ตลาดหุ้นอินเดียร่วงแรง โดยดัชนี Sensex ปรับตัวลง 3.18% และดัชนี Nifty 50 ปรับตัวลง 3.27% จากความกังวลว่าโอมิครอนอาจแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว รวมถึงแรงเทขายหุ้นในช่วงก่อนวันหยุดสิ้นปี
ดัชนี Sensex ร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และเป็นการปรับตัวลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ พ.ค. 2020 โดยทั้ง Sensex และ Nifty 50 ลดลงมากกว่า 10% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา
Vishal Wagh หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ของ Bonanza Portfolio กล่าวว่า ตลาดกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล และมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีอ้างอิงจะร่วงต่ออีก 5-6%
ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวลงหลังมีความกังวลว่าการแพร่ระบาดของโอมิครอนอาจทำให้การล็อกดาวน์หรือการควบคุมอย่างเข้มงวดกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2021 ดัชนี Sensex ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของธนาคารกลางอินเดีย และการเข้าซื้อหุ้นครั้งแรกของนักลงทุนหน้าใหม่หลายล้านคน
โดยดัชนี Sensex ยังปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 110% จากระดับต่ำสุดในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นเวลาหุ้นทั่วโลกร่วงแรงจากการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยอินเดียเป็นตลาดหุ้นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ฟื้นตัวได้ดีที่สุด
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Goldman Sachs และ Nomura ได้ปรับลดมุมมองต่อหุ้นอินเดียลงจากมูลค่าหุ้นที่แพง โดย Forward P/E ของดัชนี Sensex สูงถึง 21 เท่า เทียบกับ 12 เท่าของดัชนี MSCI Emerging Markets โดยตั้งแต่ 1-16 ธ.ค. มีแรงเทขายในหุ้นอินเดียจากนักลงทุนต่างชาติแล้ว 1,100 ล้านดอลลาร์
Vikas Gupta นักกลยุทธ์จาก Omniscience Capital กล่าวว่า ตอนนี้เหมือนว่าทุกสิ่งกำลังรวมอยู่ที่ตลาดอินเดีย ตั้งแต่แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติไปจนถึงความผันผวนจากโอมิครอน โดยคาดว่าความผันผวนจะยังคงมีอยู่ในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้า เนื่องจากผู้จัดการกองทุนกำลังรีเซตพอร์ตการลงทุนเพื่อทำกำไรก่อนปีใหม่
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel