ตลาดเอเชียร่วงยกแผง

เมื่อคืนวันที่ 28 มีนาคม 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) และ ดัชนี NASDAQ 100 ปรับตัวลงแรงกว่า -2.61% และ -1.97% ตามลำดับ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงยกแผง นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น (TOPIX) -3.4% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) -2.85% ดัชนี HSCEI หรือ หุ้นจีน H-Shares -1.2% ตลาดหุ้นไทย (SET Index) -1.4% และตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) -0.6%

การปรับตัวลงครั้งนี้ได้รับแรงกดดัน จากความกังวลเรื่องมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันพุธที่ 2 เมษายน 2025 โดยวันดังกล่าวเป็นวันที่ทรัมป์ฯประกาศว่าเป็นวันปลดแอดของชาติ (Liberation Day) โดยจะเปิดเผยรายชื่อประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ ซึ่งสหรัฐฯเคยประกาศว่าจะเก็บภาษีกับทุกประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ โดยทรัมป์เรียกประเทศเหล่านี้ว่าเป็น Dirty 15 นอกจากนี้เมื่อวันพุธที่ 25 มีนาคม 2025 ทรัมป์ได้ลงนามขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% สำหรับรถยนต์ทุกคันที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน 2025

ด้านปัจจัยภายในประเทศไทย เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2025 ประเทศไทยได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งได้รับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาร์โดยมีขนาด 8.2 ลึกจากพื้นดินราว 10 ก.ม. จากปัจจัยดังกล่าวจึงส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งปิดการซื้อขายทุกตลาด ทั้ง SET, mai, และTFEX ในภาคบ่ายของวันข้างต้น ทั้งนี้ตลท.ได้แจ้งเปิดการซื้อขายของ SET, mai, TFEX และ LiVEx ตามปกติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2025 นี้

Finnomena Funds มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงเผชิญกับความผันผวน เนื่องจากสงครามการค้าและนโยบายที่ยังไม่แน่นอนของโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ทั้งนี้เงินเฟ้อยังมีแนวโน้มปรับตัวลงในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า จึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2025 อีก 2 รอบ ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแม้ประกาศออกมาดีกว่าคาด แต่นักวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรลดลงต่อเนื่อง ถึงแม้ราคาปรับตัวย่อลงมา แต่ Valuation ของตลาดหุ้นยังตึงตัว

เราแนะนำ Selective หุ้นเล็ก คุณภาพ และ Laggard ในกองทุน ASP-USSMALL-A และแนะนำถือ MEGA10-A ตามมุมมองของ Fundtalk Call

ด้านตลาดหุ้นเอเชีย Finnomena Funds มองว่าตลาดมีโอกาสฟื้นตัว โดยการปรับตัวลงของตลาดจึงเป็นจังหวะในการเข้าทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นเอเชียอย่าง UOBSA ที่ใช้ AI ร่วมกับผู้จัดการกองทุนในการคัดเลือกหุ้น สร้างผลตอบแทนระยะยาวโดดเด่นกว่ากองเอเชียอื่น ๆ

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการ hedge ความเสี่ยงพอร์ตจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายภาษีของสหรัฐฯ แนะนำลงทุนในกองทุนตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์ตามคำแนะนำของ Mr.Messenger Call อย่างกองทุน AGBFIX-A และกองทุน SCBFST ซึ่งได้อานิสงส์จากค่าเงินดอลลาร์ที่มีโอกาสแข็งค่าในระยะสั้น รวมถึงยังรับโอกาสจาก Bond Yield สหรัฐฯ ตัวสั้นที่อยู่ในระดับสูง

จัดทำโดยบลป. เดฟินิทสำหรับบลน. ฟินโนมีนา (Finnomena Funds)


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

Wealth Health Check