หากใครอยากลงทุนในหุ้นเมื่อนโยบายการเงินอาจกำลังเปลี่ยนทิศและอาจสร้างความผันผวน กองทุน M-EDGE ถือเป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะลงทุนในหุ้นคุณภาพ คัดเน้น ทนทานต่อทุกสภาวะตลาด
สรุปแนวโน้มตลาดและเศรษฐกิจ
- ในฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว อัตราเงินออมส่วนเกินในระบบค่อนข้างสูง โดย GDP โลกคร่าว ๆ อยู่ที่ 95 ล้านล้านดอลลาร์ มีเงินออมส่วนเกิน (Excess saving) ประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์ (คิดเป็นประมาณ 5.40% และครึ่งหนึ่งอยู่ในสหรัฐฯ) ที่อาจถูกผลักไปเป็น Demand สร้างการจับจ่ายใช้สอย
- อัตราเงินออมสะสมส่วนเกินเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ของ GDP โลก จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ในขณะที่ PMI อยู่ในช่วงขยายตัว (มากกว่า 50%) นอกจากนั้นจากอัตราการจ้างงานกำลังกลับเข้าสู่ระดับเต็มที่ซึ่งจะส่งผลให้การใช้จ่ายและการบริโภคสูงขึ้น
- เศรษฐกิจประเทศอื่น ๆ อาจฟื้นตัวตามต้นแบบอย่าง New Zealand ที่เงินออมส่วนเกินลดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ลดลงสู่ภาวะปกติ
- ในอนาคตดัชนีโดยรวมน่าจะปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องแม้มีความผันผวน โดยจะมีหุ้นบางกลุ่มสามารถปรับตัวได้ต่อ ในขณะที่บางตัวอาจมีความผันผวน หรืออาจเกิด Sector Rotation ได้
- จากเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ข้างต้นในช่วงนี้ การลงทุนในหุ้นคุณภาพ งบดุลแข็งแกร่ง มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี ถึงแม้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะมีการเติบโตของรายได้ที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ทำความรู้จักกองทุน M-EDGE
ปรัชญาการลงทุน
- เฟ้นหาบริษัทที่เป็นผู้นำตลาด สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว ถือหุ้นใหญ่ผสม Mid-cap เติบโตสูง โดยเน้นหุ้นที่สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้ดี
- เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีคุณภาพเติบโตได้ในระยะยาว อยู่ในตลาดที่ยังเติบโตได้ มีการวิเคราะห์ความเสี่ยง รวมถึงปัจจัยด้าน ESG
- ลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าน่าสนใจ สกรีนหุ้นอย่างเข้มข้นจาก 3,500 ตัว จนเหลือเพียง 30 ตัว
- ปรับพอร์ตในสัดส่วนไม่มาก ในปีหนึ่งปรับหุ้นเฉลี่ย 6 ตัว จากทั้งหมด 30 ตัว และเน้นลงทุนในระยะยาว
- กองทุนเน้นลงทุนในธุรกิจที่อยู่ในช่วง Core ซึ่งมีความมั่นคงระดับหนึ่ง เติบโตได้ 10%-20% งบดุลแข็งแกร่ง หนี้น้อย และอาจมีลงทุนบางส่วนในส่วนของ Future ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเติบโตได้สูงแต่ก็มีความผันผวน ในขณะที่สัดส่วนน้อยจะลงทุนในส่วนของ Improvement ที่ฟื้นตัวกลับมาได้ถึงแม้จะเติบโตไม่สูง ส่วนบริษัท Early stage กองทุนจะไม่ลงทุน เพราะเป็นการลงทุนที่อนาคตยังไม่ชัดเจนและมีความผันผวนสูง
สัดส่วนหลักในพอร์ตของกองทุน BlackRock Global Long-Horizon Equity Fund
- สัดส่วนลงทุนปัจจุบันเน้นหุ้นกลุ่มการเงินหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประกัน ด้านการใช้จ่าย หรือ กลุ่มที่เป็นตลาดซื้อขายสินทรัพย์คล้ายตลาดหลักทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังไม่ถูก Disrupt
ตัวอย่างหุ้นในพอร์ต
- OTIS เป็นหุ้นลิฟต์สำหรับตึกสูง ๆ ซึ่งธุรกิจลิฟต์อาจต้องมีบริการบำรุงรักษา (Maintenance) จึงทำให้สามารถสร้างรายได้ ได้อย่างต่อเนื่อง เกิด Recurring income จากการใช้บริการซ้ำ ๆ นำเงินไปลงทุนเยอะเพื่อเติบโตต่อเนื่องได้ มี ROIC ถึง 20% ชี้ให้เห็นว่าลงทุนไปไม่สูญเปล่า บริษัท ยังไม่อิ่มตัว
ผลตอบแทนย้องหลัง
- กองทุนหลัก BGF Long-Horizon Equity Fund (จุดสีฟ้า) ทำผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีได้ 21% ต่อปี ในขณะที่ดัชนีหุ้นมีผลตอบแทนที่ 16% ส่วนความผันผวนอยู่ในระดับที่เท่ากันกับดัชนีหุ้นโลก
สรุปจุดเด่นกองทุน M-EDGE
- เน้นบริษัทที่สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างยั่งยืน
- เน้นสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม เลือกหุ้นประมาณ 30 ตัวจาก 3,500 ตัว
- เน้นหุ้นที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นผู้ชนะและมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว
- บริหารโดยทีมงานจาก BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ขนาดใหญ่
ความเสี่ยงที่ควรรู้
- ความเสี่ยงจากธุรกิจที่ลงทุนด้านผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัท
- ความเสี่ยงด้านการขาดสภาพคล่องและอาจไม่สามารถซื้อขายตราสารได้ตามต้องการ
- ความเสี่ยงด้านความผันผวนทางราคา
- ความเสี่ยงการอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนต่างประเทศ
- ความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศที่มีความเฉพาะตัว
สำหรับนักลงทุนที่สนใจกองทุน M-EDGE
กองทุน M-EDGE เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นคุณภาพในช่วงที่ตลาดอาจมีความผันผวน กองทุนจะมีรูปแบบสะสมมูลค่า M-EDGE หากต้องการซื้อสามารถติดต่อได้ที่ บลจ. MFC โทร 02 649 2000 กด 0 หรือ ติดต่อเข้ามาที่ FINNOMENA โทร 02 026 5100
คำเตือน
- ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก
- กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงกับทาง MFC โทร 02 649 2000 กด 0 หรือ www.mfcfund.com