นักลงทุนแห่ขาย ETF จีน สูงสุดในประวัติศาสตร์?

นักลงทุนรายย่อยในจีนเริ่มถอนเงินจากกองทุน ETF อย่างต่อเนื่อง ส่งสัญญาณถึงความเปราะบางของตลาดการลงทุนในประเทศ

ตามรายงานของ Haitong Securities เปิดเผยว่า กองทุน ETF ในตลาดหุ้นจีนกำลังประสบกับการไหลออกของเงินทุนตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

เงินทุนไหลออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์?

ETF จีน เงินทุนไหลออก

เงินทุนไหลออกจาก ETF รายใหญ่ของจีน | Source: Bloomberg as of 27/11/24

กองทุน ETF ที่ติดตามดัชนีสำคัญ เช่น CSI 300, ChiNext และ STAR 50 ได้เผชิญกับเงินทุนไหลออกสุทธิกว่า 40,000 ล้านหยวน (ประมาณ 190,000 ล้านบาท) ทำให้เดือนนี้อาจกลายเป็นเดือนที่มีเงินทุนไหลออกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ 

ประกอบกับดัชนี MSCI China ที่ลดลงประมาณ 18% นับจากจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม แสดงถึงความกังวลของนักลงทุนต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน รวมถึงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

Volume เทรดเริ่มชะลอตัว

ETF จีน Volume เทรดชะลอตัว

การซื้อขายในตลาดจีนมีสัญญาณชะลอตัว | Source: Bloomberg, Haitong Securities as of 27/11/24

ข้อมูลจาก Haitong Securities ยังชี้ให้เห็นว่า ความสนใจในหุ้นจีนของนักลงทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากยอดเงินกู้เพื่อซื้อหุ้นและชำระหนี้ ที่ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

รวมถึงปริมาณการซื้อขายรายวันที่ลดลงมากกว่าครึ่งจากสถิติสูงสุด 3.5 ล้านล้านหยวนเมื่อเดือนก่อน สถานการณ์เหล่านี้บ่งชี้ว่าตลาดอาจกำลังเข้าสู่ช่วงผันผวน

ในช่วงเดือนที่ผ่านมา การฟื้นตัวของตลาดที่ขับเคลื่อนโดยมาตรการกระตุ้นได้ดึงดูดเงินทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะกองทุน ETF ที่ติดตามดัชนี ChiNext ซึ่งมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิถึง 35,000 ล้านหยวน (ประมาณ 167,000 ล้านหยวน) ในสัปดาห์เดียว ถึงอย่างนั้นแล้วการไหลออกของเงินทุนในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

รอความชัดเจนจากรัฐบาล

เพื่อลดความเสี่ยงและดึงดูดนักลงทุนรายย่อยกลับมา นักวิเคราะห์แนะนำว่ารัฐบาลจีนควรให้ความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแผนการสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงการประชุมเศรษฐกิจสำคัญในเดือนธันวาคม และการประชุมสองสภาในปีหน้า เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดและดึงเงินทุนใหม่เข้าสู่ตลาดหุ้น

การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพให้ตลาด และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว เพื่อดึงดูดเงินทุนกลับคืนสู่ตลาด รวมถึงสร้างแรงขับเคลื่อนสำหรับการเติบโตในอนาคต


อ้างอิง: Bloomberg

 

TSF2024