เช้าวันนี้ (7 พฤศจิกายน 2565) ดัชนี Hang Seng บวก 4.1% ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Country Garden เพิ่มขึ้น 14.2% หุ้น Xiaomi เพิ่มขึ้น 5.8% และ หุ้น JD.com เพิ่มขึ้น 5.3% แม้ตัวเลขการค้าของจีนเดือนตุลาคมซึ่งรายงานออกมาเช้านี้แย่กว่าที่ตลาดคาด โดยการส่งออกหดตัว 0.3%(YoY) สวนทางตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% (YoY) และการนำเข้าหดตัว 0.7%(YoY) สวนทางตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%(YoY)
สำหรับความคืบหน้าการใช้วัคซีน mRNA ในจีน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีเยอรมันได้เข้าพบผู้นำจีน พร้อมระบุว่ารัฐบาลจีนเตรียมอนุมัติใช้วัคซีน mRNA ของ BioNTech แก่ชาวต่างชาติที่พักอาศัยในประเทศจีน โดยทาง BioNTech จะร่วมมือกับ Shanghai Fosun Pharmaceutical ในการกระจายวัคซีน ซึ่งความร่วมมือนี้ถือว่าเป็นก้าวแรกแห่งการใช้วัคซีน mRNA ในประเทศจีน สร้างความคาดหวังการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อาจผ่อนคลายลง หรือมีแนวโน้มการใช้วัคซีน mRNA เข้ามาร่วมด้วยมากขึ้น
FINNOMENA Investment Team มองว่าความผันผวนของตลาดหุ้นฮ่องกงยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากท่าทีของทางการจีนที่ออกมายืนยันว่ายังคงยึดมั่นในนโยบาย Zero-Covid และกลับมาล็อกดาวน์ในเมืองหลัก ๆ อีกครั้ง ประกอบกับหลังการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่เป็นบวกกับตลาดหุ้น ขณะที่ Valuation ของหุ้นจีนหลาย ๆ ดัชนีอยู่ในระดับที่ถูก โดยเฉพาะในดัชนี Hang Seng Index ที่อยู่ในระดับ Deep Discount ซึ่งแม้ในระยะสั้นอาจไม่ใช่สัญญาณซื้อที่ดี แต่จากสถิติในอดีตมักเป็นจุดสะสมที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จึงแนะนำทยอยสะสม กองทุนที่มีความสัมพันธ์กับดัชนี Hang Seng สูงอย่าง ASP-HSI และกองทุนหุ้นจีนต่างๆ ซึ่งมักมีค่า Correlation กับดัชนี Hang Seng สูงทั้ง อาทิ K-CHINA-A(A), P-CGREEN เพื่อเป้าหมายลงทุนระยะยาว
พร้อมกันนั้นการเคลื่อนไหวขึ้นต่อเนื่อง ยังทำให้ดัชนี Hang Seng เกิด Momentum เชิงบวกระยะสั้น FINNOMENA Investment Team จึงได้แนะนำให้นักลงทุนสามารถเข้าลงทุนแบบเก็งกำไรด้วยกองทุนอย่าง ASP-HSI หรือ K-CHINA-A(A) ตามรายละเอียดในลิงก์
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel