Highlight
- วิเคราะห์ภาพรวมตลาดหุ้นไทย
- มุมมอง Mr.Messenger Call เก็งกำไรหุ้นไทย Mid-Small Cap
- มุมมอง FundTalk Call ถึงเวลาลงทุนหุ้นไทย Big Cap ปันผลแกร่ง
- สรุป ASP-SME-A vs TISCOHD-A เลือกกองทุนไหนดี?
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 31/12/2023
ปี 2023 หุ้นไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สร้างผลตอบแทนได้ย่ำแย่ที่สุดในโลก โดย SET Index ให้ผลตอบแทนติดลบกว่า 15% อย่างไรก็ดี ปี 2024 นี้ ภาพของตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยสนับสนุน ดังนี้
1. เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตเร่งตัวขึ้น จากแรงสนับสนุนของภาคการส่งออกที่กลับมาเติบโต ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ประกอบกับที่รัฐบาลพยายามออกมาตรการดึงดูด รวมถึงนโยบาย Digital Wallet ที่จะกระตุ้นการบริโภคในระยะสั้น ซึ่งมุมมองนักวิเคราะห์คาดว่าปี 2024 GDP ไทยจะเติบโตขึ้นมาที่ 3.5%
2. Fund Flow ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เข้าสู่วงจรการหยุดขึ้นดอกเบี้ย ทำให้แรงกดดันของดอกเบี้ยนโยบายไทยผ่อนคลายลงไปด้วย ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น
3. ระดับมูลค่าน่าสนใจ หุ้นไทยถูกกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี ปัจจุบัน PE อยุ่ที่ 14.4x และเมื่อเปรียบเทียบ Valuation กับหุ้นโลกอยู่ที่ -2 S.D.
4. หุ้นไทยมักสร้างผลตอบแทนเป็นบวก หลังจากปีก่อนหน้าทำผลงานย่ำแย่ ซึ่งจากสถิติในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า SET Index ไม่เคยติดลบต่อเนื่อง 2 ปิติดต่อกัน แปลว่าถ้าปีก่อนลงแรง ปีนี้มีโอกาสสูงที่จะฟื้นคืน
ภาพแสดง SET Index 20 years performance
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 05/01/2024
ทั้งนี้ FINNOMENA FUNDS Investment Team มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2024 ดีขึ้น พร้อมให้เป้าหมาย SET Index กรณี Bull Case ไว้ที่ระดับ 1,530 จุด Base Case ที่ 1,460 จุด และ Bear Case ที่ 1,300 จุด
แล้วถ้าเราเชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้นของหุ้นไทย คำถามคือควรจะเลือกลงทุนอย่างไรดี มีกองทุนแนะนำอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้เราได้สรุป 2 คำแนะนำเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น-กลาง รับจังหวะหุ้นไทยทะยานตัว ในรูปแบบ Tactical Call มาฝาก
Mr.Messenger Call เก็งกำไรหุ้นไทย Mid-Small Cap
แนะนำกองทุน ASP-SME-A ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางและขนาดเล็กที่มี Market Cap. ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท โดยเน้นบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมีคุณภาพ (High Quality of earnings growth)
เป็นกองทุนที่คัดเลือกหุ้นแบบ Active ที่มีการวิเคราะห์ตัวบริษัทแบบ Bottom-Up พยายามเฟ้นหาธุรกิจที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนแบบก้าวกระโดด โดยหุ้นในพอร์ตมีค่า Correlation เทียบกับดัชนี sSET ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.865
รายละเอียดอื่น ๆ ของ ASP-SME-A
- ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
- นโยบายปันผล ไม่จ่าย
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป 1 บาท
- ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.25%
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.61% ต่อปี
- รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 3.03% ต่อปี
ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/11/2023
เหตุผลที่แนะนำ ASP-SME-A
ด้วยมุมมองแบบ Trend Follower มองว่าตลาดหุ้นไทยเริ่มมี Sentiment ที่ดีขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเฉพาะดัชนี sSET ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นไทยขนาดกลางเล็กนั้นยืนเหนือ fibonacci 23.6% ของรอบขาลง พร้อมกับสร้างรูปแบบ Triple Bottom ทะลุ Neckline ขึ้นมาบ่งชี้ถึงสัญญาณการกลับตัว รวมถึงสัญญาณ MACD ตัดขึ้นเหนือแกน 0 บ่งบอกถึงโมเมนตัมของดัชนีว่ามีแนวโน้มเป็นขาขึ้น
นอกจากนี้ แรงกดดันด้านดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่อนคลายลงของธปท. หลัง Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยลงในปีนี้ ทำให้ค่าเงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยเช่นกัน
อ่านคำแนะนำ Mr.Messenger Call เก็งกำไรหุ้นไทย Mid-Small Cap หลังเกิดสัญญาณกลับตัว เพิ่มเติม คลิกเลย
FundTalk Call ถึงเวลาลงทุนหุ้นไทย Big Cap ปันผลแกร่ง
แนะนำกองทุน TISCOHD-A ซึ่งเน้นลงทุนใน SET High Dividend 30 Index ที่มี Dividend Yield สูงถึง 6.5% และเป็นหุ้นขนาดใหญ่เฉลี่ย Market Cap ต่อหุ้นประมาณ 100,000 ล้านบาท และกองทุนมี P/E ต่ำกว่าดัชนี SET
เป็นกองทุนที่คัดเลือกหุ้นแบบ Active โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Bottom-up ค้นหาหุ้นที่มีกำไรและปันผลสม่ำเสมอ รวมทั้งมีการเติบโตของปันผลทั้งในอดีตและอนาคต
รายละเอียดอื่น ๆ ของ TISCOHD-A
- ความเสี่ยงระดับ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
- นโยบายปันผล ไม่จ่าย
- ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไป ไม่กำหนด
- ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee) 1.00%
- ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืน (Back-end Fee) ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) 1.61% ต่อปี
- รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.89% ต่อปี
ข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ ณ วันที่ 30/11/2023
เหตุผลที่แนะนำ TISCOHD-A
เมื่อมองแบบ Contrarian ในช่วงต่อจากนี้เราน่าจะได้เห็น fund flow ไหลกลับเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น จาก Positive Surprise ต่าง ๆ อาทิ บรรยากาศทางด้านเศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น ทิศทางดอกเบี้ยขาลง ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่า ภาพการส่งออกไทยเริ่มกลับมาดูดี ตลอดจนแรงหนุนของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางกลับเข้าไทยจำนวนมาก
ขณะเดียวกันหุ้นไทยที่ผ่านมาถูกปรับลดประมาณการกำไรต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า Positive Surprise ต่าง ๆ จะทำให้นักวิเคราะห์เริ่มมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร ซึ่งสิ่งนี้ล่ะคือ catalyst อย่างดีของตลาดหุ้น ทั้งนี้ ดัชนี SET มีการคาดการณ์ EPS Growth ที่ 18% และ 13% ใน 2 ปีข้างหน้า โดย EPS ปี 2024 อยู่ที่ 97 บาทต่อหุ้น ถ้าเราคูณกับค่าเฉลี่ย P/E ที่ 15.3 เท่า ก็จะได้ target SET ที่ 1,487 จุด บวกจากตรงนี้ประมาณ 50 กว่าจุด
อ่านคำแนะนำ FundTalk Call ถึงเวลาลงทุนหุ้นไทย โอกาสทำกำไรรับปัจจัยบวก เพิ่มเติม คลิกเลย
สรุป ASP-SME-A vs TISCOHD-A เลือกกองทุนไหนดี?
ในแง่สไตล์การลงทุน ทั้ง 2 มีความแตกต่างกันชัดเจน ถ้าเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Large Cap และ Value focus แนะนำ TISCOHD-A แต่ถ้าใครเน้นหุ้นขนาดกลางเล็ก ครอบคุมทั้ง value-growth style แนะนำ ASP-SME-A
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 05/01/2024
ในแง่ของผลตอบแทบ ทั้ง TISCOHD-A และ ASP-SME-A สามารถสร้างผลตอบแทนรายเดือนชนะดัชนีเป็นส่วนใหญ่ และดีกว่าตลาดในช่วงขาลง
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 05/01/2024
คาแรกเตอร์หุ้นในพอร์ต TISCOHD-A เน้นหนักที่หุ้นอสังหาฯ ไม่มีเทคโนโลยี เป็นหุ้น P/E ต่ำ ส่วน ASP-SME-A หนักไปที่กลุ่มสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เน้นหุ้นเล็กโตแรง
Source: FINNOMENA FUNDS, Bloomberg as of 05/01/2024
สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/
คำเตือน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ FINNOMENA FUNDS ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในกรอบระยะเวลาตามวัตถุประสงค์การลงทุนที่แตกต่างกันตามคำแนะนำ | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299