ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งเรื่องของการจัดการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีการบริหารโดยเฉพาะ ข่าวดีคือในยุคปัจจุบันนี้ การบริหารจัดการเงิน หรือการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เราสามารถใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยประกอบการตัดสินใจ เพื่อเป็นตัวช่วยในการสร้างความมั่งคั่งได้เร็วยิ่งขึ้นในอนาคต

      ซึ่งวันนี้  FINNOMENA จะมายกตัวอย่างว่านวัตกรรมในยุคดิจิทัล จะช่วยให้เราสามารถทำตาม 10 ขั้นตอนการสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายมากขึ้นขนาดไหน

1. ตั้งเป้าหมายการเงินให้ชัด

การตั้งเป้าหมายเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มวางแผนการเงิน เพื่อให้เราได้มีการบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ตามลำดับความสำคัญที่วางไว้อย่างชัดเจน  และควรตั้งเป้าหมายให้มีลักษณะเป็นตัวเลขและสามารถวัดได้ เช่น ออมเงินเท่านี้เพื่อซื้อบ้าน เพื่อเกษียณ เพื่อเรียนต่อ หรือเพื่อการศึกษาบุตร อย่างไรก็ตาม หากมีเป้าหมายมากกว่าหนึ่งอย่าง เครื่องมือดิจิทัลในปัจจุบันนี้ สามารถตั้งเป้าหมายได้หลากหลายอย่างพร้อมกันได้

2. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

อีกหนึ่งวิธีพื้นฐานที่ใช้ในการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น นั่นคือการใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยบันทึกและติดตามรายรับ-รายจ่าย ซึ่งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงรู้ว่าเงินถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง หากคิดวิเคราะห์แล้วไม่จำเป็นก็สามารถตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ออกไปได้  

3. อุดช่องโหว่ ลดหนี้สิน

เรียกว่าเป็นปัญหาของใคร ๆ หลายคนในเรื่องของหนี้สินที่กลายเป็นชะงักติดหลังที่สลัดไม่หลุด หากลองเอาเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการหนี้ได้มาใช้ เช่น แอปพลิเคชันที่ควบคุมการใช้จ่าย จัดการหนี้สิน หรือโปรแกรมที่ช่วยวางแผนการชำระหนี้ ก็จะช่วยอุดช่องโหว่ในส่วนนี้ได้ไม่มากก็น้อย  

แต่ถึงอย่างนั้น หากพฤติกรรมการใช้จ่ายยังไม่เปลี่ยน การมีเครื่องมือก็ไม่ช่วยให้หลุดวงโคจรนี้ได้ ตัวอย่างเช่น การใช้บัตรเครดิต หากใช้จ่ายโดยไม่คิด และเลือกชำระแบบขั้นต่ำ จะทำให้มีดอกเบี้ยที่สูงกว่าการเลือกจ่ายแบบเต็มจำนวน ทางที่ดีต้องใช้จ่ายอย่างมีสติ และมีแผนรองรับว่าจะเอาเงินที่ไหนมาชำระหนี้

4. สร้างวินัยที่ดี เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

การสร้างวินัยที่ดีสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านการออมเก็บเงินทุกเดือน หรือลงทุนอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า DCA (Dollar Cost Averaging) เป็นเทคนิคการลงทุนที่ใช้ซื้อสินทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุกเดือน โดยแบ่งการซื้อเป็นครั้งละเท่า ๆ กัน เช่น ครั้งละ 1,000 บาท หรือ 5,000 บาท ตลอดจนถึงสิ้นปีหรือมากกว่านั้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะซื้อในราคาสูงเกินไปและเพิ่มความเสถียรให้กับการลงทุน โดยแอปฯ ลงทุนหลาย ๆ แอปฯ สามารถตั้งค่าให้ลงทุนอัตโนมัติเพื่อช่วยสร้างวินัยในการลงทุนได้

5. เพิ่มเติมความรู้เรื่องการลงทุน

ในยุคที่อะไร ๆ ก็ค้นหาได้ง่ายบนโลกอินเทอร์เน็ต การหาความรู้ในยุคนี้เลยเป็นสิ่งที่สามารถทำได้เลย ไม่ต้องให้ใครมาบอก รวมถึงการศึกษาหาความรู้ในด้านการเงินการลงทุน จากแหล่งข้อมูลหลาย ๆ ที่โดยง่าย มีทั้งฟรีและไม่ฟรี แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือการคัดกรองและวิเคราะห์แหล่งที่น่าเชื่อถือ หลังจากนั้นก็เอาสิ่งที่ศึกษามากำหนดแนวทางการลงทุนของตัวเอง

6. หาที่ปรึกษาการลงทุนที่มีประสบการณ์

เมื่อมาถึงจุดที่มีความรู้การเงินการลงทุนพอสมควร พร้อมกับมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ยังรู้สึกว่าขาดตัวช่วยที่คอยชี้แนะเรื่องการลงทุน ขาดข้อมูลเชิงลึกและเทคโนโลยีที่ช่วยในการวิเคราะห์ รวมถึงไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร การมีที่ปรึกษาการลงทุนคอยแนะนำดูแลอย่างใกล้ชิดก็เป็นสิ่งที่ดี คอยบริหารจัดการกลยุทธ์การลงทุนของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. เลือกเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม

การเลือกเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมในยุคดิจิทัล ควรพิจารณาในหลาย ๆ ปัจจัยดังนี้

  1. เป้าหมายของการลงทุน ว่าต้องการเพิ่มมูลค่าในอนาคต, สร้างผลตอบแทนในระยะเวลาสั้น ๆ หรือมีวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ต้องการมากกว่าผลตอบแทนเฉลี่ย 
  2. ประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับการรับความเสี่ยงนั้น ๆ 
  3. แผนการลงทุนที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงเงินทุนตั้งต้น เงินที่ลงทุนในครั้งต่อไป ระยะเวลาการลงทุน
  4. ศึกษาและวิเคราะห์เครื่องมือการลงทุนที่เลือกใช้ ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ เปรียบเทียบผลตอบแทนของเครื่องมือการลงทุนต่าง ๆ และความสะดวกในการใช้งาน หากเครื่องมือนั้นตอบโจทย์ จะช่วยให้มั่นใจได้ในการลงทุนในระยะยาว

8. เช็กสุขภาพพอร์ตลงทุน

หลังจากเลือกเครื่องมือการลงทุน และเริ่มลงทุนไปแล้วสักระยะ เราควรกลับมาเช็กสุขภาพพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ว่าผลตอบแทนตอนนี้เป็นยังไง ตรงตามที่คาดหวังไว้หรือเปล่า ส่วนความถี่ในการเช็กสุขภาพพอร์ต สามารถกำหนดได้เองตามแนวทางของแต่ละคน เช่น ทุก ๆ 3 เดือน หรือ ทุก ๆ ครึ่งปี ซึ่งสมัยนี้ทำได้ง่ายผ่านระบบดิจิทัลซึ่งจะแสดงและคำนวณมาให้เห็นเลยว่าผลตอบแทนเท่าไรแล้ว สัดส่วนแต่ละสินทรัพย์เป็นเท่าไร การทำสิ่งเหล่านี้จะเป็นผลดีเพื่อนำไปสู่การปรับแผนการลงทุนตามความเหมาะสมของสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา

9. ปรับพอร์ตเปลี่ยนความเสี่ยง

การปรับแผนการลงทุนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มันอาจมีผลต่อผลตอบแทน หรือเป้าหมายที่วางไว้ของเราได้ ปัจจุบันมีเครื่องมือและนวัตกรรมที่คอยแนะนำการปรับพอร์ตให้คอยประเมินสถานภาพทางการเงิน ว่าจะเพิ่มหรือลดเงินลงทุนในส่วนไหน ที่จะทำให้แผนการลงทุนมีโอกาสในการบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้สูงสุด

10. หานวัตกรรมที่ช่วยวางแผนการลงทุนแบบครบจบในที่เดียว

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นการดีหากเราจะหานวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์เราได้ทุกเรื่อง ช่วยเหลือให้เราวางแผนการลงทุนได้แบบครบจบในที่เดียว เราจึงขอแนะนำ Goals Navigator นวัตกรรมที่สามารถวางแผนทุกช่วงชีวิต ช่วยวางแผนการลงทุนในทุกช่วงเวลา รองรับทุกสถานการณ์ โดย Goals Navigator เป็นหนทางสู่ความมั่งคั่งด้วยนวัตกรรมแผนการลงทุนระดับโลกที่จะมาตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยเริ่มตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย บริหารจัดการเงิน การสร้างวินัยทางการเงิน และการวิเคราะห์ติดตามประเมินผล เพื่อปรับพอร์ตเปลี่ยนความเสี่ยงในทุกสถานการณ์ ช่วยให้เป้าหมายชีวิตของคุณสำเร็จได้ครบจบในที่เดียว 

ทำไมต้องเลือกใช้ Goals Navigator

  1. ตั้งเป้าหมายได้หลากหลายพร้อมกัน พร้อมคาดการณ์แบบองค์รวมในรูปแบบของ Life path และสามารถจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายได้
  2. เน้นความสำเร็จในการลงทุน มากกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ผันผวนตามสภาวะตลาด ระบบคำนวณและแนะนำการจัดสรรเงินลงทุน ระยะเวลาลงทุน และแผนการลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาให้อย่างชาญฉลาด ด้วยมุมมองการลงทุนระดับโลก
  3. ดูแลจัดการวางแผนการลงทุนในทุก ๆ ช่วงเวลา รองรับทุกสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตรวจสอบแต่ละเป้าหมายว่าเข้าใกล้ถึงความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนเพื่อให้รองรับกับสถานการณ์ทางการเงิน ไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต
  4. มีทีมที่ปรึกษาการลงทุนคอยดูแลโดยตรงจาก FINNOMENA Investment Team ด้วยประสบการณ์การลงทุนมากกว่า 20 ปี ที่คอยผสมผสานกับข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการวิเคราะห์และเสนอมุมมองการลงทุน โดยผู้แนะนำการลงทุนที่ ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.

 

Goals Navigator นวัตกรรมวางแผนลงทุนระดับโลกด้วยความร่วมมือกับ FRANKLIN TEMPLETON ออกแบบทุกความสำเร็จ เพื่อทุกเป้าหมายในชีวิตสำหรับคุณ

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://finno.me/gnavi-web


คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำควรเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยสามารถขอข้อมูลจากผู้แนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT”