ในการประชุมเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศคงนโยบายการเงิน โดยระบุคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการใกล้ 0% เช่นเดิม แต่ระบุว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด และได้ปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจของปีนี้ลงเล็กน้อย
คณะกรรมการ Fed ระบุว่า จะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางส่วนที่ Fed ดำเนินไว้ในช่วงวิกฤติการเงิน แต่ไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด
Fed เปิดเผยหลังการประชุมว่า หากการเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อไปในวงกว้างตามที่คาดไว้ คณะกรรมการอาจเริ่มชะลอการซื้อสินทรัพย์ในเร็วๆ นี้ โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่คาดว่า Fed จะประกาศ QE Tapering ในเดือน พ.ย. และเริ่มดำเนินการในเดือน ธ.ค.
Jerome Powell ประธาน Fed แถลงหลังการประชุมว่า ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ จนกว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ควรจะเป็น โดยจะดำเนินการ Tapering อย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นในเดือน พ.ย. และสิ้นสุดมาตรการช่วงกลางปีหน้า
สมาชิก Fed มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ใกล้ 0% แต่เริ่มมีสมาชิกจำนวนมากขึ้นที่มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกควรเกิดขึ้นในปีหน้า
Jerome Powell กล่าวว่า Fed ใกล้บรรลุเป้าหมายความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในด้านอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงาน โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่ก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดตอบรับผลประชุม Fed หุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวผสมผสาน
ในการประชุมครั้งนี้ Fed ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจากการประชุมเดือน มิ.ย. อย่างมีนัยสำคัญ โดยปรับลดแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจ และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อขึ้น
คณะกรรมการ Fed ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ เหลือเพียง 5.9% จาก 7% ในขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2022 สู่ 3.8% จาก 3.3% และคาดการณ์ GDP ปี 2023 ที่ 2.5%
Fed เพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้สู่ 3.7% จาก 3% และเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2022 สู่ 2.3% จาก 2.1% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในปี 2023 อยู่ที่ 2.2%
สำหรับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่รวมหมวดอาหารและพลังงาน Fed คาดว่าจะอยู่ที่ 4.2% จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 3.4% และคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะลดลงเหลือ 2.2%
ในการประชุมแจ็คสันโฮล เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา Jerome Powell กล่าวว่าได้ Fed บรรลุเป้าหมายด้านเงินเฟ้อ และจะเริ่มลดมาตรการซื้อพันธบัตรมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน
แม้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน ก.ค. พุ่งสู่ 3.6% สูงสุดในรอบ 10 ปี แต่ Jerome Powell มองว่าแรงกดดันด้านราคาจะลดลงเนื่องจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน, การขาดแคลนสินค้า และอุปสงค์ที่สูงผิดปกติจะเริ่มกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด
ในขณะที่ตัวเลขคาดการณ์การว่างงานไม่ดีนัก โดยคาดว่าอัตราการว่างงานในสิ้นปีจะอยู่ 4.8% จาก 5.3% ในปัจจุบัน หลังตัวเลขการจ้างงานในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม Jerome Powell ไม่ได้ต้องการเห็นตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง เพื่อเริ่มดำเนินนโยบายแบบเข้มงวด
——————-
- Facebook: https://finno.me/the-opp-fb
- Youtube: https://finno.me/youtube-channel