แบงก์ชาติอังกฤษ (BOE) ขึ้นดอกเบี้ยอีก 25 bps สู่ระดับก่อนเกิดโควิดที่ 0.75% หวังสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมส่งสัญญาณเข้มงวดน้อยลง
เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) 8 ใน 9 ของคณะกรรมการนโยบายการเงินอังกฤษโหวตให้ขึ้นดอกเบี้ยธนาคารกลางจาก 0.5% เป็น 0.75% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด และเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
โดยมี Jon Cunliffe รองผู้ว่าการ BOE เพียงคนเดียวที่โหวตให้คงอัตราดอกเบี้ย โดยเตือนว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงอยู่แล้วในตอนนี้
ชาวอังกฤษกำลังเผชิญกับราคาพลังงานที่แพงขึ้น จากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน โดยตอนนี้แรงกดดันต่องบประมาณภาคครัวเรือนอังกฤษน่าจะมากกว่าที่ BOE เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า จะสูงกว่าสถิติในรอบ 30 ปี
BOE ระบุว่า แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อในระยะกลาง ซึ่งตอนนี้เงินเฟ้ออังกฤษพุ่งแตะ 7.1% ในเดือน ก.พ. สู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และสูงกว่าระดับเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% โดย BOE คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในเดือน เม.ย. จะสูงถึง 7.25%
BOE มองว่า เงินเฟ้อคาดการณ์ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดความเสี่ยงที่การเติบโตของราคาและค่าจ้างจะไปผลักดันเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะยาว
นอกจากนี้ BOE ยังได้ส่งสัญญาณเข้มงวดน้อยลงเนื่องจากกังวลผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะก่อนหน้านี้ตลาดต่างเดิมพันว่า BOE จะขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 2% ภายในสิ้นปีนี้
ส่งผลให้เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเกือบ 1 เซนต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และราคาพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษพุ่งสูงขึ้น หลังนักลงทุนปรับลดเดิมพันที่ว่า BOE จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้
BOE กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะกระชับนโยบายการเงินให้เข้มงวดเพิ่มเติมในกี่เดือนข้างหน้า แต่ตอนนี้มีความเสี่ยงจากทั้ง 2 ด้าน โดยการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะกลาง
Benjamin Nabarro นักเศรษฐศาสตร์ของ Citi กล่าวว่า BOE ส่งสัญญาณนโยบายการเงินเข้มงวดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแตกต่างกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางยุโรปก่อนหน้านี้
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel