ราคาหุ้นของ Tesla (TSLA) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับการเปิดตัวรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคม หลังจากเลื่อนกำหนดมานานหลายเดือน และการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3 ซึ่งคาดว่าจะออกมาในช่วงต้นเดือนตุลาคมเช่นเดียวกัน
ยอดขายพุ่งทะยาน นักวิเคราะห์มองบวก
นักวิเคราะห์จาก Wall Street คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอยู่ที่ประมาณ 460,000 คัน ขณะที่ Daniel Levy นักวิเคราะห์จาก Barclays Investment Bank มีมุมมองเชิงบวกมากกว่า โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ Tesla ในไตรมาส 3 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
Daniel Levy คาดว่า Tesla จะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 470,000 คัน เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่า Tesla สามารถฟื้นตัวจากความท้าทายในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน
Tesla ฟื้นตัวจากวิกฤต
แม้ว่า Tesla จะเผชิญกับปัญหาใหญ่มากมายในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความปลอดภัยที่รุนแรง การเรียกคืนรถยนต์จำนวนมาก การปิดโรงงาน การเลิกจ้างพนักงาน และการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในประเทศจีน แต่บริษัทก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าประทับใจ โดยมียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในไตรมาส 2 สูงถึง 440,000 คัน เกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์อย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดราคาขาย
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทก็ได้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมาทำให้ราคาหุ้น TSLA แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบแบบ Year-to-Date (YTD)
ลุยเต็มกำลัง สู่ยุครถไร้คนขับ
Tesla กำลังเดินหน้าพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างโลกที่เต็มไปด้วยรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการนำแท็กซี่ไร้คนขับมาใช้จริงบนท้องถนนในเมืองนั้นยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย
ตัวอย่างเช่น Waymo บริษัทในเครือของ Alphabet (GOOG) ถูกทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สอบสวนหลังจากเกิดอุบัติเหตุและละเมิดกฎจราจรในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้เรียกคืนรถยนต์ไร้คนขับเกือบ 700 คัน
อย่างไรก็ตาม แม้จะเผชิญกับอุปสรรคแต่ Waymo ก็ได้กลับมาดำเนินกิจการอีกครั้ง และเพิ่งประกาศร่วมมือกับ Uber เพื่อขยายบริการแท็กซี่ไร้คนขับไปยังเมืองต่าง ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ต่อไป
นอกจากนี้ Cruise ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ General Motors ก็กำลังจะกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังจากถูกระงับการดำเนินงานเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ที่แท็กซี่ไร้คนขับชนคนเดินเท้าและลากเหยื่อไปไกลถึง 6 เมตร โดยครั้งนี้ Cruise จะกลับมาให้บริการแบบมีคนขับควบคุม ซึ่งเป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของสาธารณชน
การเปิดตัวรถแท็กซี่ไร้คนขับของเทสล่าครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะเป็นการทดสอบขีดความสามารถของ Tesla ในด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งรายสำคัญอย่าง Waymo และ Cruise ในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูง
อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้จริงนั้นย่อมต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคมากมาย ทั้งในด้านกฎหมาย ข้อบังคับ และความปลอดภัย
ที่มา: Yahoo Finance