำให้ที่ใดมีโอกาส และที่ใดมีความเสี่ยงที่ต้องระวัง (เมื่อปัจจัยอื่นคงที่)
แหล่งที่มาข้อมูล : Bloomberg