Zaporizhzhia ของยูเครนซึ่งเป็น ‘โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่สุดในยุโรป’ ได้รับการยืนยันความปลอดภัยแล้ว โดยหน่วยงานดับเพลิงของยูเครนสามารถเข้าไปควบคุมสถานการณ์ได้ และไม่มีรายงานการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีในบริเวณดังกล่าว
หลังมีรายงานว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ถูกโจมตีจากการทิ้งระเบิดของรัสเซีย เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารฝึกอบรมพนักงาน ท่ามกลางกองกำลังของปูตินกำลังเดินหน้าโจมตีเมืองต่างๆ ทั่วยูเครน
โรงงาน Zaporizhzhia เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าหลักราว 20% ของไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในยูเครน และมีเครื่องปฏิกรณ์ 6 จากทั้งหมด 15 เครื่องทั่วยูเครน ซึ่งหากเกิดการระเบิดขึ้น ผลกระทบอาจรุนแรงว่าภัยพิบัติเชียร์โนบีลเมื่อ 36 ปีที่แล้ว ถึง 10 เท่า
Dmytro Kuleba รมว.ต่างประเทศของยูเครนเรียกร้องให้กองทัพรัสเซียหยุดยิง และได้แจ้งกับสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) แล้วว่า อุปกรณ์สำคัญไม่ได้รับความเสียหาย และบุคลากรของโรงงานกำลังบรรเทาสถานการณ์
ด้านปธน.โจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับปธน.โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนหลังเกิดเหตุดังกล่าว โดยผู้นำทั้งสองเรียกร้องให้รัสเซียหยุดปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ เพื่อให้นักดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินสามารถเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวได้
ผู้อำนวยการทั่วไปของ IAEA ได้เตือนถึงอันตรายขั้นรุนแรงหากเครื่องปฏิกรณ์ถูกโจมตี ขณะที่ทางยูเครนระบุว่า ยังไม่พบรายงานการเปลี่ยนแปลงของระดับรังสึ
สถานการณ์ดังกล่าวน่ากังวลขนาดไหน?
Mark Nelson กรรมการผู้จัดการของ Radiant Energy Fund กล่าวว่า ถ้าพูดถึงเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพนอกโรงงานตอนนี้ยังไม่น่ากังวล แต่ถ้าการตอบสนองฉุกเฉินของโรงงานถูกปิดลง ซึ่งต้องไม่ใช่แค่การถูกยิงโดยบังเอิญจากอาวุธเบา สิ่งที่แย่ที่สุดที่เป็นไปได้คือ ความเลวร้ายแบบอุบัติเหตุนิวเคลียร์เกาะทรีไมล์ (TMI) ที่เคยเกิดขึ้นในปี 1979
การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้ตลลาดหุ้นร่วงหนัก โดยดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์สร่วงเพิ่ม 0.6% หลังร่วง 1.7% ก่อนหน้านี้ โดยเช้านี้ (4 มี.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ ดัชนี Hang Seng ฮ่องกง -2.57%, ดัชนี Nikkei 225 ญี่ปุ่น -2.09%, ดัชนี CSI 300 จีน -0.92% และดัชนี Kospi เกาหลีใต้ -1.18%
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel