นักลงทุนกำลังจับตาการทำงานของวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาเรื่องแผนงบประมาณ หลังเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างงบประมาณขยายเพดานหนี้ ขณะที่สหรัฐฯ กำลังใกล้เข้าสู่การผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนในตอนนี้
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ด้วยมติ 219 ต่อ 212 เสียง สมาชิกพรรคเดโมแครตทั้งหมดสนับสนุนร่างดังกล่าว ยกเว้น Jared Golden จากรัฐเมน และ Kurt Schrader จากรัฐออริกอน ในขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันทั้งหมด ยกเว้น Adam Kinzinger จากรัฐอิลลินอยส์ ไม่สนับสนุนการขยายเพดานหนี้
ตลาดคาดว่าวุฒิสภารีพับลิกันจะคัดค้านความพยายามดังกล่าวของเดโมแครต เพราะต้องการให้เดโมแครตรวมการขยายเพดานหนี้ไว้เป็นส่วนหนี่งของแผนการลงทุนในสังคมและนโยบายด้านภูมิอากาศ
Janet Yellen รมว.คลัง กล่าวว่า เงินสดคงคลังของรัฐบาลจะหมดภายในวันที่ 18 ต.ค. นี้ และหากสภาคองเกรสล้มเหลวการขยายเพดานหนี้ในวันศุกร์ (1 ต.ค.) จะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้จนทำให้สูญเสียงานหลายล้านตำแหน่ง กระทบผลประโยชน์ของรัฐบาล และมีโอกาสเกิดหายนะในตลาดการเงิน
นักวิเคราะห์จาก Moody’s Analytics คาดการณ์ว่า หากสหรัฐฯ ไม่สามารถขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ จะทำให้เศรษฐกิจถดถอย ประชาชนกว่า 6 ล้านรายจะตกงาน และส่งผลกระทบรุนแรงต่อตลาดหุ้น จนทำให้ครอบครัวอเมริกันอาจต้องสูญเสียสินทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า สภาจะออกกฎหมายขยายเพดานหนี้เพื่อปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐฯ และประชาชนชาวอเมริกันจากหายนะของการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม มีโอกาสสูงที่ร่างกฎหมายจะไม่สามารถผ่านอนุมัติจากวุฒิสภา
เดโมแครตมีเส้นตายที่ต้องผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ก่อนวันศุกร์นี้ (1 ต.ค.) ก่อนที่หลายหน่วยงานของรัฐจะถูกปิดตัวลง โดยคาดว่าวุฒิสภาอาจจัดทำมติอนุมัติงบประมาณชั่วคราวแก่รัฐบาลไปจนถึงต้นเดือน ธ.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์
Mitch McConnell วุฒิสภารีพับลิกัน มองว่าการขยายเพดานหนี้ควรมีข้อตกลงที่เป็นเอกฉันท์ และคัดค้านการเคลื่อนไหวของ Chuck Schumer วุฒิสภาเดโมแครตที่เสนอให้พรรคเดโมแครตจัดการกับเพดานหนี้โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากรีพับลิกัน
รีพับลิกันต้องการให้เดโมแครตรวมการขยายเพดานหนี้ไว้ในร่างงบประมาณมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ และต้องการให้การขึ้นภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นจุดอ่อนของเดโมแครตในการเลือกตั้งช่วงกลางปี 2022
ข้อมูลจากกระทรวงการคลังชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่ปี 1960 สภาคองเกรสได้ขยายเพดานหนี้มาแล้วถึง 78 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดคือปี 2019 โดยการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้มักมาพร้อมความวุ่นวาย อย่างปี 2011 ที่ความขัดแย้งเรื่องเพดานหนี้และการขาดดุลงบประมาณ ทำให้ Standard & Poor ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก
Mitch McConnell ย้ำว่า รีพับลิกันจะสนับสนุนร่างกฎหมายระดมทุนของรัฐบาล แต่จะไม่สนับสนุนการเพิ่มเพดานหนี้
Chuck Schumer ยืนกรานว่าเดโมแครตจะไม่รวมการขยายเพดานหนี้ไว้ในแผนงบประมาณขนาดใหญ่ของพรรคที่วางแผนจะผ่านอนุมัติแบบเสียงข้างมากปกติ (Simple Majority Vote)
โดยล่าสุด จากความขัดแย้งภายในพรรค ทำให้เดโมแครตได้แก้ไขงบประมาณบางส่วนของโครงการมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้สามารถผ่านร่างกฎหมายบางอย่างได้โดยไม่ต้องลงคะแนนเสียงจากรีพับลิกัน
Chuck Schumer กล่าวว่า การเริ่มต้นกระบวนการใหม่จะทำให้การขยายเพดานหนี้ล่าช้า ซึ่งเสี่ยงมากที่จะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2021/09/29/debt-ceiling-pelosi-says-house-will-vote-to-prevent-us-default.html
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel