ถือเป็นก้าวสำคัญของ บลจ. กสิกรไทย (KAsset) กับการประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับพันธมิตรการลงทุนระดับโลก J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) ซึ่งเป็นการร่วมมือในเชิงกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงนวัตกรรมด้านการลงทุน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก เพื่อยกระดับการลงทุนของไทย
ความน่าสนใจของการร่วมมือครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังจาก 2 ค่ายการลงทุนชั้นนำ โดย JPMAM เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการลงทุนระดับโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ KAsset เป็นผู้นำตลาดกองทุนรวมของประเทศไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 1.49 ล้านล้านบาท ที่มีความเข้าใจเชิงลึกต่อสินทรัพย์และสถานการณ์การลงทุนในไทย
นอกจากนี้ จะมุ่งเสริมศักยภาพของ KAsset ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้ข้อมูลเชิงลึกที่เข้าถึงผู้ลงทุนได้ทันสถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา และการให้คำปรึกษาอย่างเข้าใจ ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงิน
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร KAsset กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้ลงทุนไทยประมาณ 60% กำลังเผชิญปัญหาพอร์ตการลงทุนมีความผันผวน (ที่มา: บลจ. กสิกรไทย ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2566) โดยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และวิกฤตเศรษฐกิจโลก ปัจจัยเหล่านี้ได้นำไปสู่ความผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเมินสถานการณ์ได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจึงมุ่งพัฒนาแผนกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก พร้อมปรับรูปแบบการลงทุนให้สอดรับและทันทุกการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ KAsset ที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุนไทยมีความมั่นคงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน”
นายแดน วัตกินส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPMAM ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ทีมงานของ JPMAM รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ KAsset ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ลงทุนไทย โดยมองว่าตลาดทุนไทยเป็นตลาดที่มีความคึกคักและเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนทั่วโลกของ JPMAM ทำให้พวกเรามีความพร้อมที่จะนำเสนอโซลูชั่นการลงทุนที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้กับผู้ลงทุนไทย และเป็นการเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจของ JPMAM ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
มุมมองการลงทุนปี 2024 โดย JPMAM x KAsset
- เศรษฐกิจโลกในปี 2024 มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงจากปี 2023 โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มเห็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคผู้บริโภคกำลังเผชิญกับความท้าทายจากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูง
- การเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปกำลังชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง และในทำนองเดียวกัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาจากภาคอสังหาริมทรัพย์
- เศรษฐกิจญี่ปุ่น ยังคงต้องจับตาการเจรจาค่าจ้าง และเงินเฟ้อ แต่การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอาจจะไม่ได้เกิดขึ้น เร็วอย่างที่ตลาดคาดหวัง
- เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตเร่งตัวขึ้น จากการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ยังโตต่อเนื่อง การส่งออกและการใช้จ่าย ภาครัฐที่กลับมาขยายตัว ส่งผลให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนกลับมาขยายตัวได้ และ Valuation ในปัจจุบัน ที่ซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตซึ่งสะท้อนความกังวลจากปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้นในปี 2022 ไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว
- จุดสำคัญคือการลดดอกเบี้ยของเฟดในปี 2024 นำมาซึ่งสินทรัพย์ที่น่าจะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลระยะเวลายาว และหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง ซึ่งจะช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุน
ปี 2024 KAsset คาดการณ์ว่าจะเป็นปีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มลดดอกเบี้ย ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ เป็นบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ จะให้ผลตอบแทนที่ดี