ดัชนี Hang Seng ลงนำเอเชีย หลังถูกกดดันโดยกฏส่งออกเซมิคอนดัคเตอร์สหรัฐฯ และผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีนทะลุ 3,000 ราย
เช้าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลบตาม Sentiment ลบของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง อาทิ Dow Jones -2.11% , S&P 500 -2.80% และ NASDAQ -3.88% หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และ อัตราการว่างงานออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักวิเคราะห์เกิดความกังวลว่า Fed จะทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันในการประชุม FOMC เดือนพฤศจิกายนนี้ โดยโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 78.1% หลักจากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 56.5% เท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบกับท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำหนดข้อจำกัดในการส่งออกเซมิคอนดัคเตอร์ชั้นสูง และอุปกรณ์ไปยังจีนให้เข้มงวดมากขึ้น และจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เร่งตัวขึ้นแตะระดับ 3,000 รายต่อวัน ส่งผลให้ดัชนี Hang Seng ฮ่องกง ปรับตัวลง 2.98% นำโดยกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และการท่องเที่ยว อาทิ Sunny Optical, Sand China เป็นต้น
FINNOMENA Investment Team ยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังตาม Recession Playbook จากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่ยังไม่ลดลงสู่ระดับเป้าหมาย กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีโอกาสผันผวนอย่างต่อเนื่อง ผ่านแรงกดดันจากการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed เพื่อต้องการลดเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายที่ 2% และยังมีเรื่องของการลดขนาดงบดุล (QT) ที่ตลาดยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควรจึงยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังในการลงทุน (Defensive)
ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงนั้น ยังมีแรงกดดันเชิงนโยบายภาครัฐ อาทิ นโยบาย Zero COVID และ ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในจีนกำลังจะมีการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น จึงยังแนะนำคงสัดส่วนการลงทุน เพื่อประเมินนโยบายหลังการประชุมใหญ่อย่างชัดเจนอีกครั้ง
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel