Krungsri The Masterpiece

มุมมองตลาดปัจจุบัน

ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ได้แก่ 1) ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งตลาดกังวลว่าจะส่งผลให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางขยายตัวเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ดี นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว หลังไม่มีความรุนแรงเพิ่มเติม  2) อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงช้ากว่าที่คาด  3) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอและลดจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ย  อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่งในช่วงปลายเดือน หลังบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐรายงานผลประกอบการแข็งแกร่ง และนักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด

สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง ทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีสัญญาณฟื้นตัวดีกว่าที่คาด

ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตามการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง หรืออาจไม่มีการลดดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงช้ากว่าที่คาด ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีทิศทางขยายตัว

ทั้งนี้ ตลาดยังคงจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่าเฟดจะเริ่มประกาศลดดอกเบี้ยเมื่อใด ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯที่ยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้  ในขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นจากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ดังนั้น ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้จึงมีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดี  สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ท่าทีเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และสถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลาง

พอร์ตการลงทุน

Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนมีนาคม 2024

 

ที่มา: เอกสารอัปเดตมุมมอง Krungsri The Masterpiece วันที่ 30 เมษายน 2024

Krungsri The Masterpiece อัปเดตมุมมองประจำเดือนมีนาคม 2024

ที่มา: เอกสารอัปเดตมุมมอง Krungsri The Masterpiece วันที่ 30 เมษายน 2024

กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค

กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ

KFAFIX-A:

  • กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวมีแนวโน้มปรับตัวผันผวนได้บ้าง ตามความคาดหวังของตลาดตราสารหนี้เกี่ยวกับโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในรอบการประชุมในเดือนเมษายน ถึงแม้ว่าผลตอบแทนโดยรวมของกองทุนปรับตัวดีขึ้นจากความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามคาด ทั้งจากปัญหาเชิงโครงสร้าง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐที่ล่าช้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเข้าสู่วัฎจักรอัตราดอกเบี้ยขาลงได้เหมือนประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้ ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ โดยทยอยปรับเพิ่มอายุคงเหลือเฉลี่ยของกองทุน นอกจากนี้กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนในระดับสูงยังคงสามารถช่วยลดความผันผวนของตลาดลงได้ โดยคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนกลุ่มนี้มีความน่าสนใจสำหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น อาทิเช่น กองทุน KFAFIX (ขั้นต่ำ 1 ปี ขึ้นไป) โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน KFAFIX = 1.8 – 2.5 ปี

กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ

 KF-CSINCOM:

  • กองทุนปรับเพิ่มอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ต โดยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางของสหรัฐฯ มากขึ้น และยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อค้ำประกัน (MBS) ของภาครัฐ นอกจากนี้กองทุนยังคงบริหารสัดส่วนการถือครองค่าเงินในเชิงรุก ซึ่งคาดว่าค่าเงินเยนของญี่ปุ่นและค่าเงินเรียลของบราซิลอาจปรับตัวแข็งค่าขึ้น

กองทุนตราสารทุนในประเทศ

KFDYNAMIC:

  • กองทุนที่เน้นการเฟ้นหาหุ้นที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละภาวะตลาด (KFDNM-D หรือ KFDYNAMIC) มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีในระยะกลางถึงยาวตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่กองทุนคัดเลือกลงทุน

กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ Developed Market Equity

KFUSINDX:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มการเติบโตสูงและหุ้นเทคโนโลยีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ส่งสัญญาณว่าการลดดอกเบี้ยในปีนี้อาจเป็นไปได้ช้ากว่าที่ตลาดคาดเนื่องจากข้อมูลการจ้างงานยังแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อยังมีความไม่แน่นอนส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับร้อยละ 4.4

KFHTECH:

  • หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจาก Theme AI และการฟื้นตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีระดับการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิที่สูงกว่าตลาดโดยรวม อย่างไรตามคาดว่ากลุ่มเทคโนโลยีอาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรเป็นระยะ ๆ เนื่องจากระดับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น

กองทุนที่ลงทุนทั่วโลก

KFGBRAND-A:

  • กองทุนเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง รวมถึงมีรายได้ และกำไรเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยมีลักษณะเป็นหุ้นเชิงรับที่มีคุณภาพ (Defensive Quality) อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่เหมาะกับช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศตลาดกำลังพัฒนา

KF-INDIA:

  • ตลาดหุ้นอินเดียยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาตลาดอินเดียได้รับแรงส่งจากเงินลงทุนของต่างชาติ และเศรษฐกิจของอินเดียที่เริ่มทยอยฟื้นตัวประกอบกับแรงกดดันทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่น้อยกว่าจีน ทำให้ตลาดอินเดียปรับตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ อินเดียจะเริ่มมีการเลือกตั้งในเดือนเมษายน ซึ่งตลาดคาดว่า Modi จะยังสามารถดำรงตำแหน่งต่อได้ ทำให้การดำเนินนโยบายการปฎิรูปต่างๆ ยังคงไปได้ต่อ อย่างไรก็ดีอาจต้องระวังเรื่องการประเมินมูลค่าที่ปรับขึ้นไปค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต

KFACHINA-A:

  • ตลาดหุ้นจีนมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณว่าจีนเริ่มทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งมีแรงสนับสนุนมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางจีน และการเข้าซื้อ ETFs ในตลาดหุ้น A-shares ของรัฐบาล อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวยังคงมีความผันผวนโดยนักลงทุนยังต้องการเห็นนโยบายกระตุ้นขนาดใหญ่และการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่ยังต้องระวังเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่อาจกลับมาตึงเครียด


ที่มา: เอกสารอัปเดตมุมมอง Krungsri The Masterpiece วันที่ 30 เมษายน 2024


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้   กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น   กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้  (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย  เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร  0 2657 5757 | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299

TSF2024