Portfolio01

เมื่อนึกถึงการลงทุน ขอแนะนำให้แบ่งการลงทุนออกเป็นสองชนิด คือ การลงทุนเสี่ยงสูง อย่างหุ้น ทองคำ โภคภัณฑ์ กับ การลงทุนเสี่ยงต่ำ อย่างเงินฝาก ประกัน พันธบัตร ความหมายของการลงทุนเสี่ยงสูงอย่างง่าย ๆ ก็คือการลงทุนที่มีโอกาสขาดทุน ส่วนเสี่ยงต่ำก็คือการลงทุนที่มีโอกาสขาดทุนน้อย

แล้วจะลงทุนเสี่ยงสูงเท่าไหร่ดี?

ผมไม่แนะนำให้ดูผลตอบแทนเป็นหลัก แต่ให้ลองสำรวจตัวเอง ว่าเรารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน เงินเย็นแค่ไหนสามารถลงทุนได้นานกี่ปี และทนรับผลขาดทุนได้สูงสุดเท่าไรในระยะการเวลาการลงทุนนั้น สำหรับตารางด้านล่างเป็นตัวอย่างการจัดพอร์ตการลงทุน (Asset Allocation) โดยผมได้เลือกสินทรัพย์สำหรับการลงทุนออกเป็น 5 กลุ่ม คือตลาดเงิน, ตราสารหนี้, กองทุนอสังหา, หุ้นปันผล และทองคำ จากนั้นนำมาจัดพอร์ตเป็น 5 เมนูไล่ตามระดับความเสี่ยง

สิ่งที่ควรให้ความสนใจคือในส่วนล่างของตารางว่ากรณีแย่ที่สุด (โอกาสความน่าจะเป็นน้อยกว่า 5%) ของแต่ละเมนูนั้นคือเท่าไร อย่างเมนูรักษาเงินต้นคือ +0.2% นั่นคือมีโอกาสสูญเสียเงินต้นน้อย ส่วนการลงทุนความเสี่ยงสูงอย่างเมนูเติบโตมีกรณีที่แย่ที่สุดคือ -21.4%

นอกจากนี้ตารางนี้ยังได้อธิบายถึงช่วงประมาณการขอบบน / ล่าง ซึ่งอยู่ในระดับความเป็นไปได้ประมาณ 70% ที่ผลตอบแทนจะอยู่ในช่วงประมาณการ เช่น แผนการลงทุนแบบ “ปลอดภัย” มีช่วงประมาณการผลตอบแทนระหว่าง 0.3 – 10.1% บนระดับความน่าจะเป็นประมาณ 70% และตัวเลขที่สำคัญอีกตัวหนึ่งคือ ประมาณการผลตอบแทนต่อปี (Expected Return)ของแต่ละเมนูว่าอยู่ในระดับใด เมื่อเราสามารถชั่งทั้งผลตอบแทนกับความเสี่ยงดูแล้วก็จะสามารถให้การตัดสินใจลงทุนทำได้ง่ายขึ้นเยอะครับ

มีกฎง่าย ๆ อีกอันหนึ่งที่อยากขอฝากไว้ในวันนี้ ผมขอตั้งชื่อว่า “กฎของ 80” กล่าวคือสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงควรอยู่ที่ประมาณ “80 – อายุ” ยกตัวอย่างเช่น

อายุ 30 ลงทุนเสี่ยงได้ประมาณ 80 – 30 = 50% เพราะระยะเวลาการลงทุนยาวนาน

อายุ 60 ลงทุนเสี่ยงได้ประมาณ 80 – 60 = 20% เพราะระยะเวลาการลงทุนค่อนข้างสั้น

ส่วนถ้าอายุ 80 ขึ้นไปก็ไม่ควรลงเสี่ยง ๆ แล้วล่ะครับ เดี๋ยวจะหัวใจวายไปก่อน

อย่างไรก็ตามกฎของ 80 ไม่ได้เป็นกฎตายตัวเสมอไป เพราะระดับความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้ย่อมไม่เท่ากัน ดูอย่างคุณลุง Warren Buffet อายุ 80 กว่าแล้วยังลงทุนหุ้นมากมายอยู่เลยเพราะเขารับความเสี่ยงได้ และมีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองลงทุนเป็นอย่างดี แต่ข้อดีของกฎของ 80 คือนำไปใชได้ง่าย และยังคอยช่วยเตือนตัวเองให้ลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตลงเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นซึ่งถูกต้องตามหลักทฤษฎีการจัดพอร์ตการลงทุน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นแนวการจัดพอร์ตอย่างง่าย ๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านครับ