มุมมองตลาดปัจจุบัน
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา กองทุนที่เน้นลงทุนในตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้วฟื้นตัวแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงแรงอันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมในเดือน ก.ค. ซึ่งช่วยความกังวลของตลาดที่คาดว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย 1.00% นอกจากนี้ เฟดส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมครั้งถัดไป เนื่องจากมองว่าเงินเฟ้ออาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ในขณะที่การขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในเดือน ก.ค. จะส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับดอกเบี้ยคาดการณ์ในระยะยาว
ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวแข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค. หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต พร้อมทั้งปรับลดมุมมองเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาด และตัวเลขการจ้างงานและยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาดีกว่าที่คาด สะท้อนว่าการใช้จ่ายของบริโภคสหรัฐยังคงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่ตลาดหุ้นจีนมีแรงขายทำกำไร และมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน อย่างไรก็ดี นักลงทุนสถาบันหลายแห่งทั่วโลกมองว่าเศรษฐกิจจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
ในส่วนของตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ถึงแม้มีความเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็ตาม เนื่องจากตลาดได้ตอบรับการขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว และการส่งสัญญาณลดความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลดีต่อราคาตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นมีความน่าสนใจในแง่ของความปลอดภัยและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต
พอร์ตการลงทุน
ที่มา: เอกสารอัปเดตพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่: 27 กรกฎาคม 2022
ที่มา: เอกสารอัปเดตพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่: 27 กรกฎาคม 2022
กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค
กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ
- กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง – ยาว ยังคงจะเผชิญกับความผันผวนในระดับสูงมากต่อไป จากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่อาจจะเริ่มปรับขึ้นได้ในเดือนสิงหาคมนี้ ภายหลังความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นน่าจะเป็นในรูปแบบค่อยเป็นค่อยไป และอาจจะไม่เท่ากับดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ที่ยังคงเร่งการปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับ 50-70 bps ในการประชุมในเดือน ก.ค.นี้ ภายหลังจากที่ขึ้น 75 bps ในเดือน มิ.ย ที่ผ่านมา สำหรับตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนไทยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนจองกองทุนกลุ่มนี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับเงินลงทุนระยะยาวที่ไม่ต้องการสภาพคล่องในระยะสั้น อาทิเช่น กองทุน KFAFIX-A ขั้นต่ำ 1 ปีขึ้นไป โดยปัจจุบันกรอบ Duration เฉลี่ยของกองทุน KFAFIX-A = 2-3 ปี
กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ
- กองทุนลดอายุเฉลี่ยลงเล็กน้อย โดยให้น้ำหนักตราสารหนี้ระยะยาวของสหรัฐฯ น้อยลง จากยีลด์ตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะกลางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วกว่าตราสารหนี้ระยะยาว กองทุนยังคงสถานะชอร์ตบนตราสารหนี้ในอังกฤษและญี่ปุ่นเพื่อลดผลกระทบจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
กองทุนตราสารทุนในประเทศ
- กองทุนที่เน้นการเฟ้นหาหุ้นที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละภาวะตลาด มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีในระยะกลางถึงยาว ตามผลการดำเนินของบริษัทฯที่กองทุนคัดเลือกลงทุน
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ Developed Market Equity
- ภาพตลาดโดยรวมยังคงมีความผันผวน จึงยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน โดยปกติกองทุนจะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง รายได้และกำไรเติบโตสม่ำเสมอ
- ตลาดยุโรปยังคงมีทิศทางผันผวน โดย ธนาคารกลางยุโรปเตรียมขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้หากธนาคารกลางยุโรป เมื่อมีการเคลื่อนอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูง เช่นอิตาลี เป็นต้น
- ตลาดจีนทยอยฟื้นตัว โดยรัฐบาลจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ นอกจากนี้นโยบายเรื่องการควบคุมในอุตสาหกรรมต่างๆมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจในตลาดจีนอีกครั้ง อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวของตลาดยังมีความผันผวน โดยยังต้องระวังตัวเลขผู้ติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลต้องกลับมาใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น
KFHHCARE :
- Healthcare เป็นอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเชิงรับ หรือมีความ มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคามีความน่าสนใจ ขณะที่ ระดับกำไรเติบโตได้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
- กองทุนลงทุนในกองทุนต่างประเทศ iShares Core S&P 500 ETF โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 Index เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนของกองทุน
ที่มา: เอกสารอัปเดตพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่: 29 มิถุนายน 2022
หมายเหตุ:
- กองทุน KFGBRAND-A, KFGBRAND-D, KF-EUROPE, KFACHINA-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- กองทุน KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFAINCOM-A, KFAINCOM-R, KF-HUSINDX, และ KF-HEUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 0 2657 5757