มุมมองตลาดปัจจุบัน
ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์ทุกประเภทยังคงปรับตัวลดลงต่อ โดยยังคงเป็นผลจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ และการล็อกดาวน์ในจีนซึ่งส่งผลให้ปัญหาในภาคอุปทานเลวร้ายลงและเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ เริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายเดือน หลังรายงานการประชุมเฟดบ่งชี้ว่า เฟดอาจลดความเข้มข้นในการใช้มาตรการสกัดเงินเฟ้อหากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง และตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
ทั้งนี้ เฟดยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อลดอุปทานส่วนเกินที่เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างปัญหาเงินเฟ้อ โดยตลาดลดความคาดหวังว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมในช่วงปลายปีนี้ แต่จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยครั้งละอย่างน้อย 0.50% ในทุกการประชุม ในขณะที่ทางการจีนเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะผ่อนคลายลง
สำหรับตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก และราคาตราสารหนี้ของไทยปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับราคาตราสารหนี้สหรัฐ ในขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้นหลังรัฐบาลผ่อนคลายภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ทางเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นในระยะยาว โดยมองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับเข้าสู่จุดสมดุลหลังจากที่ปรับตัวลดลงมากเกินไป
ในส่วนของตราสารหนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ถึงแม้มีความเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็ตาม เนื่องจากตลาดได้ตอบรับการขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว และเงินเฟ้อของสหรัฐอาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว จึงเปิดโอกาสในการที่จะสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากการที่ตลาดปรับตัวลดลงมามากเกินไป ในขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นมีความน่าสนใจในแง่ของความปลอดภัยและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในอนาคต
พอร์ตการลงทุน
ในเดือนนี้ ทาง บลจ. กรุงศรีฯ แนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุน โดยปรับลดการลงทุนใน KFHEUROP-A ลง 10% เหลือ 5% โดยถึงแม้ KFHEUROP-A ปรับลดลงมามากแล้ว แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปมีความเชื่อมโยงกับรัสเซียอยู่มาก โดยปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน KF-HUSINDX 5% สู่ 15% เนื่องจากตลาดหุ้นมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนหลังตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน KFACHINA-A 5% สู่ 15% เนื่องจากรัฐบาลจีนทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสงครามการค้ากับสหรัฐมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี
ที่มา: เอกสารอัปเดตพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่: 31 พฤษภาคม 2022
ที่มา: เอกสารอัปเดตพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่: 31 พฤษภาคม 2022
กองทุนแนะนำสำหรับการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์/ภูมิภาค
กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ
- กองทุนกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง – ยาว ยังคงจะเผชิญกับความผันผวนในระดับสูงมากต่อไป จากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐที่กำลังเร่งการปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเริ่มลดขนาดงบดุลในเดือนมิ.ย. นี้ ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทั่วโลกยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลักในตลาดตราสารหนี้ โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับ 50 bps ในการประชุม 2 ครั้งถัดไป
กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ
- กองทุนเพิ่มอายุเฉลี่ยขึ้นเล็กน้อย ในส่วนของตราสารหนี้สหรัฐฯ ระยะกลาง และลดการลงทุนในจีนลง โดยยังคงการลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ เพื่อลดผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน และลงทุนในสกุลเงินตลาดเกิดใหม่บางประเทศที่น่าจะได้รับผลประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น เช่นบราซิล และ เม็กซิโก
กองทุนตราสารทุนในประเทศ
- กองทุนที่เน้นการเฟ้นหาหุ้นที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละภาวะตลาด มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีในระยะกลางถึงยาว ตามผลการดำเนินของบริษัทฯที่กองทุนคัดเลือกลงทุน
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ Developed Market Equity
- ภาพตลาดโดยรวมยังคงมีความผันผวน จึงยังแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน โดยปกติกองทุนจะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาด เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง รายได้และกำไรเติบโตสม่ำเสมอ
- ตลาดยุโรปยังคงมีทิศทางผันผวน โดยได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัว จากทั้งราคาพลังงานและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากปัญหา Supply chain disruption นอกจากนี้ ทางยุโรปอาจมีการพิจารณาลดการใช้พลังงานจากรัสเซียลงภายในปีนี้ โดยอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ธนาคารกลางยุโรปต้องดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น โดยอาจมีการขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ด้านการเมืองระหว่างประเทศยังคงยืดเยื้อหลังทางรัสเซียและยูเครนยังไม่สามารถเจรจายุติสงครามได้
- ตลาดจีนเจอแรงกดดันอีกครั้งหลังจากรัฐบาลจีนใช้มาตรการ Zero Covid โดยเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นในหลายพื้นที่สำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid 19 โดยมาตรการที่เข้มงวดขึ้นทำให้ตลาดมองว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้จะมีทิศทางชะลอตัว อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลจีนออกมาย้ำว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อให้จีนสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายในปีนี้ ประกอบกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นของธนาคารกลางจีนเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
KFHHCARE :
- Healthcare เป็นอุตสาหกรรมที่มีลักษณะเชิงรับ หรือมีความ มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ราคาไม่ได้แพง ขณะที่ Earnings เติบโตได้สม่ำเสมอและต่อเนื่อง
- กองทุนลงทุนในกองทุนต่างประเทศ iShares Core S&P 500 ETF โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 Index เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนของกองทุน
ที่มา: เอกสารอัปเดตพอร์ต Krungsri The Masterpiece วันที่: 31 พฤษภาคม 2022
หมายเหตุ:
- กองทุน KFGBRAND-A, KFGBRAND-D, KF-EUROPE, KFACHINA-A ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- กองทุน KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFAINCOM-A, KFAINCOM-R, KF-HUSINDX, และ KF-HEUROPE ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ กองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน อาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กองทุนอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (non-investment grade) หรือไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated bond) ผู้ลงทุนจึงอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้รับชำระคืนเงินต้น และดอกเบี้ย เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูลแต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 0 2657 5757