หมายเหตุ: บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้
MACROECONOMICS
Key Takeaways
- Core CPI MoM และ CPI MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
- Core PPI MoM และ PPI MoM มีแนวโน้มที่จะคงที่
WEEKLY TONE: MONITOR WEEK
ดัชนีเศรษฐกิจสำคัญของสัปดาห์นี้อย่าง Core CPI และ Core PPI ส่งสัญญาณให้ตลาดคงท่าทีระมัดระวัง แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของ Core CPI ชี้ให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ ซึ่งทำให้การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed ซับซ้อนยิ่งขึ้น ขณะที่ Core PPI ที่คงที่แสดงว่าเงินเฟ้อด้านการผลิตยังคงอยู่ในระดับคงตัว ด้วยสัญญาณที่ผสมกันเช่นนี้ นักลงทุนจึงมีแนวโน้มที่จะรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ จนกว่าจะมีข้อมูลชัดเจนเพิ่มเติมจากธนาคารกลางหรือดัชนีเศรษฐกิจอื่น ๆ
Important Economic Data this week
1. Core CPI and Core Inflation Rate
Core CPI หรือ Core Consumer Price Index จะสามารถใช้ชื่อเรียกอีกอย่างได้คือ Core Inflation Rate หรือแปลว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ที่หักสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานออก เนื่องจากเป็นหมวดที่มีความเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาล และอยู่นอกเหนือการควบคุมของนโยบายการเงิน เหลือแต่รายการสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core CPI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.2% เป็น 0.3%
Source : https://tradingeconomics.com/united-states/core-inflation-rate-mom
ตีความอย่างไรต่อตลาด
การมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นของ Core CPI หมายความว่า ราคาสินค้าและบริการโดยรวมยกเว้นอาหารและพลังงานมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น และยังเป็นปัญหาอย่างมากต่อ FED ในการตัดสินใจในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มของ Core CPI ยังส่งสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นยังคงเป็นปัญหาอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจต่ออัตราดอกเบี้ยของ FED นั้นยังต้องคำนวณกับตัวชี้วัดอื่น ๆ อีกด้วย
2. Core PPI MoM
Core PPI หรือ Core Producer Price Index คือ ดัชนีวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาขายสำหรับสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตได้ขายโดยที่ไม่รวมถึงสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้ผลิตจะวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในราคาจากมุมองของผู้ขาย เมื่อผู้ผลิตมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตสินค้าและบริการนั้นก็น่าจะเป็นไปได้มากว่าผู้ผลิตจะให้ผู้บริโภคแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นแทน ดังนั้นดัชนีราคาผู้ผลิตนี้จึงเชื่อว่าเป็นดัชนีสำคัญที่จะชี้วัดภาวะเงินเฟ้อของผู้บริโภค
คาดการณ์จาก Tradingeconomic: Core PPI MoM นั้นมีแนวโน้มที่จะคงตัวอยู่ที่ 0.1%
Source : https://tradingeconomics.com/united-states/producer-price-inflation-mom
ตีความอย่างไรต่อตลาด
ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) ที่คงที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่เสถียร โดยมีความผันผวนของต้นทุนการผลิตที่น้อย ซึ่งสื่อถึงการที่ปัญหาในห่วงโซ่อุปทานอยู่ในระดับที่จัดการได้และต้นทุนการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ได้เป็นปัจจัยกดดันให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยทันที
CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK
Credit from Layergg and Coindar
Key Event ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล
9 กันยายน
- $ENJ – อัปเกรด RelayChain v1.3 และ MatrixChain v1.1
- Fractal – เปิดตัว Mainnet และ TGE
10 กันยายน
- การโต้วาที Trump vs. Harris
11 กันยายน
- ประกาศค่า U.S. CPI
- $OP – Hard Fork
- $HBAR – อัปเกรด Mainnet
12 กันยายน
- ประกาศค่า U.S. PPI
13 กันยายน
- $POL – ลิสต์กระดาน Binance
Weekly Crypto Must Watch
Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap
ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้มีการปรับตัวลงเล็กน้อย หลายเหรียญมี Funding rate ติดลบ แสดงถึงตลาดที่เป็นภาพของปรับตัวลง นักลงทุนมีมุมมองเชิงลบต่อตลาด และทำการเปิดสถานะชอร์ตมากกว่าสถานะลอง โดยรวมแล้ว บ่งบอกถึง Sentiment ของตลาดที่ไม่ค่อยดี
Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest
ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวลดลง บ่งบอกถึงการลดความเสี่ยงของนักลงทุนในระยะสั้น ทั้งนี้ อาจจะมาจากเหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนทาง Macroeonomics และทำให้นักลงทุนจับตามองการประกาศของ Fed กลางเดือนนี้ ว่าจะมีการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยอย่างไร
Source : https://farside.co.uk/?p=997
ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกจาก Spot Bitcoin ETFs รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 706.1 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นแรงเทขายจากนักลงทุนสถาบันปริมาณมาก โดยไม่มีแรงซื้อจาก IBIT และมีแรงเทขายสุทธิจากเกือบทุกเจ้า บ่งบอกถึงการ Risk-off ของนักลงทุนสถาบันอย่างเห็นได้ชัด ส่วนนึงมาจากปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนของ Macroeconomics และความกังวลเรื่องการ Unwind Yen Carry trade อีกรอบ
Source : https://farside.co.uk/?p=1518
ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสเงินไหลออกทั้งสิ้น 91.1 ล้านเหรียญ ซึ่งยังคงเป็นแรงเทขายจาก ETHE เป็นหลัก และมีแนวโน้มที่จะเทขายมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก Ethereum ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่เสี่ยงกว่า Bitcoin ทำให้โอกาสที่จะมีเม็ดเงินใหม่ ๆ ไหลเข้ามามีน้อยในระยะสั้น
Navigate Uncertainty
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีในปัจจุบันขึ้นอยู่กับข้อมูล Macroeconomics มากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเรื่อง Recession ทำให้การจับตามองการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ Fed ส่งผลกระทบต่อการลงทุน โดยปัจจุบัน ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในวันที่ 19 กันยายนนี้
เนื่องจากตลาดรอทั้งการประกาศตัวเลข CPI, PPI, และนโยบายอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนมีการ Risk-off อย่างเห็นได้ชัด สังเกตจากตัวเลขการซื้อขายของ Spot Bitcoin ETF และ Spot Ethereum ETF ที่มีการเทขายของนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่องทุกวัน นอกจากนี้ Volume การซื้อขายบน DEX ทั้งบน Ethereum และ Solana ก็มีการตกลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีการย่อตัวกว่า 30% และ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการเทรด 4 เดือนก่อนตามลำดับ
Source : https://www.coinbase.com/institutional/research-insights
การ Risk-off ของนักลงทุนที่แสดงผ่านกิจกรรมการเทรดที่ลดลง ส่งผลให้ราคาเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีหลาย ๆ เหรียญมีลักษณะ Sideways down หากพิจารณาดัชนี Sell-side Risk Ratio ซึ่งเป็นการนำ Realized profit and loss มาเทียบกับขนาดตลาด โดยสามารถวิเคราะห์ได้ ดังนี้
- ค่าสูง บ่งบอกว่าเหรียญที่มีการซื้อขายนั้น มีกำไรสูงหรือขาดทุนสูงเมื่อเทียบกับต้นทุน ส่งผลให้ตลาดต้องหา Equilibrium ใหม่ อาจตามมาด้วยความผันผวนที่สูงขึ้น
- ค่าต่ำ บ่งบอกว่าเหรียญที่มีการซื้อขายนั้น มีมูลค่าใกล้เคียงกับต้นทุน หรือตลาดได้เจอ Equilibrium แล้ว ทำให้ตลาดมีความผันผวนต่ำ
-
ปัจจุบัน ดัชนีนี้มีค่าที่ค่อนข้างต่ำ บ่งบอกว่าตลาดได้เจอจุดสมดุลแล้ว และอาจจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้น เมื่อดัชนีมีการกลับตัว ทั้งนี้ นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการประกาศค่า Macroeconomics ที่กำลังจะมาถึงและสังเกต Reaction ที่ตลาดตอบรับ
Source : https://insights.glassnode.com/the-week-onchain-week-36-2024/
WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS
by Cryptomind Advisory
BTC/USDT
$BTC มีการปรับตัวย่อลงมาอีกครั้งหนึ่งในวีคนี้ ราคานั้นเคลื่อนตัวอยู่บริเวณแนวรับในกรอบขาลงบริเวณ $53,500 ในระยะยาวแล้วการเคลื่อนที่ของราคาที่จะเป็นสัญญาณขาขึ้นได้ต้องมีการปิดแท่งเทียนเหนือบริเวณ $61,000 ในระยะสั้นหากราคาไม่ได้มีการตกลงต่ำกว่าแนวรับ $52,500 ก็มีโอกาสที่ $BTC จะสร้างชุดสะสม Sideway ออกไปก่อนในระยะข้างหน้าในกรอบ $52,500 และ $56,000 จากการลงที่รุนแรงช่วงที่ผ่านมาควรระมัดระวังความผันผวนรุนแรงในช่วงสัปดาห์นี้
แนวต้าน : $56,000 | $61,000 | $67,000
แนวรับ : $52,500 | $48,000 | $44,000
ETH/USDT
ETH ในภาพใหญ่ยังคงเป็นขาลง ทำ Lower Low ต่อเนื่อง ในระยะสั้นแล้วการปิดตัวต่ำกว่า $2,400 นั้นเป็นการสร้าง Momentum ขาลง ทำให้ในระยะข้างหน้ามีโอกาสที่ $ETH จะ Sideway Down ออกไปก่อน แนวราคาสำคัญที่ต้องดูของ $ETH อยู่ที่ $2,100 ซึ่งหากรับอยู่ก็มีโอกาสกลับตัวได้และอาจมาพร้อมกับ Divergence ในตัว RSI แต่หากลงต่ำกว่านั้นก็อาจมองได้ว่าขาลงยังไม่สิ้นสุด ในอีกมุมหนึ่งหาก $ETH สามารถกลับไปยืนเหนือ $2,400 ได้ก็จะเป็นการทรงตัวของราคาที่ดีและทำให้ Momentum กลับมาเป็นการสร้างชุดสะสมเพื่อลุ้นโอกาสขึ้นต่อได้เช่นกัน
แนวต้าน : $2,400 | $2,870 | $3,350
แนวรับ : $2,125 | $1,870 | $1,550
ASSET ALLOCATION
by Cryptomind Advisory
“มีความเป็นไปได้สูง” ของการลดดอกเบี้ยของ FED จะมาถึงในเดือนกันยายน และ Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และการมาของ Ethereum spot ETF และมุมมองเชิงบวกมาก ๆ ต่อตลาดคริปโทฯ ในสหรัฐในเชิงการเมืองที่อาจจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาสที่ 4 และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต และเพิ่มสัดส่วนของ Ethereum ในพอร์ตเพิ่มขึ้น บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดีรับสัญญาณของ Altcoins season และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง
BITCOIN 40%
SELECTIVE ALTCOINS (ETH, LAYER 2 ,LSD) 40%
STABLECOIN 20%
Merkle Capital
ที่มา: https://merkle.capital/articles/Merkle-Weekly-Snapshot-9th-13th-September-2024
คำเตือน
สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ | ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต | ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใด ๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล | เนื้อหาข้างต้นเป็นการรวบรวมเนื้อหาโดยใช้ข้อมูลในอดีตอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล